ในหนังสือ “เบื้องแรกประชาธิปตัย” (สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2559) พล.ท.ประยูร ภมรมนตรี หนึ่งในผู้ร่วมเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 บันทึกพระดำรัสวิจารณ์ ของจอมพล สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ไว้ตอนหนึ่งเช้า 24 มิ.ย.2475 เวลา 08.00 น. พ.ต.หลวงพิบูลสงคราม พล.ต. พระประสาทพิทยายุทธ ฯลฯ ได้นำจอมพล สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิตมาในรถถัง ส่งให้ข้าพเจ้าที่หน้าประตูพระที่นั่งอนันต์ข้าพเจ้าถวายคำนับ เชิญเสด็จฯ ทรงจ้องข้าพเจ้าด้วยพระเนตรดุเดือด ตรัสว่า“ตาประยูรแกเอากับเขาจริงๆ พระยาอธิกรณ์ประกาศบอก ฉันไม่เชื่อ ฉันตั้งชื่อทำขวัญให้แกเมื่อเกิด ฉันเลี้ยงแกมาตั้งแต่เด็ก โกรธฉันที่ไม่ไปงานเผาศพพ่อแกใช่ไหม”แล้วก็ทรงเหลียวมองดูหน่วยทหารที่พลุกพล่านเต็มลานพระบรมรูปในที่สุดข้าพเจ้าเร่งให้เสด็จฯลงจากรถถัง ทรงสำทับถาม “จะเอาฉันไปไหน” ข้าพเจ้ากราบทูลยืนยัน “เชิญเสด็จฯไปประทับในพระที่นั่งเถิดพ่ะย่ะค่ะ รับรองไม่มีภัยประการใด ข้าพเจ้าจะอยู่เฝ้าด้วยตนเอง”เมื่อเข้าไปประทับในที่ประทับด้านหน้า มีนายทหาร พระยาทรงสุรเดช พระยามหาณรงค์ตามเข้าไปห้อมล้อม ข้าพเจ้าให้นายทหารที่คุมหมู่ปืนกลทหารเรือจัดการควบคุมตัวไว้ แล้วปิดพระทวารดังลั่นท่าทางข้าพเจ้าตอนนั้นคงจะป่าเถื่อนมาก สมเด็จฯทรงจ้องมองข้าพเจ้าด้วยความหวาดระแวงพอข้าพเจ้าสำนึกตัวได้ ก็วางปืนแล้วก้มลงกราบขอพระ ราชทานอภัยทรงรับสั่งถามเป็นคำแรก “ใครเป็นหัวหน้า พระองค์บวรเดชใช่ไหม” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ไม่ใช่” ทรงถามว่า “แล้วใครเล่า” ข้าพเจ้าตอบว่า “ยังกราบทูลไม่ได้”ทรงกริ้ว รับสั่ง “ตาประยูร แกเป็นกบฏ โทษถึงต้องประหารชีวิต” แล้วรับสั่งถามต่อ “พวกแกที่ยึดอำนาจนี้ ต้องการอะไร มีความประสงค์อะไร ต้องการปาลิเมนต์ มีคอนสติติวชั่นใช่ไหม” ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “ใช่”ทรงนิ่งสักครู่แล้วรับสั่งถาม “แล้วมันจะดีกว่าที่เป็นเวลานี้หรือตาประยูร”ข้าพเจ้ากราบทูลว่า “อารยประเทศทั่วโลกก็มีปาลิเมนต์กันทั่วไป ยกเว้นแต่อบิสซีเนีย”ทรงถามข้าพเจ้าอายุเท่าไหร่ เมื่อข้าพเจ้ากราบทูลอายุ 32 ก็รับสั่งว่า“เด็กเมื่อวานซืนนี้เอง นี่แกรู้จักคนไทยดีแล้วหรือ แกจะต้องเจอปัญหาเรื่องคนพระราชวงศ์จักรีครองเมืองมา 150 ปีแล้ว รู้ดีว่าคนไทยนี่ปกครองกันได้อย่างไร อ้ายคณะของแกจะเข็นครกขึ้นเขาไหวรึ”ทรงถาม “แกเรียนอะไร” ข้าพเจ้ากราบทูลไปว่า“เรียนรัฐศาสตร์จากปารีส” ทรงสำทับ “อ้อ มีความรู้มาก แกคงรู้จักโรเบสเปียมาราและกันตอง เพื่อนน้ำสบถฝรั่งเศสดีแน่ ในที่สุดมันก็ผลัดกันเอากิโยตีนเฉือนคอกันทีละคนจำได้ไหม ฉันสงสาร ฉันเลี้ยงแกมา นี่แกเป็นกบฏ รอดจากอาญาแผ่นดิน ไม่ถูกตัดหัว แต่จะต้องถูกพวกเดียวกันฆ่าตาย แกจำไว้”บทสนทนาช่วงนี้ยุติลง เมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาไม่น่าเชื่อเลยว่า พระดำรัสวิจารณ์คณะผู้ก่อการ พ.ศ.2475 ต่อมา พ.ศ.2500 เมื่อจอมพล ป.พิบูลสงคราม ต้องลี้ภัยอำนาจคณะปฏิวัติ หนีออกไปทางเขมร...ทุกประการที่คณะราษฎร...ผลัดกันชิงอำนาจ ฆ่าฟันกันเอง ได้รับการยืนยันเป็นจริงผมไม่แน่ใจ หนังสือเบื้องแรกประชาธิปตัย...ที่รวบรวมเรื่องราวลับเฉพาะ นับแต่ “พระราชบันทึกทรงเล่า สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ไปจบที่เรื่องสุดท้าย ท่านผู้นำ จอมพล ป. ถึงแก่อนิจกรรมที่ญี่ปุ่น...จะยังมีเหลือให้ผู้สนใจ...ได้หาซื้ออ่าน...อีกหรือไม่ถ้าสนใจ ลองค้นหาช่องสื่อสารสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ ถามกันดู.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม