ธรรมะชุดใหญ่ เรียกว่าอภิญญาเทสิตธรรม (ธรรมที่ทรงแสดงแล้ว ด้วยความรู้ยิ่ง) พระพุทธองค์ทรงแสดงแก่ภิกษุสงฆ์ทั้งหมดในกรุงเวสาลี ที่ป่ามหาวัน สามเดือนก่อนทรงปรินิพพานสติปัฏฐาน การตั้งสติ 4 อย่าง สัมมัปปธาน ความเพียรชอบ 4 อย่าง อิทธิบาท ธรรมอันให้บรรลุความสำเร็จ 4 อย่าง อินทรีย์ ธรรมอันเป็นใหญ่ในหน้าที่ของตน 5 อย่าง พละ ธรรมอันเป็นกำลัง 5 อย่าง โพชฌงค์ ธรรมอันเป็นองค์ประกอบให้ได้ตรัสรู้ 7 อย่างและมรรค ข้อปฏิบัติหรือทางดำเนิน 8 อย่าง (รวม 37 ประการ)(พระไตรปิฎกฉบับประชาชน มหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์)เมื่อทรงแสดงพระเจตนาจะเสด็จปรินิพพานที่กรุงกุสินารา พระอานนท์ พระพุทธอุปัฏฐาก กราบทูลว่า กุสินาราเป็นเมืองเล็ก ขอให้เสด็จไปเมืองใหญ่ เช่น จัมปา ราชคฤห์ สาวัตถี โกสัมพีดีกว่าตรัสว่า กุสินาราเคยเป็นราชธานี นามกุสาวดี ของพระเจ้ามหาสุทัสสนะจักรพรรดิ ซึ่งพร้อมด้วยรัตนเจ็ดประการ จักรแก้ว ช้างแก้ว ฯลฯ ทรงสำเร็จด้วยฤทธิ์ทั้ง 4 รูปงาม อายุยืน โรคน้อย และเป็นที่รักของพราหมณ์และประชาชนเมื่อพระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงเบื่อหน่ายทางโลก สั่งลดการเข้าเฝ้า พระนางสุภัททา พระราชเทวี ได้ทูลให้เห็นแก่บ้านเมืองและราษฎร ทรงปรารภถึงความเบื่อหน่ายว่าแม้ทรงเป็นมหาจักรพรรดิ มีนครอยู่ในปกครองมากมาย ก็อยู่ครอบครองได้เพียงนครเดียว มีปราสาทมากหลายก็อยู่ได้ปราสาทเดียว มีบัลลังก์มากมายก็นั่งได้บัลลังก์เดียวมีสตรีมากมายก็มีสตรีที่ปฏิบัติรับใช้ได้คราวละคนเดียว มีถาดอาหารมากมายก็บริโภคได้อย่างมากเพียงจุทะนานเดียวจนเมื่อเสด็จเลียบฝั่งของแม่น้ำหิรัญวดี สู่ป่าไม้สาละของมัลลกษัตริย์ ใกล้กรุงกุสินารา ให้ตั้งเตียงผินพระเศียรไปทางทิศอุดร บรรทมมีสติสัมปชัญญะ ตรัสปรารภการบูชาด้วยการประพฤติธรรมว่ายอดเยี่ยมทรงแสดงวิธีปฏิบัติในสตรี ตามที่พระอานนท์กราบทูลถามว่า...ไม่ควรมอง ถ้าจำเป็นจะมอง ก็ไม่ควรพูดด้วย ถ้าจำเป็นต้องพูดด้วยก็ให้ตั้งสติพระอานนท์เลี่ยงไปยืนร้องไห้ ด้วยคิดว่าท่านยังเป็นเสขะ สำเร็จเพียงพระโสดาบัน ยังไม่บรรลุอรหัตผล พระพุทธเจ้าทรงเรียกไปตรัสปลอบใจ ภิกษุผู้รับใช้พระพุทธเจ้าทั้งในอดีตและอนาคต อย่างยิ่งได้เท่าพระอานนท์แล้วทรงพระดำรัสตรัสสั่งความแก่พระอานนท์ว่า ธรรมและวินัยที่เราแสดงแล้ว จักเป็นศาสดาของท่านทั้งหลายเมื่อเราล่วงลับไปจากนั้นตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายเข้าเฝ้า แล้วตรัสว่า“ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราเตือนท่าน สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด” นี่เป็นปัจฉิมวาจาของพระตถาคตเนื้อหาในพระสูตรตอนนี้ชี้ว่าทุกคำสอนของพระพุทธเจ้า มีเป้าหมายที่การพ้นทุกข์ และธรรมะที่จะใช้ในการพ้นทุกข์นั้นแม้มีมากมาย...แต่สรุปตรง “ความไม่ประมาท”รัฐบาลสั่งเลิกกฎระเบียบ...ที่ใช้ป้องกันโควิด-19 แล้ว อย่าได้ด่วนสรุป เราเอาชนะโรคและพ้นทุกข์แล้วมีพระพุทธวจนะบทหนึ่ง ปมาโท มัจจุโน ปทัง ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย พยายามท่องจำและทบทวนกันไว้ให้ดี.กิเลน ประลองเชิง