“ท้าทายใหม่เรื่องประเทศไทยในอนาคต” เป็นหัวข้อวิจัย โดย ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ กับ รศ.ดร.สมบัติ กุสุมาวลี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นำเสนอต่อสำนักงานวิจัยแห่งชาติ (วช.) ที่ดำเนินการระหว่างเดือน ต.ค.62–63 ค้นหาฉากทัศน์ที่เป็นไปได้มากที่สุดของการเมืองช่วง 10–20 ปี เพื่อออกแบบการเมืองที่พึงปรารถนาผ่านการสำรวจแวดล้อมเชิงลึก วิเคราะห์ความสลับทับซ้อนของอนาคต โดยระดมความเห็นผู้นำสาขาอาชีพต่างๆ หลากหลาย รวมทั้งผู้มีความรอบรู้จากภาคส่วน ต่างๆ โดยสะท้อน 90 ปี ประชาธิปไตย ที่ตรงกับเดือน มิ.ย.65 พบว่าประตูยังเปิดต้อนรับการมาเยือนของรัฐประหาร สงครามกลางเมือง รัฐล้มเหลว ปฏิรูปการเมืองปัจจัยหนึ่งมาจากฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหารขาดการพัฒนา ไม่เป็นที่มุ่งหวังของประชาชน และยังเกิดปรากฏการณ์ขาดเสถียรภาพทางการเมือง โดยมีสาเหตุสำคัญที่สุดมาจากการที่สังคมไทยยังไม่ตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับกติกาการเมืองและดุลยภาพของศูนย์อำนาจ ตามจารีต ประเพณีกับศูนย์อำนาจประชาชน ยังไม่ลงตัวการเมืองไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า คือถึงปี 73 มีฉากทัศน์ที่ทาบซ้อนกัน เช่น ฉากทัศน์การเมืองวนลูปอยู่ในความขัดแย้ง หากไม่ปฏิรูปการเมืองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะภาคประชาชนนิ่งเฉย ไม่รวมตัว ให้เกิดพลังแห่งการปฏิรูปจะทำให้การเมืองยังเป็นเรื่องของกลุ่มผลประโยชน์พรรค การเมืองเก่าและใหม่ที่ต่อสู้แข่งขัน ขัดแย้ง แตกแยกและอีกฉากทัศน์ที่เหมาะกับการปฏิรูปประเทศ คือโครงสร้างเศรษฐกิจและการเมืองโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงทำให้เกิด ทัศนะต่อการเมืองในยุคประชาธิปไตยใหม่ ตอบโจทย์ประเทศ ตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม ทำให้ต่อไปการเมืองจะไม่ใช่เป็นเรื่องของตัวละครหลักที่เป็นกลุ่มก้าวหน้า หรือกลุ่มอนุรักษ์นิยมขณะที่ตัวละครหลักในทางการเมืองกลุ่มผลประโยชน์ที่มีเอี่ยวทาง การเมืองมีพฤติการณ์แทรกแซงองค์กรอิสระ ซึมลึกเข้าไปคลุกวงในกระบวนการยุติธรรม ใช้เม็ดเงินเข้าไปบริหารจัดการสื่อมวลชน ในยุคที่อุตสาหกรรมสื่อกำลังเตรียมปรับตัวครั้งใหญ่ ซึ่งขบวนการเหล่านี้กำลังก่อให้เกิดวิกฤติการเมืองระลอกใหม่ตามมาจึงถึงเวลาของกระบวนการประชาธิปไตยใหม่ ที่เป็นการเมืองที่เปิดกว้างให้คนทุกระดับ ทุกพื้นที่ ทุกสาขาอาชีพ มีส่วนร่วมเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลในการขับเคลื่อนให้เกิดปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ เพื่อออกแบบโครงสร้างทางการเมืองและโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ของประเทศไทยในอนาคตคลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม