โดยวิสัยชาววัดพอใช้วลี “หนอนในถังขี้” ก็รู้เองเออเอง หมายถึงคนแบบไหน และเคยใช้เปรียบเปรย...คนบางจำพวกเรื่อยมา จนบัดนี้ก็ลืมไปเสียแล้วว่า ที่มาของวลีมาจากเรื่องอะไรในหนังสือ “กิร ดังได้สดับมา” (พระธรรมกิตติวงศ์ทองดี สุรเตโช) เรื่องที่ 26 หนอนกับเทวดา ผมอ่านแล้วจึงรู้ว่า ที่มาวลีหนอนในถังขี้ มาจากเรื่องนี้เองมีชายสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก อยู่บ้านใกล้กัน ไปโรงเรียนด้วยกัน พอเรียนจบก็แยกย้ายกัน ต่างคนต่างทำมาหากิน แต่ก็ยังไปมาหาสู่กันไม่ขาดทั้งๆที่คบหากันเป็นเพื่อนสนิท แต่คนทั้งสองมีนิสัยต่างกันมากคนหนึ่งเป็นคนดี สุราบุหรี่ไม่แตะต้อง ปกติชอบช่วยเหลือเกื้อกูลคนอื่น อีกคนชอบดื่มสุรา พอเมาแล้วก็มักหาเรื่องด่าทอคนอื่น...กระทั่งพระวัดข้างบ้านก็ไม่ละเว้นต่อมาเมื่อถึงอายุขัย ทั้งสองก็ตายจากกันไปเพื่อนคนดีไปเกิดบนสวรรค์ชั้นฟ้า อยู่ในวิมานใหญ่ กินอาหารทิพย์ มีนางฟ้ามากมายรับใช้ส่วนเพื่อนคนไม่ดี ไปเกิดเป็นหนอนอยู่ในถานพระ (ส้วม) ริมรั้ววัดเพื่อนคนที่เป็นเทวดา เสวยสุขอยู่บนวิมานอยู่นาน จนวันหนึ่งจึงคิดถึงเพื่อน เทวดาทุกองค์คงมีฤทธิ์เหมือนพระอินทร์ จึงสอดส่องทิพยเนตร เห็นเพื่อนที่เป็นหนอน กำลังกินอุจจาระ ก็สงสารท่านก็หายวับจากวิมาน พริบตาก็ปรากฏร่างเหนือกองอุจจาระ ใต้ถานพระ ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนเก่า“แกเป็นใคร” หนอนเพื่อนโผล่หัวพ้นกองอุจจาระ...ถาม“เราไง!” เทวดาบอกชื่อ แล้วบอก ตอนนี้เป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ คิดถึงเพื่อนจึงอยากมาเยี่ยม“เป็นถึงเทวดา อยู่บนวิมาน แล้วออกแรงเหนื่อย มาหาเราถึงที่นี่ทำไม?”“เห็นเพื่อน จมอยู่ในกองอุจจาระ สกปรก โสโครก ก็ไม่สบายใจ อยากมาชวนเพื่อนไปอยู่ด้วยกันบนสวรรค์”“ท่านเทวดา...” หนอนเรียกด้วยความครั่นคร้ามฐานะใหม่เพื่อน “บนสวรรค์ของท่าน มีดีแค่ไหน?”“บนสวรรค์ มีอาหารทิพย์ รสชาติอร่อยเลิศกว่า อาหารในโลกมนุษย์เทียบไม่ได้” หนอนฟังแล้วไม่เคลิ้มตาม ถามต่อ “เอากุ๊กจากไหนมาปรุง”“อาหารทิพย์ ไม่มีใครปรุง เป็นอาหารสำเร็จ อยากกินอะไร รสชาติแบบไหน ก็แค่นึก ก็เนรมิตเอา”ฟังถึงตรงนี้ หนอนก็ส่ายหน้า“ถ้างั้น อาหารทิพย์ของท่าน ก็สู้อาหารที่เรากินทุกวันไม่ได้ อาหารของเราไม่ต้องเสียเวลานึก ไม่ต้องออกแรงเนรมิต ทุกเช้าก็หล่นลงมาเข้าปาก อยากกินแค่ไหนก็กิน กินเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักหมด”เพื่อนหนอนปฏิเสธเด็ดเดี่ยว “เราขออยู่กับอาหารอันเอมโอชะ ของเราต่อไป ไม่ต้องไปพึ่งพาวิมานบนสวรรค์ของเพื่อนหรอก”...นิทานเรื่องหนอนกับเทวดา จบลงตรงนี้ พระอาจารย์ หลวงพ่อทองดี สุรเตโช มีคำสอนต่อว่า...คนที่ชอบสิ่งสกปรกโสโครกชอบคลุกคลีอยู่กับสิ่งมอมเมา ชอบเสพเสวยอบายมุข มีอยู่มากมายในโลกใบนี้การที่เราจะไปแนะนำเขา ชักชวนเขาให้ละเลิก...ด้วยเจตนาที่ดี เป็นเรื่องน่าสรรเสริญ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะใช่ว่า เขาจะเชื่อเรา ทำตามคำแนะนำของเราไปทุกเรื่องวิถีชีวิตหนอนในถังขี้นั้น...ชาววัดพูดกันติดปาก เพลิดเพลิน อยู่กับ “กิน ขี้ ปี้ นอน” อยู่ในกองอาจมนั้น ขนาดเทวดาเหาะลงมาเขียวๆ แล้วยังไม่อาจเปลี่ยนใจเขาได้ แล้วเราเล่า เป็นใคร? วิเศษกว่าเทวดาแค่ไหนกันเชียว.กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ "ชักธงรบ" เพิ่มเติม