ถึงคิวมนุษย์เงินเดือนได้รับเยียวยาจากภาครัฐ ไฟต์บังคับบีบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพิ่มผู้ประกันตนตามมาตรา 33 อยู่ในลิสต์ได้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพ กรณีได้รับผลกระทบจากวิกฤติเชื้อโควิด-19เร่งถอดสลักอารมณ์กองทัพมนุษย์เงินเดือน คนส่วนใหญ่ของประเทศ บรรเทาอาการหัวร้อนไม่ให้กระพือหนักขึ้น ในห้วงท้องหิว ได้รับความเดือดร้อนไม่แพ้กลุ่มอื่นๆกลุ่มคนชนกลางไม่ตกสำรวจ ได้เกาะขบวนรับเงินเยียวยา 4,000 บาท รอส่ง ครม.ชี้ขาดขั้นตอนสุดท้าย“ลุงตู่” ล่าแต้มบวก เคลียร์สารพัดปัญหามือเป็นระวิง ลดการถูกทิ้งบอมบ์ จุดกระแสดราม่าทุกเรื่อง ทั้งการเรียกคืนเงินเบี้ยยังชีพคนแก่ การเลือกปฏิบัติแจกเงินประชาชน ความล้มเหลวควบคุมการระบาดเชื้อโควิดแม้กระทั่งเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา ก็ยังมีลูกหลงแฉลบมาถึง เจอหางเลขถูกต่อว่าแดกดัน ในฐานะต้นแบบใช้ปลายกระบอกปืน ฉีกรัฐธรรมนูญฝนตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้ในยามที่ความศรัทธาถดถอยหนักต้องเร่งถอนฟืนจากกองไฟ สร้างความพอใจให้ทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังผ่อนแรงเสียดทานนอกสภาไม่ให้เติมเชื้อไฟศึกใหญ่ในสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลางเดือน ก.พ.แม้สู้ยังไงฝ่ายรัฐบาลก็ชนะ เพราะเสียงทิ้งขาดฝ่ายค้านไม่เห็นฝุ่น แต่ถ้าฝ่ายค้านมีช็อตเด็ด มัดผิดรัฐมนตรีจะแจ้ง ถึงพ่ายในสภา แต่นอกสภาอาจตรงกันข้าม จะเป็นตัวกระตุ้นปลุกแรงกระเพื่อมให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเกมในสภาจบ แต่เกมนอกสภาไม่จบ อาจมีคิวลากไปบู๊ต่อข้างถนนตามคิวการซักฟอกที่นอกจากจะล็อกเป้าใหญ่ถล่มพี่น้อง 3 ป.แล้ว อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ลากไส้รัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาลสาหัสตามไปด้วยกระแทกใส่หัวโจกพรรคร่วมรัฐมนตรีอย่าง 2 รัฐมนตรีค่ายภูมิใจ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เรื่องความล้มเหลวจัดหาวัคซีนโควิด นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กรณีปมผลประโยชน์สัญญารถไฟฟ้าสายต่างๆรวมถึง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ติดชนักปักหลัง ต้องเคลียร์ทุจริตจัดซื้อถุงมือยางภายในองค์การคลังสินค้าล็อกเป้าประจานความไม่โปร่งใสโครงการต่างๆหวังเป็นหมัดน็อกตามที่ฝ่ายค้านแพลม มีคนในรัฐบาลส่งข้อมูลลับมาให้ช่วยกะซวกพอเหมาะพอเจาะกับจังหวะความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล จับคู่ขบเหลี่ยมกันเอง อาทิ ปมคาราคาซังการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงคมนาคมหรือช็อตบาดหมางระหว่าง “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์” กรณีส่งผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ทีมลูกหาบ 2 ฝ่าย ตะโกนด่าสอนมารยาทการเมืองกันดุเดือด ไม่มีใครยอมใคร ถึงขั้นขู่ยกมือสวนมติพรรค ไม่โหวตสนับสนุนรัฐมนตรีของอีกฝ่ายในศึกซักฟอกรอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาลตั้งท่ากำเริบ ลากไส้กันเอง แอบส่งดาบให้ฝ่ายค้านฟันเพื่อนร่วมทีมยิ่งรัฐบาลถูกเปิดแผลลึกเท่าไร ยิ่งเร้าดีกรีเดือดนอกสภา ในห้วงที่การเมืองริมถนนตั้งท่ากลับมาร้อนแรง ม็อบสามนิ้วโผล่จัดอีเวนต์ ผสมโรงเรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา เลี้ยงกระแสการชุมนุมผนวกกรณีหัวโจกม็อบราษฎรถูกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา ท่ามกลางฉากเล่นใหญ่ของเจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำ แบริเออร์ ตรึงกำลังเข้มข้น หรือเคส นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ถูกรุกไล่ทางคดี ทั้งแจ้งข้อหามาตรา 112 ปมไลฟ์สดวัคซีนโควิด และยังถูกกรมป่าไม้แจ้งจับรุกป่า จ.ราชบุรี เนื้อที่ 2,100 ไร่ทั้งตัวพ่อและแกนนำม็อบเลือดเข้าตา ถูกบีบให้จนกระดาน ยิ่งปลุกอารมณ์กองเชียร์ให้ฮึกเหิมล่าสุดคณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ลงมติเสียงข้างมากให้การรับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของรัฐสภา หรือ 500 เสียง จาก 750 เสียง จึงจะตั้งแท่นแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จ จากเดิมใช้แค่เสียงกึ่งหนึ่ง และมี ส.ว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3โอกาสแก้รัฐธรรมนูญยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ต้องหาเสียง ส.ส.และ ส.ว.เห็นชอบเพิ่มมากขึ้นจึงจะแก้ได้สำเร็จ เปิดทางช่วย “ลุงตู่” อยู่ยาว ส่อแววไม่จริงใจให้แก้กฎหมายสูงสุดของประเทศสารพัดปัจจัยภายนอกไต่ระดับความเข้มข้น ค่อยๆสุมอารมณ์เดือดมวลชนให้กลับมาเคลื่อนไหวรอบใหม่ เหลือแค่รอจังหวะสุกงอมถึง “ลุงตู่” ลอยลำรอดเกมในสภาได้ ก็หนีไม่พ้นการเมืองนอกสภารับช่วงลากบู๊ต่อ!!!ทีมข่าวการเมือง