7 กลุ่มแนวร่วมขับไล่รัฐบาล “บิ๊กตู่” จัดคาร์ม็อบ “ยื่นหยุดขัง” ยื่นหนังสือศาล อาญา เรียกร้องปล่อยตัว 7 แกนนำราษฎร ยันเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นเคลื่อนขบวนไปจัดกิจกรรมหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ปล่อยนกพิราบ 7 ตัวเป็นสัญลักษณ์แทนแกนนำราษฎร 7 คน นัดใหม่คาร์ม็อบบุกเรือนจำธัญบุรี 11 ก.ย. ศูนย์ทนายฯเผยเพนกวิน บอย ไมค์ ถูกย้ายจาก รพ.ราชทัณฑ์ไปขังที่เรือนจำธัญบุรีแล้ว นักเรียนเลวบุก ศธ.ยื่นหนังสือจี้รัฐเยียวยาสุขภาพจิตเยาวชนที่เรียนออนไลน์กรณีความเคลื่อนไหวทางการเมืองขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 ก.ย. บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 7 กลุ่มแนวร่วมขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประกอบด้วยเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้า เฟมินิสต์ปลดแอก 24 มิถุนาประชาธิปไตย การ์ดอาสาโรนินฝั่งธน และการ์ด black partisan ร่วมจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ “ยื่นหยุดขัง” วัตถุประสงค์เรียกร้องให้ศาลอนุมัติปล่อยตัวชั่วคราว 7 แกนนำราษฎรที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ แนวร่วมทยอยนำรถมาจอดตั้งขบวนริมถนนราชดำเนินกลางขาเข้า ประกอบด้วยรถชนิดต่างๆร่วม 100 คัน ติดข้อความสัญลักษณ์ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ และเรียกร้องปล่อยเพื่อนเรา มีนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท เข้าร่วมด้วย นายเจษฎา ศรีปลั่ง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า เมื่อขบวนเคลื่อนมาถึงศาลอาญาจะยื่นหนังสือถึงศาลโดยตัวแทนเครือข่าย เพื่อบอกว่าให้ปล่อยตัวเพื่อนเรา เนื่องจากไม่ได้กระทำความผิด และปราศรัยถึงสิทธิเสรีภาพที่ขัดต่อมาตราต่างๆที่กำลังเป็นอยู่ จากนั้นจะโปรยใบปลิวเรียกร้องความยุติธรรมบริเวณสะพานลอยหน้าศาลฎีกา และเวลา 15.00 น. จะตั้งเวทีหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไฮไลต์คือการปล่อยนกพิราบ 7 ตัวเท่ากับจำนวนเพื่อนเรา 7 คนที่ถูกคุมขัง ทราบว่าวันนี้ทีมทนายยื่นศาลเพื่อขอประกันตัว หวังว่าเพื่อนเราจะได้รับอิสรภาพ แต่หากไม่ได้วันที่ 11 ก.ย. จะมีคาร์ม็อบอีกกลุ่มไปที่ศาลจังหวัดธัญบุรีจากหน้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จ.ปทุมธานีนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่ม 24 มิถุนายนฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญในหนังสือที่จะยื่นถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคือ กฎหมาย ป.วิอาญา ม.29 ระบุว่าหากยังไม่มีการพิพากษาสิ้นสุดให้สันนิษฐานว่าจำเลยเป็นผู้บริสุทธิ์ก่อน การคุมขังจำเลยทำได้กรณีมีความพยายามหลบหนี แต่คนที่อยู่ในเรือนจำทั้งหมดไม่ได้มีพฤติกรรมแบบนั้น ทั้งยังประสงค์ต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด จึงเห็นว่าการนำตัวไปขังเป็นการเอาเปรียบและมัดมือชก ต้องมาบอกให้ทุกฝ่ายรู้ว่า สิ่งที่เราต่อสู้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญกฎหมายแม่สูงสุด ผู้ถูกคุมขัง 7 คนไม่ใช่อาชญากร แต่เป็นผู้ปรารถนาดีต่อบ้านเมือง อยากเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้า ทั้งเป็นบุคคลที่มีความขัดแย้งต่อรัฐบาลเผด็จการที่ปกครองประเทศตอนนี้ คดีนี้จึงเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่จะวัดมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมไทยด้านนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย กล่าวว่า ขอตราหน้าว่ารัฐบาลชุดนี้กลัวความยุติธรรม กลัวแม้กระทั่งนักศึกษาที่ตาสว่างและต้องการความจริง พยายามบิดเบี้ยวกระบวนการยุติธรรมเพื่อพวกพ้องและตัวเองต่อมาขบวนคาร์ม็อบ “ยื่นหยุดขัง” เคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถึงหน้าศาลอาญาเวลา 13.55 น. เพื่อยื่นหนังสือร้องให้ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยชั่วคราวนักกิจกรรมที่ถูกคุมขัง อาทิ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายอานนท์ นำภา นายภาณุพงษ์ จาดนอก หรือไมค์ พร้อมพวกรวม 7 คน มีตำรวจนครบาลและตำรวจศาลตรึงกำลัง นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า เผยก่อนเข้ายื่นหนังสือว่าการยื่นหนังสือครั้งนี้เพื่อให้ตระหนักถึงการนำผู้บริสุทธิ์มากักขัง การจำกัดอิสรภาพ สิทธิ เสรีภาพทั้งที่ยังไม่มีการพิพากษา หวังว่าศาลจะพิจารณาให้ประกันตัวชั่วคราว หลังจากนั้นตัวแทนกลุ่มต่างๆ 4 คน เข้ายื่นหนังสือภายในพื้นที่ศาลอาญา ต้องการให้มีผู้รับมอบหนังสือ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้นำเอกสารหย่อนไว้ในตู้รับหนังสือ ยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวจะนำส่งถึงผู้บริหารศาลอาญาอย่างแน่นอน หลังจากนั้นมวลชนจึงเคลื่อนตัวต่อไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ต่อมาเวลา 14.40 น. ขบวนคาร์ม็อบเคลื่อนมาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์จุดสุดท้าย บริเวณหน้าทางเข้าเรือนจำกลางคลองเปรม เรือนจำนำรั้วลวดหนามมาตั้งขวางไว้ไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาประชิดป้ายและรั้วเรือนจำ ทำให้ทั้งหมดต้องรวมกลุ่มทำกิจกรรมบริเวณริมถนนงามวงศ์วาน นายเจษฎา ศรีปลั่ง นำนกพิราบ 7 ตัวมาแจกให้แกนนำทุกเครือข่ายที่เข้าร่วมถือคนละตัวสื่อถึง 7 แกนนำราษฎรที่อยู่ในเรือนจำ จากนั้นปล่อยขึ้นฟ้าให้เป็นอิสระ ต่อด้วยการปราศรัยของนายธนพัฒน์ กาเพ็ง กลุ่มทะลุฟ้า นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง กลุ่มราษฎรนนทบุรี ระหว่างนั้นเกิดฝนตกกระหน่ำลงมาในพื้นที่อย่างหนัก ทางกลุ่มต้องรีบปิดกิจกรรมยื่นหยุดขังด้วยการตีกลองสะบัดชัย ตีกลองแบบผสมผสาน 5 ตัวของกลุ่มราษดรัม ก่อนร่วมกันร้องเพลงสหายของศิลปินยุค 14 ตุลาคม จิ้น กรรมาชน แล้วแยกย้ายกลับด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กเพจระบุว่า เวลาประมาณ 10.30 น. ทีมทนายเข้าเยี่ยมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ซึ่งรักษาอาการโรคโควิด-19 อยู่ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทราบว่าเวลา 12.30 น.ทั้ง 3 คนถูกนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ถูกนำไปคุมขังอยู่ก่อนหน้า ขณะนี้ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ คงเหลือเพียงนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ยังรักษาตัวอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กลุ่มนักเรียนเลว นำโดยนายพีรพล ระเวกโสม น.ส.เมย์รินทร์ ขันสัมฤทธิ์ พร้อมเยาวชนราว 10 คน สวมเครื่องแบบนักเรียนนำเทปกาวติดป้ายชื่อสถาบัน มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์นั่งกราบป้ายกระทรวงศึกษาฯ และยื่นหนังสือถึง รมว.ศึกษาธิการ ผ่านนายวีระ แข็งกสิการ รองปลัด ศธ. เรียกร้อง 5 ข้อ1.ศธ.ต้องออกคำสั่งปรับลดตัวชี้วัด ชั่วโมงการเรียน ภาระงานของครูและนักเรียนให้ชัดเจน ปรับหลักสูตรการศึกษาให้เหมาะสมกับสถานการณ์การเรียนออนไลน์ปัจจุบันทันที2.จัดผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือและเยียวยาสภาพจิตใจนักเรียนจากการเรียนออนไลน์ที่มีความเคร่งเครียดมากกว่าปกติ จัดให้มีช่องทางการรายงานปัญหาต่างๆเพื่อตรวจสอบ และหาทางแก้3.กรณีสถานศึกษายังไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ ศธ.ต้องจัดหาอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ และเยียวยาค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริงอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง4.ต้องเร่งทำให้การศึกษามีคุณภาพอย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตามที่บัญญัติไว้ใน รธน. อาจลดหย่อนค่าธรรมเนียมการศึกษา พักชำระหนี้การศึกษา ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้มีนักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษามากกว่านี้5.รัฐบาลต้องนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงมาฉีดให้นักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการศึกษา และประชาชนทั่วไป ต้องเปิดเผยข้อมูล สัญญา และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดซื้อวัคซีนอย่างโปร่งใสเวลา 17.00 น. บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันราว 40 คน นำโดย นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ หรือเต้ บูรณพนธ์ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เดินเทิดพระเกียรติระลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่หน้าศาลฎีกา เป็นเวลาเดียวกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับนำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ มายืนสงบนิ่งเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยแกนนำกลุ่มราษฎรที่เป็นผู้ต้องหา ม.112 ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำกำลังเตรียมพร้อม และยืนขวางไว้เพื่อกันให้อยู่ห่างกันราว 30 เมตร เวลา 17.06 น. กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันร่วมกัน ร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีหน้าพระบรมฉายาลักษณ์หน้าศาลฎีกา ก่อนแยกย้ายกลับมีกลุ่มการ์ดโรนินฝั่งธน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและขับขี่รถ จยย.มาสมทบกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกอาชีวะปกป้องสถาบันทำร้าย ทำให้มวลชนทั้ง 2 กลุ่มตะโกนท้าทายกัน แต่กลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันจำนวนน้อยกว่าต้องถอยร่นจากพื้นที่โดยขับรถ จยย.ไปทางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า มีกลุ่มโรนินฝั่งธนขี่ จยย.ติดตามไปบริเวณแยกดินแดง เวลา 17.45 น. กลุ่มทะลุแก๊ส ขี่รถ จยย.มารวมตัวกันตามนัดหมาย ตรงเข้าท้าทายยั่วยุเจ้าหน้าที่ให้ออกมาไล่จับกุม ท่ามกลางสายฝนตกโปรยปราย โหมโรงด้วยการเบิ้ลเสียงรถ จยย.ขี่วนไปมาเสียงดัง กีดขวางการจราจรระหว่างสามเหลี่ยมดินแดง แยกดินแดง กรมดุริยางค์ทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ทุบกล้องวงจรปิดที่แยกดินแดง ขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊กลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่อง และไปป์บอมป์ต่างๆเข้าไปในกรมดุริยางค์ทหารบกเสียงดังสนั่น ด้านเจ้าหน้าที่ คฝ.ยังสังเกตการณ์ในที่ตั้งกรมดุริยางค์ สำนักงาน ป.ป.ส. และสถานที่ราชการใกล้เคียง ยังไม่มีวี่แววบุกเข้าจับกุม