“ยุทธพงศ์” กาหัว 5 คนยื่น ป.ป.ช.ฟันผิดเซ่นท่อส่งน้ำอีอีซี เชือดกราวรูดทั้ง “ประยุทธ์-อาคม-สันติ-กก.ที่ราชพัสดุ-อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์” ซัดไม่โปร่งใส “ยุทธนา” รีบเปิดซองประมูลวันเกษียณใส่พานเอื้อบริษัทเล็กๆไม่เป็นมืออาชีพ จับตา 3 พ.ค. ดันทุรังลงนามสัญญาส่ง ป.ป.ช.เชือดทันที พร้อมตั้งวงถกพรรคจิ๋ว-กลุ่ม 16 คิวต่อไปนัดหม่ำข้าวหารือ “ธรรมนัส” โวซักฟอกยกนี้ทะลวงหมัดน็อก “ลุงตู่” ตายคาเขียง “พิเชษฐ” ตอบรับคำเชิญ “ชลน่าน” บี้นายกฯทบทวนอย่าฝืนโกยผลประโยชน์ “โรม” ข่มขวัญรอดูฉากหมาตายเห็บกระโดด สุดท้าย ปชป.-ภท.ทิ้ง “บิ๊กตู่” ตายโดดเดี่ยว “ธนกร” หยัน พท.จนตรอกยืมมือพรรคเล็กโค่นรัฐบาล “วิษณุ” ชี้ถ้านายกฯตู่ตกเก้าอี้ครบ 8 ปี “ประวิตร” ขึ้นรักษาการ แจงนายกฯสำรองคือ 5 รายชื่อในบัญชีพรรคการเมืองพรรคฝ่ายค้านโหมโรงก่อนศึกซักฟอก ขยี้ปมความไม่โปร่งใส่การประมูลโครงการกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่อีอีซี โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุหากวันที่ 3 พ.ค. มีการลงนามสัญญากัน วันที่ 4 พ.ค.จะยื่น ป.ป.ช.เอาผิดนายกรัฐมนตรี รมต.และผู้เกี่ยวข้องรวม 5 คน กาหัวยื่น ป.ป.ช.ฟัน 5 คนท่อน้ำอีอีซีเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงความไม่โปร่งใสในการดำเนินโครงการกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในพื้นที่อีอีซีว่า ยืนยันว่าหากในวันที่ 3 พ.ค.กรมธนารักษ์ลงนามสัญญาให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้เป็นผู้ดำเนินการโครงการดังกล่าว ทั้งที่มีการยื่นร้องต่อศาลปกครองคัดค้านถึงการคัดเลือกผู้ดำเนินการไม่โปร่งใส ถ้ากรมธนารักษ์ลงนามในสัญญาในวันที่ 3 พ.ค.จริง ตนจะไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.วันที่ 4 พ.ค.ทันที เอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 คน ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม 2.นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานกรรมการที่ราชพัสดุ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ที่ได้รับมอบหมายจากนายอาคมให้เป็นประธานกรรมการที่ราชพัสดุซัดอดีตอธิบดีเปิดซองวันเกษียณนายยุทธพงศ์กล่าวว่า 4.คณะกรรมการที่ราชพัสดุ 6 คน จาก 12 คน ที่อนุมัติให้บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง ได้เป็นผู้ดำเนินโครงการ 5.นายยุทธนา หยิมการุณ อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่เร่งรีบดำเนินการโครงการให้บริษัทวงษ์สยามก่อสร้างเป็นผู้ชนะการประมูล แม้กระทั่งในวันที่เกษียณอายุราชการ ยังให้เปิดซองประกวดราคาให้บริษัทวงษ์สยามชนะประมูล ยืนยันโครงการดังกล่าวดำเนินการไม่โปร่งใส ไม่เชิญชวนให้ประกวดราคาในระบบอีบิดดิ้ง แต่กลับเรียกบริษัทแค่ 5 แห่งมาร่วมแข่งขัน บริษัทใหญ่ๆ อย่างบริษัทอิตาเลียนไทย บริษัท ช.การช่าง บริษัทซิโน-ไทย ไม่ถูกเรียกเข้ามาแข่งขัน แต่ไปเรียกบริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง บริษัทเล็กๆเข้าแข่งขันแทนนัดกินข้าว “ธรรมนัส” วางดีลล้ม “บิ๊กตู่”นายยุทธพงศ์กล่าวว่า การเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 พรรคเพื่อไทยได้นัดหารือนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ไปเมื่อวันที่ 28 เม.ย. พรรคเล็กได้สอบถามความพร้อมของพรรคเพื่อไทยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่าพรรคพร้อมมาก มีเรื่องใหญ่ที่จะอภิปรายคือ 1.การจัดซื้อเรือดำน้ำ ไม่มีเครื่องยนต์ 2.การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว 3.โครงการระบบท่อส่งน้ำในพื้นที่อีอีซี 22,000 ล้านบาท ไม่เปิดประมูลให้ถูกต้อง นายพิเชษฐในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการการประปาส่วน ภูมิภาค (กปภ.) ไม่เห็นด้วยกับโครงการระบบท่อส่งน้ำ บอกว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดแตกหักกับรัฐบาล แต่ถ้าเดินหน้าโครงการ พรรคเล็กจะขอแตกหักกับรัฐบาลไม่ยกมือให้ ถ้ามีการลงนามสัญญาวันที่ 3 พ.ค. จะทานอาหารเย็นกับนายพิเชษฐและพรรคเล็กช่วงเย็นวันที่ 3 พ.ค.ทันที และต่อไปจะนัดทานข้าวกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยโวควงหมัดน็อก “ลุงตู่” ตายคาสภานายยุทธพงศ์กล่าวว่า พรรคพร้อมเปิดอภิปรายทุกวันมั่นใจเที่ยวนี้น็อก พล.อ.ประยุทธ์ได้ อย่ายุบสภาหนีไปก่อน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไม่ยุบสภาหนีไปก่อนรับรองตายกลางสภาแน่ รู้ได้อย่างไรว่าจะคุม ส.ส.พปชร.ได้หมด เพราะยังมี ส.ส.ฝากเลี้ยงของ ร.อ.ธรรมนัสอยู่ในพรรค พปชร.อีก วันนี้ไปถามได้เลยมีประชาชนเอา พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ของแพงทุกอย่าง แต่รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย ส่วนการให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นนายกฯสำรอง กรณีเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองนั้น ถ้า พล.อ.ประยุทธ์หลุดตำแหน่งจริง ตำแหน่งนายกฯต้องมาจากบัญชีพรรคการเมืองตามกติกาก่อน ถ้าเลือกนายกฯในกติกาไม่ได้ ถึงไปใช้ข้อยกเว้นพิเศษ กลุ่ม 16 ตอบรับคำเชิญ “ชลน่าน”นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐและหัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงกรณีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตการเคลื่อนไหวของกลุ่ม 16 เพื่อต่อรองผลประโยชน์แลกกับเสียงโหวตไว้วางใจในศึกซักฟอกว่า ยืนยันไม่มีเรื่องดังกล่าว การยกมือโหวตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ข้อมูล ในฐานะ ส.ส.แม้จะอยู่ฝั่งรัฐบาล แต่เพื่อประโยชน์ของประเทศพร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับฝ่ายค้าน กลุ่ม 16 พร้อมตอบรับคำเชิญ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หารือเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่าจะนัดหมายกันได้ภายในสัปดาห์นี้ ถือเป็นมิติใหม่ของนักการเมืองที่ต้องเรียกความศรัทธา ความเชื่อมั่นให้กลับสู่รัฐสภา ถือเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อประเทศ เพื่อให้รัฐบาลไม่กล้าทำอะไรที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวระมัดระวังมากยิ่งขึ้นในการอนุมัติโครงการต่างๆบี้ผู้นำทบทวนอย่าฝืนหาประโยชน์นายพิเชษฐกล่าวอีกว่า โครงการระบบท่อส่ง น้ำพื้นที่อีอีซี ที่บริษัท อีสท์วอเตอร์ แพ้ประมูลบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง โดยบริษัทที่ชนะประมูลไม่มีพื้นฐานประสบการณ์มีความไม่ชอบมาพากล นายกฯควรเรียกมาทบทวนโครงการดังกล่าว ส่วนการพุ่งเป้าโหวตไม่ไว้วางใจไปที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หากสุดท้ายแล้ว จะถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นไร เพราะสนใจเรื่องประเทศ ผลประโยชน์ประชาชนมากกว่า หากขับออกไปหาพรรคใหม่ได้ไม่เสียหาย ถ้าข้อมูลฝ่ายค้านตรงกับผม พร้อมยกมือโหวตไม่ไว้วางใจ“อ๋อย” อัด “มาร์ค” อย่าขู่ให้คนกลัว รปห.นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายก รัฐมนตรี ออกมาระบุว่า มองพรรคเพื่อไทยยังก้าวไม่พ้นตระกูลชินวัตรและหากชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลอาจเจอรัฐประหารอีกว่า อย่าขู่ประชาชนว่าถ้าเลือกพรรคนั้นพรรคนี้แล้วจะเกิดรัฐประหาร ที่นายอภิสิทธิ์บอกให้ระวังว่าถ้าพรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์อาจมีการรัฐประหารอีกนั้น หากมองว่าเป็นการพูดเพื่อไม่ให้คนเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งก็พอเข้าใจได้ แต่ที่เป็นปัญหาก็คือการพูดอย่างนี้เป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตยและสนับสนุนเผด็จการและการรัฐประหารในหลักการประชาธิปไตยมีด้วยหรือที่หากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีพฤติกรรมหรือการกระทำที่เป็นลักษณะของการเอื้อประโยชน์ ให้ครอบครัว ให้พวกพ้อง หรือไปทำอะไรที่ฝืนกับหลักธรรมาภิบาลอย่างที่นายอภิสิทธิ์ยกขึ้นมาแล้วจะเป็นความถูกต้องชอบธรรมในการทำรัฐประหาร ถ้ามีพฤติกรรมอย่างนั้นจริง ทำไมไม่ใช้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่จัดการ นายอภิสิทธิ์เห็นว่าในบางเงื่อนไข การรัฐประหารเป็นเรื่องจำเป็น แต่ตนเห็นว่าไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร การทำรัฐประหารก็ไม่เป็นสิ่งที่ถูกต้องและไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างไร การรัฐประหารก็จะนำไปสู่สถาน การณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเสมอฉะก้มหัวให้ยึดอำนาจไม่เคยเปลี่ยนนายจาตุรนต์กล่าวว่า เคยเห็นใจนายอภิสิทธิ์ที่ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรคและต่อมาต้องลาออกจาก ส.ส. เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล ทั้งที่โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งเมื่อปี 62 นายอภิสิทธิ์ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เข้าใจผิดไปว่านายอภิสิทธิ์เปลี่ยนใจนาทีสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งเป็นไม่เห็นด้วยกับการสืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่เพียงแค่แบ่งบทกันเล่นเท่านั้นเอง ก่อนรัฐประหารปี 49 นายอภิสิทธิ์ร่วมอยู่กับการบอยคอตเลือกตั้งที่ชักชวนให้กองทัพยึดอำนาจ ก่อนรัฐประหารปี 57 นายอภิสิทธ์เข้าร่วมขบวนการเป่านกหวีดของ กปปส. สร้างเงื่อนไขให้รัฐประหาร หากเพื่อไทยชนะถล่มทลายอาจนำไปสู่รัฐประหารได้ เป็นความเห็นที่คงเส้นคงวาของนายอภิสิทธิ์ ที่เห็นว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งที่ทำได้และบางสถานการณ์เป็นสิ่งที่ดีถึงขั้นที่ต้องช่วยสร้างเงื่อนไขหรือเชื้อเชิญให้เกิดขึ้น “โรม” ชี้ซักฟอกหมาตายเห็บกระโดดนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ประเมินความเข้มข้นศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ชัดเจนว่ารัฐบาลอ่อนแอลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะความขัดแย้งภายในยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า ขั้ว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะยกมือโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมหรือไม่ ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายมีน้ำหนัก อาจทำให้เกิดสภาวะหมาตายเห็บกระโดดไม่มีใครตอบได้ว่าในที่สุดจะเกิดภาพนั้นหรือไม่ ปัจจัยชี้ขาดคือเสียงในสภาฯหลายเสียง โดยเฉพาะคนที่ยังสนับสนุนรัฐบาล ยังไม่มีใครออกมาบอกว่าต่อไปนี้ไม่โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว แต่ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายโน้มน้าวสังคมไทยได้ โอกาสจะเกิดหมาตายเห็บกระโดดจะมี ส่วนกระแสนายกฯสำรองหรือพรรคเล็กกลุ่ม 16 คุยกับฝ่ายค้านเอาจริงหรือแค่เรียกราคา เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ อาจเป็นการเรียกราคา ยืมมือฝ่ายค้านเพื่อเจรจาให้ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการจากฝั่งรัฐบาลแพงขึ้นก็ได้สุดท้าย ปชป.-ภท.ทิ้ง “บิ๊กตู่” ตายเดี่ยวนายรังสิมันต์กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ยังเก็บขุนพลอย่าง ร.อ.ธรรมนัสไว้เป็นพรรคพวกกัน คงขัดแย้งมากแน่ๆ คนเป็นนายกฯไม่สามารถจัดการคนที่พยายามทำลายตำแหน่งตัวเองได้แสดงว่าอิทธิฤทธิ์ ฤทธิเดชของ พล.อ.ประยุทธ์น้อยลงแล้วข่าวลือว่า พล.อ.ประวิตรต้องการเป็นนายกฯ มีมานานแล้ว บางทีข่าวลือที่มันอยู่นานๆ อาจกลายเป็นข่าวจริงก็ได้ ถึงที่สุดในรัฐบาลไม่มีใครรักใครกันจริงหรอก ทุกคนเอาตัวรอด วันหนึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ไปต่อไม่ได้ เห็บตัวอื่นๆอย่างพรรคภูมิใจไทยประชาธิปัตย์ อาจกระโดดออกมาก็ได้แล้วพยายามบอกกับสังคมว่าคนนี้ไม่ไหวแล้ว ทุกคนจะถือมีดคนละเล่มมาช่วยกันแทง ไม่มีใครอยากถูกตราหน้าว่าเป็นพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์แน่ๆ บทสุดท้ายของหนังเรื่องนี้คือพล.อ.ประยุทธ์คงตายอย่างโดดเดี่ยวทุบไม่ไว้หน้าใช้เครื่องประหารหัวสุนัขเมื่อถามถึงปัญหาของแพงกระทรวงพาณิชย์ ควรถูกถล่มในศึกซักฟอกรอบนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า คนรู้สึกว่าของแพงจริงๆน่าคิดว่าปัญหาภายในพรรคประชาธิปัตย์รึเปล่า จึงแก้ของแพงไม่มีประสิทธิภาพ ดูเหมือนนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ มัวแต่เอาเวลาไปแก้ปัญหาในพรรค จนลืมแก้ปัญหาประชาชนหรือเปล่า ตกลงรัฐมนตรีคนนี้ดีจริงหรือไม่ หรือสุดท้ายไม่ได้มากไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์ที่ไม่สามารถนำพาประเทศไปได้ดีกว่านี้ได้ คะแนนนิยมอนาคตของปชป.จะเป็นอย่างไร จะอภิปรายนายจุรินทร์ด้วยหรือไม่ คงต้องรอฝ่ายค้านเคาะเป็นทางการ แต่ยืนยันในมุมก้าวไกลเนื้อหาสำคัญที่สุด เราไม่ไว้หน้าใคร คงไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคน ทั้งที่มีหลักฐานความผิดชัดเจน เพียงเพราะว่าเราหวังว่าเดี๋ยวเขาจะได้ทรยศหักหลัง พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่ากระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ามีปัญหาชัดเจนสะท้อนให้สังคมได้รับทราบถึงความล้มเหลวของรัฐมนตรี เราต้องเดินหน้าใช้เครื่องประหารหัวสุนัข“ธนกร” ฉะจนตรอกดีลพรรคจิ๋วล้ม รบ.นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านมอบนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ดีลกับพรรคเล็ก และไม่ปิดทางพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย เพื่อรวมเสียงล้มรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ยิ่งใกล้วันที่จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจยิ่งชัดเจนว่า ฝ่ายค้านไม่ได้เน้นเนื้อหาอภิปราย คล้ายกับว่าไม่น่าจะมีข้อมูลเด็ดอะไรอย่างที่สลับหน้ากันออกมาโหมโรงรายวัน แต่หันไปเน้นของการชักชวนพรรคนั้นพรรคนี้ให้ช่วยยกมือให้ล้มรัฐบาลให้ได้ ไม่ต่างอะไรกับคำว่าจนตรอก เห็นแล้วได้แต่อนาถใจ สงสารประชาชน ที่มีฝ่ายค้านแต่ไม่เคยตระหนักถึงการทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรี สุดท้ายคงจะซ้ำรอยเหมือนกับการอภิปรายในหลายครั้งที่ผ่านมา เน้นวาทกรรมมากกว่าข้อเท็จจริง โดยประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากได้เห็นธาตุแท้ของฝ่ายค้านอัด “จาตุรนต์” ปลุกรบยิ่งสร้างปัญหานายธนกรกล่าวว่า ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกฯระบุประเทศไทยมีรัฐบาลแบบเผด็จการ ทำให้ประเทศเสื่อม อยากบอกว่าประเทศไทยรู้จักคำว่ารัฐบาลเผด็จการมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายจาตุรนต์แล้ว ถึงขั้นกลายเป็นสภาผัวเมียด้วยซ้ำ จึงทำให้ประเทศเสื่อมมาตั้งแต่วันนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม จึงต้องเข้ามาแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน รวมถึงความแตกแยกของคนในบ้านเมือง การทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นปัญหาใหญ่ จนมีอดีตรัฐมนตรีถูกตัดสินจำคุกไปแล้วหลายราย ที่บอกว่าจะสู้ 2 แนวรบแก้ปัญหาบ้านเมืองและสร้างประชาธิปไตย หากดูพฤติกรรมที่ผ่านมา จะยิ่งเพิ่มปัญหามากกว่า “บิ๊กตู่” ตกเก้าอี้ “บิ๊กป้อม” รักษาการที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯกล่าวถึงกระแสข่าวนายกฯสำรองเกิดขึ้นได้หรือไม่ว่า ยังไม่รู้เลยว่านายกฯสำรองที่พูดกันแปลว่าอะไร สำรองตอนไหน ตอนนี้หรือหลังเลือกตั้ง ต้องเริ่มต้นลำดับที่ 1 ต้องดูจากบัญชีรายชื่อที่มีอยู่ หากไม่เอารายชื่อดังกล่าว ต้องใช้มาตราเปิดทางคนนอกบัญชี แต่ก่อนจะเป็นนายกฯสำรอง ต้องมีนายกฯรักษาการก่อน ต้องมีคนใดคนหนึ่งรักษาการ จะว่างเว้นนายกฯไม่ได้ สมมติว่าเกิดมีคำวินิจฉัยว่าเข้า 8 ปี ผู้เป็นนายกฯรักษาการเป็นไปตามลำดับที่เรียงไว้คนแรกคือ พล.อ.ประวิตร และคนที่ 2 คือตน นายกฯรักษาการยุบสภาฯได้ แต่ไม่เคยทำ จากนั้นเป็นหน้าที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ต้องจัดให้เลือกนายกฯ คนใหม่ใน 3-7 วันเหมือนเลือกนายกฯครั้งที่ผ่านมา โดยใช้บัญชีที่มีอยู่ นี่แหละคือสำรอง ได้แก่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายชัยเกษม นิติสิริ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 5 คนนี้ คือบัญชีสำรองนายกฯคนนอกทำได้แต่ซับซ้อนเมื่อถามว่าคุณหญิงสุดารัตน์ ออกจากพรรคเพื่อไทย (พท.) แล้วยังเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรรค พท.ได้อีกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่สำคัญ ชื่อยังอยู่ในบัญชี เมื่อถามว่า หากคนที่อยู่ในบัญชีนายกฯ สำรองต้องการเป็นนายกฯ ต้องไปรวบรวมเสียง ส.ส.ให้มากที่สุดใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่รู้ กระบวนการคือ นายชวนต้องเรียกประชุมรัฐสภากำหนดว่าถึงเวลาเสนอชื่อนายกฯเหมือนครั้งที่แล้วและลงมติแข่งกัน ใครคะแนนสูงสุดว่ากันไป จะเสนอชื่อคนนอกไม่ได้ ต้องเสนอจากรายชื่อที่อยู่ในบัญชี เลือกได้หรือไม่ได้ต้องมี ส.ส. 250 คนเสนอให้ล้มบัญชีที่มีและเอาบัญชีใหม่ ประธานรัฐสภาก็เรียกประชุมรัฐสภา โดยรัฐสภาต้องมีมติ 500 เสียงจาก 750 เสียงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้เห็นชอบ เมื่อเห็นชอบจะมี ส.ส. 50 คนเสนอชื่อ ประชุมรัฐสภาอีกครั้ง โหวตว่าจะเอาชื่อไหน กระบวนการทำได้แต่ซับซ้อน บางคนอาจบอกง่ายนิดเดียว เพราะทำได้ก็ไปทำเอา แต่จะมีอายุถึงเดือน มี.ค.66 เท่ากับอายุสภาฯ ไม่รู้จะมาพูดทำไมเรื่องนายกฯสำรอง สำรองมีอยู่แล้วคือ 5 คนที่บอกไป ใครที่ไม่อยู่ในนี้ไม่ใช่สำรองทั้งนั้น“อภิสิทธิ์” ปัดวิจารณ์ “อุ๊งอิ๊ง”นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุนายอภิสิทธิ์ขู่ประชาชน ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยแล้วจะเกิดรัฐประหารว่าได้พูดชัดเจนว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่อาจมี น.ส.แพทองธารถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯไม่ได้เป็นปัญหา ทุกคนต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนอยู่แล้ว แต่เตือนว่าถ้า น.ส.แพทองธารบริหารประเทศแล้วนำไปสู่การเอื้อประโยชน์ให้บุคคลในครอบครัว พวกพ้อง ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม กลไกตรวจสอบถ่วงดุล องค์กรอิสระ อาจเป็นเงื่อนไขให้รัฐประหารเหมือนในอดีตได้ ไม่เคยเรียกร้องหรือยอมรับว่าการรัฐประหารชอบธรรม ตรงข้ามพยายามเสนอทางออกหลีกเลี่ยงรัฐประหารตั้งแต่ มี.ค.57 โน้มน้าวตัวแทนพรรคเพื่อไทยและรัฐบาลขณะนั้นให้แสวงหาทางออกจนถึงนาทีสุดท้ายก่อนรัฐประหาร แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง และไม่ได้มีส่วนได้เสียทางการเมืองขณะนี้ เพราะยังไม่มีแนวคิดจะหวนกลับเข้าสู่การเมืองเร็วๆนี้ ที่กล่าวถึงพรรคเพื่อไทยว่าก้าวไม่พ้นครอบครัวชินวัตร สะท้อนความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก ที่เห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีบุคลากรมากมาย ที่จะนำพาพรรคให้เป็นสถาบันทางการเมืองได้มากขึ้น ไม่ได้วิจารณ์คุณสมบัติ น.ส.แพทองธาร“ชวน” ไม่คิดกลับไปนั่ง หน.ปชป.ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายกฯคนนอกว่า กลไกรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ไปออกนอกรัฐธรรมนูญไม่มี แต่ตัวบุคคลเป็นอีกเรื่องหนึ่งเหลือ 1 ปีอะไรจะเกิดขึ้นไม่อาจไปพยากรณ์ล่วงหน้าได้ ส่วนกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรค ปชป.เสนอให้กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคขอบคุณในความ ปรารถนาดี แต่ไม่มีความคิดนั้น แต่พยายามจะช่วย หลายคนมาหารือจะให้ตนมารักษาการสักพักหนึ่งได้ตอบว่าไม่มีความคิดเรื่องนี้ในใจ แต่จะช่วยเท่าที่ทำได้ ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาที่มี นายจุรินทร์ไม่ธรรมดาเป็นคนเก่ง แม้มีความคิดแตกต่างกันบ้างสังเกตว่านายจุรินทร์ไม่ไปชี้แจง ไม่ไปทำความเข้าใจ ทำให้หลายคนอึดอัดน้อยใจ ตั้ง “อิสระ” เสียบแทน “ปริญญ์”เมื่อเวลา 15.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุมกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกปชป. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะ กก.บห.มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรังและนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราชเป็น กก.บห.แทนนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข และ น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ที่ลาออกและมีมติแต่งตั้งนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองเลขาธิการพรรคเป็นประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจทันสมัยแทนนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ที่ลาออก และเห็นชอบในหลักการข้อเสนอของคณะกรรมการกำหนดแนวทางในการตรวจสอบคุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกผู้ที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค ส่งให้ฝ่ายกฎหมายพรรคไปยกร่างแก้ไขข้อบังคับพรรค“บิ๊กน้อย” ปัดวุ่น ศท.ไม่มีเอี่ยวดีลลับนายคมสัน พันธุ์วิชาติกุล รองโฆษกพรรคเศรษฐกิจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ขออนุญาต ชี้แจง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรค เศรษฐกิจไทย ยืนยันว่า ไม่มีแนวความคิดขัดขวางการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งจับมือกับฝ่ายค้านและ พรรคเล็กโค่นล้มรัฐบาล ข่าวที่ออกมาเป็นความเห็น ของส่วนบุคคล ยืนยันพรรค ศท.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และจะไม่ไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการตามที่มีข่าวออกมา ไม่ได้สนับสนุนนายกฯ คนนอก พรรคจะมุ่งเน้นทำหน้าที่ส่งเสริมแนวทางตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อยึดตามหลักประชาธิปไตย ขอให้มั่นใจว่าพรรคศท.มีนโยบายชัดเจนจะทำการเมืองสร้างสรรค์ ไม่ขัดแย้ง สันติ ตรงไปตรงมา และไม่มีดีลลับอะไรทั้งสิ้น“วรวิทย์” นั่งประธานศาล รธน.ต่อผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสารข่าวระบุว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มีหนังสือ ที่ สว (ศรธ) 0008/(ส) 407 ลง วันที่ 29 เม.ย.65 แจ้งคำวินิจฉัยคณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่ขอให้วินิจฉัยอ้างเหตุที่นายวรวิทย์มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 208 (1) ประกอบมาตรา 202 (1) ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ กรณีเป็นหรือเคยเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ว่านายวรวิทย์มิได้เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตาม 202 (1) ของรัฐธรรมนูญ อันเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 208 (1) ของรัฐธรรมนูญแต่ประการใด ดังนั้น นายวรวิทย์จึงยัง คงอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้จนกว่าจะครบวาระงดเชิญ “บิ๊กตู่” ร่วมงานญาติวีรชนเมื่อเวลา 14.30 น. ที่รัฐสภา กลุ่มญาติวีรชนพฤษภา’35 นำโดยนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เข้าพบนาย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เชิญร่วมงาน “30 ปี รำลึกพฤษภาประชาธรรม” ในวันที่ 17 และ 19 พ.ค.โดยนายชวนตอบรับยินดีเป็นประธานเปิดงาน จากนั้นนายอดุลย์ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่มีมติ ครม.ปี 48 อนุมัติสร้างอนุสาวรีย์รำลึกญาติวีรชนพฤษภา 35 และก่อตั้งมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม นายทักษิณไม่อยู่ ญาติวีรชนฯจะไปกราบขอบคุณผ่าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ญาติวีรชนจะไม่เชิญมาร่วมงานใน ฐานะผู้ก่อตั้งกลุ่มไทยไม่ทนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์เป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญร่วมงาน แต่จะเชิญ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มาร่วมงานแทนเกือบ 8 ปีแล้ว พล.อ.ประยุทธ์เพิกเฉยไม่ให้เกียรติมาร่วมงาน ขณะที่ พล.อ.ประวิตรสั่ง พล.ต.อ.วัชรพล ประสาร ราชกิจ คนใกล้ชิด และประธานวุฒิสภา มาร่วมงาน ถือว่ามีน้ำใจ “บิ๊กป้อม” ไปเชียงรายแก้ปัญหาที่ทำกินที่ จ.เชียงราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯพร้อม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมและคณะลงพื้นที่ตรวจราชการวิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ติดตามการจัดสิทธิที่ดินทำกิน สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนและปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้ำ รองรับปัญหาขาดแคลนน้ำแก่ประชาชนภาคเหนือ โดยนายภาสกร บุญญลักษม์ ผวจ.เชียงราย และ พล.ต.อ.สมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. สรุปภาพรวมการจัดสิทธิที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จัดเป็นที่ดินชุมชนแปลงรวมให้เกษตรกร โดย พล.อ.ประวิตรได้มอบหนังสืออนุญาตการเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ให้ตัวแทนวิสาหกิจชุมชนพื้นที่ป่าแม่อิงฝั่งขวา ป่าแม่งาว รวมทั้งพื้นที่ป่าน้ำหงาวฝั่งซ้าย พร้อมแสดงความพอใจ บจธ.ที่ช่วยเกษตรกรและผู้ยากจนไร้ที่ดินทำกิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม จากนั้นไปยังวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ต.ดอยฮาง อ.เมือง ทำพิธีเปิดอาคารหอประชุม ชมแปลงเกษตร ช่วงบ่ายไปตรวจเยี่ยมโครงการปรับปรุงแหล่งน้ำเดิมอ่างเก็บน้ำห้วยตีนนก บ.ใหม่มงคล ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย“บิ๊กตู่” ต้อนรับนายกฯญี่ปุ่นเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้การต้อนรับนายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกฯญี่ปุ่นที่เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์นำตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นนายคิชิดะ ฟูมิโอะ ลงนามในสมุดเยี่ยม เดินชมภายในห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า หารือข้อราชการเต็มคณะ ที่ตึกภักดีบดินทร์ และเป็นสักขีพยานพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือตามลำดับ ก่อนแถลงข่าวร่วมกันที่ตึกสันติไมตรี โดยเวลา 18.30 น. นายกฯเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯญี่ปุ่น ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอกให้ไทยกู้ 1.3 หมื่นล้านสู้โควิดด้านนายชิคาตะ โนริยูกิ โฆษกสำนักนายก รัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า การพบปะครั้งนี้มุ่งเน้น ความร่วมมือทวิภาคี 3 ประเด็นคือ 1.ความร่วมมือทางความมั่นคง ที่รวมถึงการเจรจาโอนถ่ายยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีความมั่นคงของญี่ปุ่นแก่ไทย การเจรจาข้อตกลงความร่วมมือด้านการสืบสวนสอบสวนแบ่งปันข้อมูลโดยไม่ต้องใช้ช่องทางการทูต 2.การพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้ไทยเป็นห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็งและ 3.การตอบสนองต่อสถานการณ์ โควิด-19 ญี่ปุ่นจะปล่อยเงินกู้ให้ไทยเพื่อใช้แก้ปัญหาโควิด-19 มูลค่า 50,000 ล้านเยนหรือกว่า 13,226 ล้านบาท