การค้าไทยจีนวันนี้ “เข้าขั้นวิกฤติ” แล้วครับ แม้ พ่อค้านักธุรกิจเจ้าของโรงงานคนไทย จะส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดไปถึงรัฐบาล แต่กลับได้รับคำตอบจากรัฐบาลแบบไม่ไยดี ว่า ถ้าไปตอบโต้จีน จีนก็อาจตอบโต้ไทยได้ ทั้งที่จีนเป็นฝ่ายรังแกคนไทย แล้วเราจะมีรัฐบาลแบบนี้ไปหาพระแสงอันใด ล่าสุด สินค้าจีนราคาถูกจาก TEMU แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จีนรายใหม่ ส่งสินค้าจากโรงงานเข้ามาถล่มตลาดไทยโดยลดราคาสูงสุดถึง 90% รัฐบาลเพื่อไทยก็นิ่งเฉย สื่อไปถามก็ตอบแบบขอไปทีว่า เราเก็บภาษีเขาไม่ได้ เพราะ TEMU ไม่ได้จดทะเบียนบริษัทในเมืองไทย?ผมเชื่อว่า พ่อค้าแม่ค้านักธุรกิจเจ้าของโรงงานคนไทยทุกคน ได้ฟังคำตอบจาก รัฐบาลเพื่อไทย แบบนี้ คงจะเจ็บปวดรวดร้าวใจไม่แพ้กัน นอกจาก รัฐบาลจะไม่ปกป้องเศรษฐกิจไทย ไม่ปกป้องการทำมาหากินของคนไทยในประเทศ ยังไปปกป้องพ่อค้าจีนอีกวันนี้ผมจะเอา “ตัวเลขการค้าไทยจีน” ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ รัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีบางคนคิดถึง เปิดประเทศอ้าซ่าให้กับจีนแถมยังเอาเงินภาษีของคนไทยไปอุ้มรถยนต์ไฟฟ้าจีน จนอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยที่สร้างมาหลายสิบปีพังครืนอย่างที่เห็น จนถึง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ เห็นตัวเลขการขาดดุลการค้าแล้วคนไทยจะต้องตกตะลึงกันทั้งประเทศ วันนี้ประเทศไทยกำลังใกล้สภาพเป็น สปป.ลาว เข้าไปทุกที ไทยขาดดุลการค้ากับจีนเกินปีละ 1 ล้านล้านบาท มา 3 ปีแล้วอย่างเงียบๆ แต่รัฐบาลก็เฉยไม่คิดแก้ปัญหาอะไรเลยปี 2565 ไทยขาดดุลการค้าจีนสูงถึง 1.3 ล้านล้านบาท ปี 2566 ไทยขาดดุลการค้าจีนอีก 1.3 ล้านล้านบาท ในขณะที่ ปี 2566 ไทยได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯกว่า 1 ล้านล้านบาท ได้ดุลการค้าประเทศอื่นอีกเกือบ 1 ล้านล้านบาท แต่เอาไปขาดดุลให้จีนหมดสัปดาห์ที่แล้ว คุณผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ได้แถลงผลการประชุม กกร. ว่า ที่ประชุมมีความกังวลต่อการขาดดุลการค้าระหว่างไทยกับจีนที่ 6 เดือนแรก ปี 2567 ไทยขาดดุลการค้าจีนไปแล้วถึง 7.2 แสนล้านบาท โดย 6 เดือนแรกไทยนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.33 ล้านล้านบาท ถ้าคิดเป็นบัญญัติไตรยางศ์ง่ายๆเอา 2 คูณ ปีนี้ไทยจะขาดดุลการค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็น 1.44 ล้านล้านบาท จากการนำเข้า 2.66 ล้านล้านบาท โอ้แม่เจ้า ไทยนำเข้าสินค้าจีนประเทศเดียวสูงถึง 76.43% ของงบประมาณแผ่นดินปี 2567 ที่มีวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็น “ความเสี่ยง” อย่างยิ่งต่อความมั่นคงของชาติการขาดดุลการค้าจีนมโหฬาร คุณผยง แถลงว่า ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของไทยกว่า 23 กลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้ง ยังถูกซํ้าเติมจาก platform e-commerce ที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย ขายสินค้าจากโรงงานตรงสู่ผู้บริโภคในราคาถูก ยิ่งกดดันผู้ประกอบการ SMEs ไทย เนื่องจากไม่สามารถแข่งขันทั้งด้านราคาและต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าได้ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขันได้ ไม่ให้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพเข้ามาตีตลาดไทยในภาวะ over supply ที่ประชุม กกร.จึงขอเสนอให้รัฐบาลเข้มงวดการตรวจสอบมาตรฐานสินค้านำเข้า กำกับและควบคุมสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษี บังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการค้าในประเทศอย่างเข้มงวด โดยสร้าง Ecosystem ที่ทำให้ผู้ประกอบการไทย และ Supply chain ไทย มีความเข้มแข็งและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนความจริงเรื่อง การปกป้องเศรษฐกิจของชาติ ถือเป็น “หน้าที่” ของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ไม่ทำ ต้องให้ สภาหอการค้าฯ สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันเรียกร้องก็ไม่รู้ว่า นายกฯเศรษฐา ทวีสิน รู้สึกผิดไหมที่ “รัฐบาลบกพร่องต่อหน้าที่” และ คุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รู้สึกผิดไหมที่พรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องเศรษฐกิจของชาติ แล้วมาแย่งเป็นรัฐบาลไปทำไม?"ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม