ก็เคาะออกมาเรียบร้อย “ค่าแรงขั้นตํ่า” ทั่วประเทศ เริ่มใช้ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป คุณบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ค่าจ้างขั้นตํ่าเพิ่มขึ้นวันละ 7–55 บาท (เฉลี่ยขึ้น 2.9%) แบ่งเป็น 17 อัตรา โดยพิจารณาตาม “ค่าครองชีพ” และ “โครงสร้างทางเศรษฐกิจ” เป็นสำคัญ อัตราสูงสุดวันละ 400 บาท อัตราตํ่าสุดวันละ 337 บาท จังหวัดที่ได้ค่าจ้างสูงสุด วันละ 400 บาท ตามที่รัฐบาลเพื่อไทยหาเสียงเอาไว้มีเพียง 4 จังหวัด 1 อำเภอ คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ภูเก็ต ระยอง และ อ.เกาสมุย จ.สุราษฎร์ธานีจังหวัดที่ได้ขึ้นค่าจ้างขั้นตํ่าสูงเป็นอันดับ 2 วันละ 380 บาท มีเพียง 2 อำเภอ คือ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อันดับ 3 มี 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ที่เหลืออีก 64 จังหวัดได้ขึ้น 2%ก็เป็นอันว่า พรรคเพื่อไทยได้ขึ้นค่าจ้างขั้นตํ่าเป็นวันละ 400 บาท ตามที่หาเสียงไว้ แต่ได้ขึ้นแค่ 4 จังหวัด 1 อำเภอเท่านั้น ไม่ได้ 400 บาททั่วประเทศอย่างที่หาเสียงไว้ การขึ้นค่าแรงขั้นตํ่าเพียง 2.9% คงไม่สามารถกระตุ้นกำลังซื้อระดับรากหญ้าให้ฟื้นขึ้นมาได้ แต่กลับจะส่งผลกระทบต่อ “แรงงานไร้ทักษะ” ทำให้การจ้างงานในอนาคตอาจลดลง และรัฐบาลก็ไม่มีนโยบายต่อเนื่องที่จะพัฒนาแรงงานไร้ทักษะให้มีทักษะในอนาคต เพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นตามทักษะ แถมยังเสี่ยงตกงานหรือหางานทำไม่ได้ในอนาคตอีกต่างหาก ซึ่งเป็นผลกระทบที่จะตามมาต่อเนื่องเมื่อต้นเดือนธันวาคม ท่านผู้อ่านคงจำได้ เจนเซน หวง มหาเศรษฐีโลก ซีอีโอผู้ก่อตั้ง NVIDIA บริษัทผลิตชิปเอไอที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาเยือนไทย เพื่อร่วมเปิดตัวพาร์ตเนอร์และชิปเอไอตัวใหม่ Data Center ในไทยจะซื้อมาใช้ เจนเซน หวง ได้ป้อนคำหวานเยินยอไทยมากมาย ประเทศไทยในอนาคตจะเป็น AI Land แผ่นดินแห่งปัญญาประดิษฐ์ รุ่งขึ้นเขาก็บินไป กรุงฮานอย เมืองหลวงเวียดนาม ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ในเวียดนาม แต่ไม่ลงทุนในไทยคำประกาศของ เจนเซน หวง ที่เวียดนาม ฟังแล้วก็เจ็บลึกที่ นายกฯไทยแลนด์ โดนซีอีโอบริษัทเทคยักษ์ใหญ่สหรัฐฯหลอกอีกแล้ว เจนเซน หวง ประกาศในพิธีเปิด NVIDIA Research and Development Center ที่กรุงฮานอยต่อหน้า นายกฯเวียดนาม ว่า เขาเลือกเวียดนามเป็นบ้านหลังที่สอง (second home) ของเอ็นวิเดีย เพราะเวียดนามเป็นประเทศที่มีกำลังคนด้าน software engineers มากเป็นอันดับ 2 ของโลก เวียดนามมีความได้เปรียบหลายด้าน โดยเฉพาะความเป็นมหาอำนาจด้านการให้คุณค่าทางครอบครัว และการเน้นเรื่องการศึกษา ชาวเวียดนามมีความสำเร็จเป็นเลิศในด้าน STEM โดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ซึ่งช่วยให้เวียดนามกลายเป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในโลกด้านการซัพพลาย วิศวกรด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่น้อยคนจะรู้ฟังแล้วเจ็บปวดไหมครับ เหมือนด่าประเทศไทยยังไงยังงั้น เพราะหวงมาเยือนไทยก่อนเจนเซน หวง กล่าวอีกว่า “ด้วยศักยภาพเหล่านี้ ผมเชื่อว่า เวียดนามคือสถานที่ในฝัน (ideal place) สำหรับ NVIDIA ในการลงทุนพัฒนาศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Centers) และสร้างระบบนิเวศน์ทางเอไอ (AI ecosystem) ที่เข้มแข็งที่นี่”3 สภาพแวดล้อมหลัก ที่ เจนเซน หวง สัญญาจะสร้างที่เวียดนามคือ 1.โครงสร้างพื้นฐานด้านเอไอที่ก้าวหน้า (advanced AI in frastructure) 2.โปรแกรมเทรนนิงด้านเอไอในมหาวิทยาลัย (strong AI training program at universities) 3.การพัฒนาสตาร์ตอัพด้านเอไอ (development of AI startups)ในความเป็นจริง ค่าแรงขั้นต่ำในเวียดนามต่ำกว่าไทย แต่วันนี้เขาไม่พูดถึงค่าแรงขั้นต่ำกันแล้ว เขาพูดถึง แรงงานทักษะ พูดถึง STEM พูดถึง Software Engineers ที่ได้เงินเดือนสูงลิ่ว สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้าของผู้นำรัฐบาลเวียดนาม เทียบกับผู้นำรัฐบาลไทยที่ยังจมอยู่กับ “ค่าแรงขั้นต่ำ” จีดีพีไทยเลยตกต่ำโงหัวไม่ขึ้นเสียที.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม