บทที่ 9 หนังสือพระเจ้าตากสิน มหาราชแห่งชาติไทย (ส.พลายน้อย เขียน พิมพ์คำ พิมพ์ พ.ศ.2553) เรื่อง สถาปนากรุงธนบุรี ยก...พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขา ตอนโปรดให้ทำกำแพงป้อมค่าย ปี พ.ศ.2314 ดังต่อไปนี้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริว่า กรุงธนบุรียังไม่มีกำแพงเป็นที่มั่นจะป้องกันราชศัตรูหมู่ปัจจามิตร ยังหาเป็นภูมิราชธานีไม่ จึงทรงพระกรุณาให้เกณฑ์ฝ่ายทหารพลเรือนทั้งปวง ตั้งค่ายด้วยไม้ทองหลางทั้งต้น ล้อมพระนครทั้งสองฟากแม่น้ำและให้เกณฑ์ไพร่พลในกรุงแลหัวเมืองมาระดมกันทำค่าย ฝ่ายฟากตะวันตกตั้งแต่มุมกำแพงเก่าไปจนจดวัดบางหว้าน้อย วกลงไปริมแม่น้ำใหญ่ (เจ้าพระยา) ตลอดลงมาจนถึงกำแพงเมืองเก่า ที่ตั้งเป็นพระราชวังแล้วให้ขุดคลองคูข้างหลังเมือง ตั้งแต่คลองบางกอกน้อยมาออกคลองบางกอกใหญ่ (บางตอน คลองบ้านขมิ้น คลองบ้านช่างหล่อ คลองบ้านหม้อ คลองวัดท้ายตลาด) เอามูลดินที่ขุดขึ้นถมเป็นเชิงเทินข้างในทั้งสามด้าน เว้นแต่ด้านริมแม่น้ำ และฟากตะวันออกก็ให้ตั้งค่ายรอบเหมือนกันให้ขุดคลองเป็นคูข้างหลังเมือง ตั้งแต่กำแพงเก่าท้ายป้อมวิไชยเยนทร์ วนขึ้นไปถึงศาลเทพารักษ์หัวโขด ออกแม่น้ำทั้งสองข้าง (คลองคูเมืองเดิม) เอามูลดินขึ้นถมเป็นเชิงเทินทั้งสามด้าน เว้นแต่ด้านริมแม่น้ำ ดุจกัน...ให้เกณฑ์คนไปรื้อเอาอิฐกำแพงเก่า ณ เมืองพระประแดง (ฝั่งแม่น้ำข้างตะวันออก) และกำแพงค่ายพม่า ณ โพธิ์สามต้น กับสีกุก บางไทร ทั้งสามค่าย ขนบรรทุกเรือมาก่อกำแพงและป้อมตามที่ถมเชิงเทินสามด้านทั้งสองฟากเอาแม่น้ำ (เจ้าพระยา) ไว้หว่างกลางเหมือนอย่างพิษณุโลกส.พลายน้อยอธิบาย กำแพงที่ว่าคือกำแพงเก่าท้ายป้อมวิไชยเยนทร์ ป้อมที่นายทหารช่างฝรั่งเศส ชื่อ เดอลามาร์ ควบคุมก่อสร้างแต่ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯ ป้อมนี้อยู่ระหว่างปากคลองตลาดกับวัดพระเชตุพนฯส่วนฝั่งตะวันตก คือที่ตั้งกรุงธนบุรีมีอีกป้อมหนึ่ง เรียกป้อมวิไชยเยนทร์เหมือนกัน ครั้นถึงแผ่นดินพระเจ้าตากสิน โปรดให้เปลี่ยนชื่อป้อมฝั่งตะวันตกเสียใหม่...เป็น ป้อมวิไชยประสิทธิ์ความจริงป้อมวิไชยเยนทร์ ถูกทำลายแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่ไม่สิ้นซาก ครั้นถึงรัชกาลที่ 1 เมื่อจะสร้างกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2326 โปรดให้รื้อป้อมวิไชยเยนทร์และกำแพงเมืองธนบุรีฟากตะวันออกเสียจนหมดนักอ่านบางคนอาจเหมา สมัยรัชกาลที่ 1 นี้ล่ะกระมัง รื้ออิฐเก่าจากอยุธยามาสร้างกรุงเทพฯ ส.พลายน้อย บอกว่า แม้สมัยพระเจ้าตากสินสถาปนากรุงธนบุรีฯ ท่านไม่ได้รื้ออิฐจากอยุธยามาใช้เลยทั้งสองพระองค์ยังคงปล่อยอิฐกำแพงอยุธยาไว้ ในรัชกาลที่ 1 สุนทรภู่ ผ่านอยุธยาก็ยังเห็นยังดูด้วยความเพลิดเพลิน ดังที่ได้แต่งไว้ในนิราศพระบาทว่า“แต่ปู่ย่ายายเราท่านเล่ามา เมื่อแรกศรีอยุธยายังเจริญ กษัตริย์สืบสุริยวงศ์ดำรงโลก ระงับโศกสุขสุดจะสรรเสริญ เราเห็นยับยังแต่รอยก็พลอยเพลิน เสียดายเกิดมาเมื่อเกินน่าน้อยใจ กำแพงรอบขอบคูก็ดูลึก ไม่น่าศึกอ้ายพม่าจะมาได้ ยังให้มันข้ามเข้าเอาเวียงชัย โอ้อย่างไรเหมือนบุรีไม่มีชายมีคำถาม ทำไมพระเจ้าตากสิน ไม่สร้างกรุงธนบุรีให้โอ่อ่าสง่างามสมเป็นราชธานี ส.พลายน้อย บอกว่า เป็นขณะเพิ่งตั้งตัว ผู้คนยังยากจน ชีวิตคนสำคัญกว่าปราสาทราชวังที่สำคัญไทยต้องสะสมอาวุธไว้รบกับพม่า เวลานั้นไทยขาดทองแดงและเหล็กเอามาหล่อปืนใหญ่จะซื้อจากจีนจีนก็ไม่ยอมขาย ต้องเลี่ยงไปขอซื้อกระทะเหล็กแทนวันนี้ 28 ธ.ค. กองทัพเรือ เปิดพระราชวังเดิมให้คนเข้าเยี่ยมชมวันสุดท้าย ใครที่ไปเห็นกรุงธนบุรีกับตา คงรู้ว่ากรุงธนบุรีไม่ได้สร้างเป็นมหานคร แต่สร้างเป็นเมืองพร้อมรบ คนไทยอยู่ยั้งยืนยงมั่นคงถึงวันนี้ ก็เพราะเมืองพร้อมรบเมืองเล็กๆเมืองนี้.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม