สงครามการค้าโลกที่ ประธานาธิบดีทรัมป์ ก่อขึ้น แม้จะมีเป้าหมายใหญ่ที่ “จีน” แต่ผลกระทบกลับกระจายวงกว้าง ประเทศไทยก็ไม่รอด ท่ามกลางความวิตกของคนทั่วโลก ผมได้รับเอกสารข่าวจาก “วารสารการเงินธนาคาร” สื่อด้านการเงินการลงทุนชั้นนำของไทย วันศุกร์ที่ 21 มีนาคมนี้ เวลา 13.30–16.00 น. จะมีการระดมกูรูผู้รู้มาวิเคราะห์เจาะลึกในหัวข้อ “เจาะลึกสินทรัพย์ดาวรุ่ง รับทรัมป์ป่วนโลก” ที่เวที Next Tech @ SIAM Paragon ชั้น 4 สยามพารากอน ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://forms.gle/hpmhsTFTGgguJoxT8 ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook การเงินธนาคารการสัมมนาครั้งนี้เป็นการชี้ให้เห็น “โอกาสในวิกฤติ” แม้สงครามการค้าจะดำเนินต่อไป แต่ก็ยังมีโอกาสให้ลงทุนทำกำไรได้เสมอ อย่างเช่นราคาทองที่พุ่งเป็นจรวดหัวข้อสัมมนาแต่ละกูรูล้วนน่าสนใจ เริ่มด้วย ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ที่คนรู้จักกันดี จะวิเคราะห์ในหัวข้อ “ทรัมป์ป่วนโลก พลิกวิกฤติสู่โอกาส” ได้อย่างไร ต่อด้วย คุณกีรดิต หิรัณยศิริ รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุข ในหัวข้อ “ทองคำ 50,000 บาท มาแน่แค่ปากซอย” วันเสาร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำโลกพุ่งขึ้นไปที่ 2,993.86 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ใกล้ถึง 3,000 ดอลลาร์อย่างที่กูรูคาดไว้ เรื่องหุ้น คุณอรรถนันต์ ปิยเศรษฐ์ ผอ.อาวุโสฝ่ายหลักทรัพย์ต่างประเทศ บล.บัวหลวง และ คุณธรรมรัตน์ กิตติสิริพัฒน์ ผอ.ฝ่ายกลยุทธ์หุ้นต่างประเทศ บล.เอเซีย พลัส จะวิเคราะห์ให้เห็น “หุ้นนอกรายย่อยก็ทำกำไรได้” ปิดท้ายด้วย “กองทุนหุ้นนอกมาแรงกู้หุ้นไทยติดดอย” โดย คุณตราวุทธิ์ เหลือสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ ล้วนแต่กูรูแถวหน้าทั้งสิ้นสงครามการค้าโลกเพิ่งจะเริ่มต้น กว่าจะเห็นผลคงเป็นครึ่งปีหลัง ประเทศที่จะเดือดร้อนก่อนเพื่อนก็คือสหรัฐฯ โดยเฉพาะ “ชาวอเมริกัน” กว่า 340 ล้านคน กว่าจะได้เห็น America Great Again ก็เดือดร้อนกันสาหัส สินค้าอุปโภคบริโภคนำเข้าแพงขึ้นอย่างไร้เหตุผล ของผลิตในอเมริกายิ่งแพง ไม่รู้ทรัมป์ครบเทอมแล้วจะได้เห็น “อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” หรือไม่ ในสงครามการค้าคงไม่มีใครให้สหรัฐฯทำฝ่ายเดียว ทุกชาติที่ถูกสหรัฐฯเล่นงาน ต้องตอบโต้อย่างรุนแรงเช่นเดียวกัน อย่างที่เกิดขึ้นแล้วใน แคนาดา จีน ยุโรปสงครามเพิ่งเริ่ม มหาเศรษฐีอเมริกันก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว ท่านผู้อ่านคงเห็นแล้ว คนที่ยืนหน้าจ๋อยอยู่กับทรัมป์สองคนที่หน้าทำเนียบขาวกับรถยนต์เทสลาสีแดง เขาคือ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีคู่ใจทรัมป์ เจ้าของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา บริษัทส่งจรวดสเปซเอ็กซ์ที่ล้มเหลวมาแล้วสองครั้ง การขึ้นภาษีทำให้หุ้นเทสลาดิ่งเหวร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 5 ปี จากราคาสูงสุดกว่า 479 ดอลลาร์ เหลือ 230 ดอลลาร์ต่อหุ้น ร่วงลงไปกว่า 50% มูลค่าหุ้นของเทสลาหายไป กว่า 800,000 ล้านดอลลาร์ กว่า 27.2 ล้านล้านบาท ภายในวันเดียว มาร์เก็ตแคปร่วงจาก 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 7 แสนกว่าล้านดอลลาร์ ชาวอเมริกันก็ต่อต้าน อีลอน มัสก์ เทขายหุ้นเทสลาไม่ซื้อรถยนต์เทสลา จน ประธานาธิบดีทรัมป์ ต้องช่วยซื้อรถเทสลาสีแดงไปหนึ่งคันปลอบใจ และขู่ชาวอเมริกันที่ต่อต้านมัสก์ล่าสุด บริษัทรถยนต์เทสลา ของ อีลอน มัสก์ ได้ส่งจดหมายที่ไม่ลงชื่อไปถึง “ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ” เตือนว่า ผู้ส่งออกสหรัฐฯจะได้รับความเสียหายจากการตอบโต้ของประเทศต่างๆ ที่ถูกทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าในจดหมายของเทสลาบอกว่า มาตรการภาษีของทรัมป์กำลังทำร้ายแบรนด์เทสลาอย่างหนัก ทำให้ยอดขายตก (สิ้นปี 2567 รายได้เทสลาลดลง 70% กำไรสุทธิลดลง 71%) การบังคับให้เปลี่ยน supply chain เป็นผู้ผลิตในสหรัฐฯ โดยเฉพาะชิ้นส่วนและส่วนประกอบในรถยนต์ ก็เป็นสิ่งที่หายากหรือหาไม่ได้เลยในสหรัฐฯ อนาคตเทสลาทำท่าจะแย่หนัก ผมก็เอามาฉายเป็นหนังตัวอย่าง สงครามการค้าเพิ่งเริ่ม สหรัฐฯก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว แถมยังเป็นสมุนคู่ใจทรัมป์ เสียอีก “โอกาสในวิกฤติ” มีจริงๆครับ ต้องไปฟังครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม