รูปเล่มหนังสือ ที่สำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ของคุณวรพันธ์ โลกิต สถาพร ออกแบบ นับแต่ศัพท์สรรพรรณนา ภาษาสรรวรรณศัพท์ จนถึงเล่มล่า...อักษรศัพท์พินิจฉัย...เหมือนกันพอเห็นก็รู้ หนังสืออาจารย์ปรัชญา ปานเกตุ มาถึงแล้วสำหรับผมช้าไม่ได้...เผื่อใจไปถึงคนที่เดินในงานหนังสือศูนย์สิริกิติ์ จะซื้อไปอ่านด้วย ผมเดาเอาหนังสือชุดนี้เป็นหนังสือขายดีแบบใครไวก็ได้ก่อนชิมลางเล่มนี้ ด้วยศัพท์ไหนดี? มีคำแนะในคำนำ...ศัพท์ที่ 24 จักจั่นมันร้องหน้าร้อนกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า ปีนี้ประเทศไทยจะสิ้นสุดฤดูหนาว และเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ในวันที่ 5 มีนาคม 2566ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 4 ก็มีพิธีเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกตจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อนหน่วยงานนั้นคาดว่าจะร้อนไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาก็เข้าสู่ฤดูฝน“อุตุ” คือคำเดียวกับ “ฤดู” อุตุนิยมวิทยา จึงหมายถึงวิชาเรื่องราวของบรรยากาศ คนเก่าๆไม่ได้อ่านคำประกาศกรมอุตุ แต่รู้ว่าฤดูร้อนมาถึงจากเสียง “จั๊กจั่น”ขออนุญาต ออกเสียง/จั๊ก–กะ–จั่น/แม้ราชการกำหนดให้เขียน “จักจั่น” ไม่มีไม้ตรีที่ตัว “จัก”เหมือนที่บังคับให้เขียน “ปักเป้า” แม้สามัญชนคนทั่วไปจะออกเสียง/ปั๊ก-กะ-เป้า/น่าสนใจที่ว่า “ตั๊กแตน” โบราณใช้คำว่า “ตักแตน” ก็มี ดังตัวอย่างจากอนิรุทธคำฉันท์ดุจตักแตนเต้นเห็นไฟ บมิใฝ่หนีไกล กำเลากำเลาะหวังเขญ“ตุ๊กตา” โบราณใช้คำว่า “ตุกตา” ก็มีดังตัวอย่างจากคำให้การขุนหลวงหาวัด“และตะคันเชิงไฟเตาไฟ และปั้นรูปช้างรูปม้าตุกตาต่างๆ”ชาวบ้านเรียกจักจั่นตามสี ที่สีเขียวเรียก “เวียด” ที่สีขาวเรียก “วาด” บางคนเรียกตามขนาด ที่ตัวโตเรียก “จั๊กจ้า” ที่ตัวเล็ก เรียก “จั๊กแจ้ง” ที่ตัวเล็กมากเรียก “จั๊กจี้”เมื่อเริ่มเข้าหน้าร้อนจักจั่นจะร้องกันระงม มันจะขึ้นจากพื้นดินมาเกาะกิ่งไม้กิ่งใครกิ่งมัน สีสันของมันเป็นสีน้ำตาลไหม้กลืนไปกับเปลือกไม้นักกีฏวิทยาว่าตัวผู้มันร้องเพราะต้องการจะผสมพันธุ์ ผู้ชำนัญเรื่องแมลงยังสำแดงต่อไปว่า ชีวิตจักจั่นส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้ดินชื้นๆ หรือใต้รากไม้ใหญ่ มันจะดูดน้ำจากรากไม้เป็นอาหารยังชีวิตเมื่ออุณหภูมิผิวดินเริ่มสูง มันจะผุดขึ้นมาเกาะกิ่งไม้ข้างบน เพื่อลอกคราบกลายเป็นตัวผู้เต็มวัยบินได้และเข้าสู่ภาวะขยายพันธุ์บางคนได้ยินว่ามันร้อง “จั่น-จั่น-จั่น-จั่น” สมชื่อ แต่อนิจจา จักจั่นผู้อาภัพแม้มันจะมีวิถีตัวอ่อนใต้ดิน 1–2 ปี แต่ถึงทีที่จะขึ้นบกมาสืบพันธุ์ มันกลับมีอายุสั้นเพียง 2–4 เดือนเรียกว่าเตรียมตัวเป็นหนุ่มเสียเนิ่นนาน พอรื่นเริงสำราญได้เดี๋ยวเดียวก็ตายอาจารย์พรรณนาสารพันความรู้เรื่องจักจั่นมาถึงตรงนี้ แล้วก็จบว่า “เจ้าประคู้น ลูกขออธิษฐาน ชาติหน้าภพใดอย่าได้เกิดเป็นจักจั่นเลย”ความรู้ลึกเร้นหลากหลาย และวิธีเขียนของอาจารย์ปรัชญาผมทำได้แค่พยายามตั้งใจลอกตามไป...ระวังไม่ให้ผิดครับ แต่วันนี้ อ่านตอนจบแล้ว นึกถึงกลโคลงอักษรล้วน แจ้วๆจักจั่นจ้า จับใจ...ขึ้นมาจึงขออนุญาตเติม...ให้อีกนิด ที่เราได้ยินเสียง จั่น จั่น จั่น...จ้าจับใจ เหมือนคำโคลงนั้นเสียงจั่นจั่น...คือเสียงส่งสัญญาณบอกลาบทเรียนจากเสียงจักจั่น...สอนใคร? สอนบรรดา ดารา นักร้อง พิธีกร หรือแฮ่ะๆ พระองค์ดังๆ ให้สังวรระวัง...ความดังนั้น ถ้าเป็นเสียงจักจั่น ก็แสดงว่าเวลาดับใกล้เข้ามาเต็มที.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม