การจัดอันดับ ดัชนีมหาเศรษฐีของโลก โดย Bloomberg ยกให้ มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta อยู่ในอันดับสองมหาเศรษฐีโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 206,200 ล้านดอลลาร์ หรือ 6.86 ล้านล้านบาท ตามด้วย เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอ Amazon ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 205,100 ล้านเหรียญ หรือ 6.82 ล้านล้านบาท ส่วนที่คงอันดับ 1 อีลอน มัสก์ ซีอีโอ Tesla ที่มีทรัพย์สินทิ้งห่างอันดับ 2 อยู่ราวๆ 50,000 ล้านเหรียญ หรือ 1.6 ล้านล้านบาททรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่เป็นมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ Meta ปิดตลาดสูงสุดที่ 582.77 เหรียญ หรือหุ้นละ 19,393 ล้านบาท ทำให้หุ้นที่อยู่ในมือของ ซักเคอร์ เบิร์ก เพียง 13% เพิ่มมูลค่าอีกมหาศาล นอกจากนี้ยังได้ผลประโยชน์ จากการขายโฆษณาใน Facebook ถึงในปี 2022 รายได้จะลดลงประมาณ 1 หมื่นล้านเหรียญ หรือ 332,780 ล้านบาท แต่ก็สามารถชดเชยด้วยการลดจำนวนพนักงานเพื่อเป็นการลดต้นทุน จนทำให้ในปี 2023 มีรายได้เติบโตที่ 11% โดยนำเงินไปลงทุนในระบบ AI ทำงานแทนพนักงานที่ลดลงไปกว่า 2 หมื่นคนเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ เพื่อขอมติผู้ถือหุ้น ทำธุรกรรมปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งที่ประชุมร้อยละ 99 เห็นด้วยกับการขออนุมัติ การทำธุรกรรมควบรวมระหว่าง กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี กับ อินทัช โฮลดิ้งส์ การซื้อหลักทรัพย์ แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บมจ.ไทยคม อนุมัติการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่นำออกจำหน่าย และอนุมัติแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการลงทุนจดทะเบียนทิศทางการลงทุนยังเน้นด้านพลังงาน โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ที่มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานร้อยละ 80 หลังจากการควบรวมแล้วมาดูผลกำไรจากธุรกิจใน กลุ่มโทรคมนาคม รวมถึงการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบคลาวด์การควบรวมภายใต้ผลประโยชน์จากธุรกิจจำนวนมาก ดังกล่าว สารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กัลฟ์ ฝากเตือนไปยังผู้ถือหุ้น ระมัดระวังเรื่องข่าวปลอม หุ้นปลอม และขอให้มีการซื้อขายผ่านกระบวนการทางการที่บริษัทได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. ซึ่งการซื้อขายหุ้นจะต้องจ่ายภาษี 25% ตามกฎหมายหลังการทำธุรกรรมและปรับโครงสร้างแล้ว การปรับโครงสร้างธุรกิจเป็นแบบ NewCo ในส่วนของธุรกิจโทรคมนาคมที่มีความมั่นคงอยู่แล้วจะทำให้สภาพคล่องของหุ้นดีขึ้นเป็นประโยชน์กับตลาดทุนในประเทศการบริหารที่มุ่งการเติบโตของ ธุรกิจที่ยั่งยืน เป็นแนวทางของธุรกิจแนวใหม่ที่ต้องเน้น ความสมดุล ของทุกมิติ และการบริหารธุรกิจให้เกิดความสมดุล ทั้งการลงทุนและผลประโยชน์ตอบแทน และการสร้างมูลค่าของธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ เท่ากับเป็นการดึงเม็ดเงินลงทุนและสร้างมูลค่าการเติบโตของธุรกิจในอนาคตที่สมดุลและยั่งยืน.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม