วันนี้ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง นำทีม ครม.ชุดใหญ่แถลงข่าว “วาระแห่งชาติว่าด้วยการแก้หนี้” เป็นครั้งที่สองในรอบสี่เดือน แต่กลับไม่มี “วาระแห่งชาติว่าด้วยการสร้างรายได้” แล้วอีกกี่ชาติคนไทยและประเทศไทยจะใช้หนี้หมด ถ้าหารายได้ไม่เป็น วันนี้ผมมีอีกมุมหนึ่งของการสร้างรายได้ให้ประเทศไทย นั่นก็คือ รายได้จากการแสดงคอนเสิร์ตจากนักร้องต่างชาติชื่อดังที่บินเข้ามาแสดงคอนเสิร์ตในเมืองไทย ช่วงวีกเอนด์ในสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคอนเสิร์ตของนักร้องดังระดับโลกเข้ามาแสดงในเมืองไทยถึง 2 คอนเสิร์ต สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยมากมาย และโกยเงินจากไทยกลับไปเกือบ 1,000 ล้านบาท ตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้ยังมีคอนเสิร์ตแสดงต่อเนื่องอีก 15 คอนเสิร์ต ทั้งจากนักร้องต่างชาติและนักร้องคนไทย (ข้อมูลจากไทยรัฐออนไลน์)นี่คือ รายได้จาก Soft Power ของจริง ยังไม่นับเงินที่สะพัดจาก เทศกาลตรุษจีน ที่เป็น Soft Power จีน ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยประเมินว่าจะมีการใช้จ่ายเกือบ 50,000 ล้านบาท แล้วต่อด้วย วันวาเลนไทน์ Soft Power ตะวันตก เทศกาลแห่งความรักที่มีกิจการบันเทิงอีกมากมายที่สร้างรายได้มหาศาล ส่งผลให้เศรษฐกิจเดือนกุมภาพันธ์คึกคักที่สุดเดือนหนึ่งวันเสาร์อาทิตย์ 3–4 กุมภาพันธ์ 2567 มีการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ระดับโลกจากวง Coldplay ที่เดินสายมาแสดงคอนเสิร์ตในเอเชียปีนี้เพียง 3 ประเทศเท่านั้น คือ ไทย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ โดยเปิดการแสดงคอนเสิร์ตที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งจุผู้ชมได้มากถึง 5–6 หมื่นคนต่อรอบ ในชื่อ คอนเสิร์ต Coldplay Music of The Sphere World Tour Bangkok การแสดงแบ่งออกเป็น 2 รอบวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ละรอบมีผู้เข้าชมกว่า 50,000 คน สองรอบก็มีผู้ชมกว่า 100,000 คนบัตรคอนเสิร์ตเปิดจำหน่ายล่วงหน้าถึง 8 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 ปีที่แล้วโน่นข้อมูลจาก Thai Ticket Major เปิดเผยว่า ราคาบัตรต่อใบสูงสุดอยู่ที่ 28,300 บาท รองมา เป็นบัตรราคา 14,000 บาท 12,300 บาท ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ขนาดบัตรราคา 5,800 บาท ยังเป็นบัตรยืน บัตรราคาต่ำสุดอยู่ที่ 1,800 บาท คอนเสิร์ต Coldplay in Bangkok สองรอบกวาดรายได้ค่าตั๋วอย่างเดียวไปกว่า 600 ล้านบาท ยังไม่นับรายได้อย่างอื่นที่เกิดขึ้นจากคอนเสิร์ต แต่ประเด็นที่ผมเห็นว่าน่าดีใจก็คือผู้เข้าชมคอนเสิร์ต 2 รอบกว่า 100,000 คน เป็นชาวต่างชาติที่บินเข้ามาชมคอนเสิร์ตสูงถึง 60% หรือกว่า 60,000 คนนั่นหมายความว่า ประเทศไทยจะมีรายได้จากนักท่องเที่ยวที่บินเข้ามาชมคอนเสิร์ตเหล่านี้อีกหลายพันล้านบาท ตั้งแต่ค่าโรงแรมที่พัก ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าช็อปปิ้ง ฯลฯ เพราะนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงและกล้าใช้จ่ายวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ก็มีการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานอีกหนึ่งคอนเสิร์ต นั่นคือ คอนเสิร์ต “Ed Sheeran ‘+ - = ÷ ×’ Mathematic Tour in Bangkok 2024” ซึ่งเป็นศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ เจ้าของเพลง Perfect ที่มียอดวิวในยูทูบกว่า 3,500 ล้านวิว และเพลง Shape of You ที่มียอดวิวในยูทูบกว่า 6,100 ล้านวิว บัตรเข้าชมต่ำสุดใบละ 1,800 บาท ราคาสูงสุดใบละ 12,000 บาท บัตรขายเกลี้ยงผู้ชมในสนามราชมังคลากีฬาสถานก็ไม่หนี 5–60,000 คน เป็นชาวต่างชาติที่บินเข้ามาชมคอนเสิร์ตเกินครึ่ง รายได้ค่าตั๋วเข้าชมอย่างเดียวก็ไม่หนี 300 ล้านบาท ยังไม่นับค่าใช้จ่ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่บินเข้ามาชมคอนเสิร์ตอีกEd Sheeran ไม่ได้จบคอนเสิร์ตที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ ยังมาเปิดการแสดงคอนเสิร์ตรอบพิเศษที่ UOB Live Hall ใน ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ แม้จะจุผู้ชมได้น้อยกว่าสนามราชมังคลาฯ แต่ค่าตั๋วต้องจ่ายแพงกว่ากันมาก4 วันกับ 2 คอนเสิร์ต สร้างรายได้ให้เศรษฐกิจไทยไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ถ้า เศรษฐกิจไทยวิกฤติจริง อย่างที่รัฐบาลพูดให้ประเทศเสียหาย ตั๋วคอนเสิร์ตใบละ 10,000–20,000 บาท คงขายไม่ได้แน่นอน และ นักร้องดังระดับโลกคงไม่บินมาแสดงคอนเสิร์ตในประเทศที่เศรษฐกิจกำลังวิกฤติแน่นอน จริงไหมครับ ท่านนายกฯ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม