ผู้ใหญ่ของผมสองท่าน ท่านแรก “พี่ซูม” อยู่ในวงวิสาสะ ตอนนายกฯมาเยี่ยม “ไทยรัฐ” ท่านที่สอง “พี่มานิจ” เจอนายกฯในงานโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ที่เชียงรายสองสถานที่สองเวลา แต่คำบอกเล่าตรงกัน นายกฯประยุทธ์ ปรารภว่า คอลัมน์ใน “ไทยรัฐ” หมู่นี้เล่นงานท่านถี่เหลือเกิน “ด่าถูกผมไม่ว่า แต่ด่าผิด ผมก็เสียใจ”ทั้งเนื้อหาและน้ำเสียง ฟังได้ว่าท่านยังไม่โกรธขึ้งตึงตังนักหนา ถือว่าท่านยังมีมิตรจิต ตามประสาคนไทย ผมก็ขอมีสนองท่านด้วยมิตรใจหัวข้อเขียนที่ตั้งใจจะให้เป็นเรื่องดีๆวันนี้ เรียก “สัมโมทนียกถา” พระท่านกล่าวแสดงความขอบคุณ พูดถึงอานิสงส์ของความดีที่ทายกทายิกาได้ทำ เช่น สร้างกุฏิ สร้างหอระฆัง ถวายอาหาร ฯลฯเจตนาจะให้แช่มชื่นเบิกบาน เกิดความอิ่มใจ และปรารถนาจะทำบุญเพิ่มพูนยิ่งขึ้นอีกแต่คำสรรเสริญเยินยอแบบที่ว่า พระฝรั่ง อย่างอาจารย์พรหม สมภารวัดเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย ท่านใช้ข้อมูลการวิจัยทางจิตวิทยา ทักว่า คนฟังต้องใช้เวลาคิดนานราว 15 วินาทีเช่น คิดว่า ยายคนนี้พูดเรื่องอะไรกันนะ...เขากำลังเมาหรือบ้า และน่าจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงอยู่แน่ๆรวมความคนฟังคำสรรเสริญ มักอึดอัดทันที และมักหาวิธีปฏิเสธคำสรรเสริญเหล่านั้นตรงกันข้ามกับคำด่า หรือคำวิจารณ์ในแง่ลบ คนฟังจะได้ยินและเข้าใจในทันทีวิธีคิดต่อคำสรรเสริญและนินทา พระอาจารย์พรหม ไม่ได้มาง่ายๆ ท่านได้มาจากประสบการณ์ตรงปี พ.ศ.2547 ท่านได้รับรางวัลเหรียญจอห์น เคอร์ตินอัน (ชื่อนายกฯออสเตรเลีย สมัยสงคราม) ท่านกล่าวสุนทรพจน์ว่า แปลกใจที่ได้รางวัล เพราะยังมีคนอื่นๆอีกมากมายที่บำเพ็ญคุณประโยชน์มากกว่าท่านควรได้มากกว่าแล้วท่านก็สรุป ความสำเร็จของท่าน ได้มาจากแรงสนับสนุนของคนอื่นๆปีต่อมา ท่านถูกนิมนต์ไปงานเดียวกัน ผู้ที่ได้รางวัล หมอโจสกี้ หัวหน้าแผนกโลหิตวิทยา ทำงานเกี่ยวข้องกับคนป่วยโรคมะเร็ง นอกจากวิธีรักษาทันสมัย หมอยังทำศูนย์บำบัดผู้ป่วยทางเลือกเช่น การฝังเข็ม นวดเท้า เรกิบำบัด (พลังงานชีวิตครอบจักรวาล) วิธีรักษานี้หมอด้วยกันหัวเราะ แต่ก็มีผลในทางผ่อนคลายได้อย่างน่าอัศจรรย์ถึงคิวหมอกล่าว หมอก็พูดทุกประเด็น เหมือนกับที่พระอาจารย์พรหมพูดเมื่อปีที่แล้ว ท่านจึงรู้ว่าในสถานการณ์อย่างนี้ ทุกคนก็ต้องพูดอย่างนี้ แล้วท่านก็ชักไม่แน่ใจ ตัวท่านสมควรรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้หรือเปล่าคิดๆไป ท่านจึงได้ข้อสรุปว่า รางวัลนี้ได้จากนักวิชาการระดับสูง หลายคน แล้วตัวท่านมีสิทธิ์อะไรจะไปข้องใจการตัดสินอันชาญฉลาดและเชี่ยวชาญนั้นต่อมา เวลาพระอาจารย์พรหม ได้รับการยกย่องสรรเสริญ จากผู้ทรงคุณวุฒิใด ท่านจึงสนองด้วยคำพูดแบบใหม่ว่า “ขอบคุณนะ โยมยกย่องถูกคนแล้ว”คำตอบสนองทำนองนี้ ฟังดูแปลก ตอนแรกมีคนหัวเราะแต่ต่อมา พวกเขาก็เข้าใจ เราและเขาได้รับการตอบสนองด้วยความสุขไปด้วยกันประเด็นคิด สัมโมทนียกถา ที่จะพูดแต่เรื่องดีๆให้นายกฯฟังตามแบบ พระไทยของผม จึงต้องเปลี่ยนไปใช้สัมโมทนียกถาฉบับพระฝรั่ง แทนที่ผมจะสนองมิตรใจกับท่านไปเต็มๆว่า “ท่านเป็นนายกฯที่ดีมาหลายปี”ผมจะต่อด้วยประโยคที่ว่า “แต่ตอนนี้ มีเรื่องพวกพ้องน้องพี่ ของท่านทำให้ไม่แน่ใจ”จะสรรเสริญกันแบบมิตรจิตมิตรใจ ก็ต้องพูดกันด้วยเรื่องจริงๆส่วนเมื่อท่านนายกฯฟังแล้ว จะคิดยังไง พยายามหาเพื่อนพ้องน้องพี่น้ำดี มาแทนที่น้ำเสีย...หรือจะทนอยู่ต่ออย่างที่เห็น อย่างที่เป็นไป ก็ตามใจ.กิเลน ประลองเชิง