ที่ประชุม ครม.วันอังคารเห็นชอบ ให้เก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) โดยจะมีผลหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน คาดว่าจะมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 นี้ แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางอากาศ เก็บในอัตราคนละ 300 บาท นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางบกและเรือ เก็บคนละ 150 บาท เพราะอาจเดินทางเข้ามาเพียง 2–3 วัน ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยโดยใช้บอร์เดอร์พาส หรือหนังสือผ่านแดน ข้าราชการท้องถิ่นที่อยู่ชายแดน รวมทั้งผู้ที่ถือพาสปอร์ตแต่มีหนังสืออนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย และผู้ที่เดินทางเข้ามาแบบไปเช้าเย็นกลับ ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมค่าธรรมเนียมการเข้าประเทศนี้ ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน”เหตุผลที่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอให้มีการ เก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็เพื่อนำมาเป็น ค่าใช้จ่ายในการดูแลนักท่องเที่ยว เนื่องจากการเก็บข้อมูลในช่วงปี 2560–2562 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปใช้บริการในสถานพยาบาลของรัฐ ทำให้รัฐมีค่าใช้จ่ายในการดูแลมากถึง 300–400 ล้านบาทผมก็เพิ่งรู้ว่า รัฐบาลไทยใจดี จัดงบประมาณดูแลนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เจ็บป่วยในไทยสูงถึงปีละ 300-400 ล้านบาท แต่ในต่างประเทศไม่มีบริการฟรี คนไทยที่ไปเจ็บป่วยในต่างประเทศ หรือประสบอุบัติเหตุในต่างประเทศ จำเป็นต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล ต้องจ่ายค่ารักษาเป็นเงินหลายแสนบาท บางเคสเป็นล้านบาทก็มี บริษัททัวร์จึงมีการประกันอุบัติเหตุ ประกันการเจ็บป่วยแก่ลูกทัวร์ ใครต้องการการประกันที่ครอบคลุมมากกว่าที่บริษัททัวร์จัดให้ ต้องซื้อประกันเพิ่มเอง หรือเวลาซื้อตั๋วเดินทางด้วยตัวเองก็ต้องซื้อประกันภัยให้ครอบคลุม มิฉะนั้นอาจจะต้องจ่ายค่ารักษาที่แพงลิ่วในต่างประเทศ ไม่มีงบรักษาฟรีแบบไทยแลนด์การเก็บค่าเหยียบแผ่นดิน คนละ 300 บาท ประมาณ 8.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นค่าธรรมเนียมที่ถูกมาก ถูกกว่า “ภาษีสนามบินสุวรรณภูมิ” เสียด้วยซ้ำ ทุกวันนี้ผู้ที่เดินทางออกนอกประเทศที่สนามบินสุวรรณภูมิไม่ว่าเป็นคนไทยหรือต่างชาติ ต้องจ่าย “ค่าภาษีสนามบิน” หรือ “ค่าบริการผู้โดยสารขาออก” คนละ 700 บาท ซึ่งถูกบวกเข้าไปในราคาตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ถ้าเดินทางในประเทศค่าภาษีสนามบินจะอยู่ที่คนละ 100 บาท ไม่มีการใช้บริการฟรี การไปตรวจรักษาที่ โรงพยาบาลเอกชน นอกจากค่ายาค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังมี “ค่าเหยียบโรงพยาบาล” อีกคนละ 700 บาท เป็นอย่างน้อยผมเห็นด้วยกับ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่เก็บ ค่าเหยียบแผ่นดิน หรือ ค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยว จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวธรรมชาติอันสวยงามในประเทศไทย ถ้านับจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงพีกปี 2562 จำนวน 40 ล้านคน เก็บค่าเหยียบแผ่นดินคนละ 300 บาท จะได้เงินจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 12,000 ล้านบาท เพียงพอที่จะดูแลนักท่องเที่ยวได้อย่างสบาย แต่ค่ารักษาพยาบาลโรงพยาบาลรัฐก็ต้องคิดตามราคาที่คิดกับคนไทย ไม่ควรฟรีในความเป็นจริง ไทยยังเก็บรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้น้อยมาก เมื่อเทียบกับจุดหมายการท่องเที่ยวในประเทศอื่น และไม่มีการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น แต่เก็บเข้าส่วนกลางอย่างเดียว อุทยานแห่งชาติทางทะเลบางแห่งเก็บค่าเข้าชมได้ปีละกว่า 500 ล้านบาท ซ้ำร้ายที่ทุเรศมากก็คือ มีการทุจริตค่าเข้าชมอุทยาน เจ้าหน้าที่พิมพ์ตั๋วผีขายนักท่องเที่ยว เก็บเป็นค่าส่วยส่งนายซื้อตำแหน่ง เงินส่วนนี้ก็หายไปปีละหลายพันล้านบาทในประเทศที่เป็นหมู่เกาะมีปะการังสวยงาม การไปดำน้ำชมปะการัง นักท่องเที่ยวนอกจากต้องจ่ายค่าชมปะการังแล้วยังต้องจ้างคนในพื้นที่ไปดูแลเราด้วย ให้ดำชมเฉพาะพื้นที่ที่กำหนด และป้องกันการขโมยปะการังรักษาไว้ขายนักท่องเที่ยวไปได้อีกนานๆถ้า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มีการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวที่ “โปร่งใส” เรายังเก็บรายได้จากนักท่องเที่ยวได้อีกเยอะทีเดียว.“ลม เปลี่ยนทิศ”