สภาผ่านวาระแรกเพื่อรับหลักการด้วยมติ 311-175 ตั้ง ครม. เพื่อแปรญัตติ 72 คน สำหรับงบประมาณปี 2568 วงเงิน 3,752,200 ล้านบาท เป็นงบขาดดุลต่อเนื่องเพราะยังต้องกู้โปะในจำนวนนี้ที่ฝ่ายค้านพูดกันมากก็คือ “ดิจิทัลวอลเล็ต” วงเงิน 5 แสนล้านบาท โดยมาจากงบปี 67 ส่วนหนึ่ง งบปี 68 ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งคือเงินกู้จาก ธ.ก.ส.ฝ่ายค้านชี้ว่า “เจ๊งไม่ว่าอย่าให้เสียหน้าก็แล้วกัน” ก็ตรงประเด็นที่สุด เพราะงบทุกส่วนต้องเจียดแบ่งให้โครงการนี้เป็นผลให้ไม่มีงบที่จะไปใช้ในการพัฒนาด้านอื่นๆได้ก็เป็นเรื่องของนักการเมือง ที่ไปหาเสียงเอาไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้ เพราะมิฉะนั้นจะเสียหน้า และเกิดปัญหาในด้านความนิยมแต่ในสภาพความเป็นจริง เรื่องเศรษฐกิจนั้นเป็นปัญหาใหม่ของรัฐบาลชุดนี้ ที่ยังไม่สามารถปลุกให้ฟื้นขึ้นมาได้เลยบอกว่าดิจิทัลวอลเล็ต “นี่แหละจะเป็นพายุหมุน” ทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ก็เลยจมอยู่กับเรื่องนี้มาตลอด 10 เดือน ที่เข้ามาบริหารประเทศนี่ก็เป็นวาระของนักการเมืองซีกรัฐบาล ที่จะต้องมีนโยบายเป็นของตัวเอง และต้องผลักดันให้ประสบความสำเร็จถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า...เขาทำได้จึงไม่แปลกการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดหนึ่ง เปลี่ยนผ่านไปสู่อีกรัฐบาลหนึ่ง จะเกิดปัญหาการที่ไม่รับลูกต่อแม้นโยบายหรือทิศทางที่รัฐบาลชุดเก่าทำไว้ รัฐบาลที่เข้ามาแทนที่มักจะไม่สานต่อ ปล่อยทิ้งขว้างไปอย่างน่าเสียดายอย่าว่าแต่ระดับประเทศเลย...ระดับท้องถิ่นก็ไม่ต่างกันยกตัวอย่างที่กรุงเทพมหานครนี่แหละ รัฐบาล “ประยุทธ์” ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาคูคลองต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะอาด เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และทำให้ชีวิตผู้คนที่อาศัยอยู่ในถิ่นนั้นดีขึ้นอย่างคลองโอ่งอ่าง ซึ่งจัดการทำอย่างดี และเป็นจุดขายสำหรับนักท่องเที่ยว ปรากฏว่า กทม. ของ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” คนเป็นผู้ว่าฯ กลับปล่อยปละไม่ได้พัฒนาต่อยอดจนเงียบเหงาไม่ต่างกับการทิ้งร้างเอาไว้ดูต่างหน้าเท่านั้นโครงการระดับชาติอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งว่าที่จริงแล้ว หากได้รับการสานต่อให้เสร็จเรียบร้อย ก็จะเป็นเมืองใหม่อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศอื่นๆ ที่สร้างมูลค่าและความเจริญอย่างมีนัยสำคัญ“อีอีซี” เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีความคืบหน้าไปมากพอสมควร จนเห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หากรัฐบาลชุดปัจจุบันสานต่ออย่างเอาการเอางาน ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นมาทันตาเห็นแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันแทบจะไม่มีการพูดถึงโครงการนี้เลย พูดง่ายๆว่าไม่ได้ใส่ใจ เห็นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเยี่ยมชมในวันสองวันนี้นี่เป็นครั้งแรกที่ปรากฏ...ความจริงไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ตาม เมื่อเข้ามาบริหารประเทศ นอกจากจะมีนโยบายที่เป็นของตัวเองแล้ว ก็ต้องดูด้วยว่าโครงการที่รัฐบาลชุดที่ผ่านมาทำไว้นั้น มีอะไรที่ดีมีประโยชน์ ก็ควรจะเข้าไปสานต่อพัฒนาให้สำเร็จ เพราะมิฉะนั้นน่าเสียดายยิ่งรัฐบาลชุดนี้ ความจริงก็ยังไม่มีโครงการอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวสักอย่างหากใจกว้างยอมรับความจริง ไปสานต่อโครงการนี้ก็ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน?“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม