เปิดวันทำการต้นสัปดาห์มาก็เจอแบบรัวๆเลยกับคำถามร้อนๆประเด็นที่ประดังเข้าใส่ นักข่าวรุมสัมภาษณ์ “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยิงสารพัดปมตอบยากระเบิดป่วนเมืองเหตุมาจากนายกฯคุมความมั่นคงเบ็ดเสร็จทั้งทหาร ตำรวจ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือไม่ โยงการเมืองที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียง “เลือกความสงบจบที่ลุงตู่” หรือเปล่าวิตกกังวลอย่างไรกับการที่ฝ่ายค้านจ่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีนายกฯ และ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ลัดคิวก่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563แรงกระแทกถาโถมประดังประเด ตั้งแต่รัฐบาลยังไม่ทันตั้งลำตามรูปการณ์มันก็ไม่แปลก โฟกัสในตอนท้ายของการสัมภาษณ์ขณะร่วมงานที่โรงเรียนนายร้อย จปร. นายกฯได้ย้อนถามสื่อมวลชนว่ามีความสุขหรือไม่หากประเทศมีความขัดแย้งขอให้ทุกคนรักประเทศให้มาก ต้องให้คนรุ่นหลังได้ซึมซับสิ่งดีๆ“ผมไม่อยากเป็นตัวอย่างให้กับใครในการเข้ามาอยู่จุดนี้ และเชื่อว่าทุกคนก็ทราบเหตุผลที่เข้ามาและเมื่อเข้ามาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ขออย่าเอาเรื่องต่างๆเชื่อมโยงกับที่ผ่านมา จะไม่สามารถเดินหน้าเรื่องใดได้”ฉากหน้าขึงขัง แต่หยั่งอารมณ์ลึกๆ “บิ๊กตู่” น่าจะ “ใจแป้ว”และนั่นก็ไม่ต้องพูดถึงธรรมชาติพวกอ่อนไหวง่าย ความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ เจอบรรยากาศแบบนี้ขวัญหนีดีฝ่อกันหมดสุดท้ายประชาชนคนไทยนั่นแหละได้รับผลสะเทือนมากสุดเพราะเรื่องความมั่นใจในบรรยากาศการลงทุนของประเทศกว่าจะฉุดกลับมาได้ มันไม่ใช่ง่ายๆ แค่ 1-2 วัน ตามสถานการณ์ล่าสุดที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ยังยืนยันภายหลังนายชินจิ นาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เข้าพบที่ทำเนียบฯ ย้ำนักลงทุนญี่ปุ่นเชื่อมั่นประเทศไทย ภายหลังการเมืองชัดเจน และรัฐบาลไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลักเช่นไทยแลนด์ 4.0แม้จะเป็นรัฐบาลผสม แต่ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกระนั้นก็ยังไม่วายเจอกับคำถาม ฝ่ายค้านวิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธาน ครม. เศรษฐกิจ ซึ่งนายสมคิดก็ต้องเคลียร์นิ่มๆอีกว่า เป็นความคิดของเขา แต่ประเทศไทยจะเดินหน้าได้ทุกอย่างอยู่ในทิศทางที่ชัดเจนและมีพลัง ไม่มีสิ่งใดจะเดินหน้าได้ ถ้าหากนายกฯไม่สนับสนุนฝ่ายแจวก็ออกแรงเหนื่อยเต็มที่ แต่พวกมือไม่พายก็เอาเท้าราน้ำตลอดเอาเป็นว่า เหตุตูมตามป่วนเมือง เบื้องต้นประเมินตามฉาก “ไปป์บอมบ์” ซุกอยู่ตามพุ่มไม้ วางในจุดห่างไกลผู้คน ไม่ได้มุ่งทำลายล้างชีวิตผู้คนในลักษณะก่อการร้ายรุนแรงชัดเจนว่า เป้าหมายแค่แกล้งปั่นป่วนให้วุ่นวายและถึงแม้จะจับตัวผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางวัตถุสร้างสถานการณ์หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นคนมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ มันก็มองได้ในมุมแค่สร้างฉากสมจริงสมจัง เบนความสนใจให้เป็นเรื่องของกลุ่มก่อความไม่สงบขึ้นมาก่อการให้ดูน่าสะพรึงซึ่งเอาเข้าจริงผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน มีโทษมากสุดก็แค่ป่วนสถานการณ์ระเบิดการเมือง ถ้าไม่ตื่นตูมจนเกินเหตุ เข้าทางไอ้ชั่วที่คนทั่วบ้านทั่วเมืองเรียกชื่อ “ไอ้ระยำ” โดยไม่รู้ว่าฝั่งตรงข้ามต้องการดิสเครดิตรัฐบาล หรือฝั่งเดียวกันที่หมั่นไส้ “บิ๊กตู่” เหมาทหาร ตำรวจหมด เลยอดเกาะขบวนอำนาจและผลประโยชน์มันก็เหมือน “ประทัดวันลอยกระทง” บึมบำกันตามเทศกาลโดยจังหวะสถานการณ์เปลี่ยนถ่ายอำนาจ จากรัฐบาล คสช.ที่ผู้นำถือดาบมาตรา 44 มาเป็นนายกฯจากการเลือกตั้ง แถมยังมีการยกเครื่องด้านความมั่นคงครั้งใหญ่ โดย “บิ๊กตู่” คุมเกมแทน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทั้งกลาโหม ตำรวจ ดีเอสไอระเบิดตูมตามเดี๋ยวก็ซาไป แต่แนวโน้มที่ส่อจะลากเกมเล่นกันไม่เลิกก็คือปมล่อแหลม เรื่องนายกฯและ ครม.ถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ จับอาการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะจุดเริ่มจากนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ดูเอาจริงเอาจังกับประเด็นนี้อย่างมากแสดงตนปกป้องบรรทัดฐานการปฏิบัติตามธรรมเนียมประเพณีตรงกันข้ามกับพฤติการณ์หมิ่นเหม่สถาบัน สังคมข้องใจการกระทำที่มิบังควรหลายๆกรณีแต่จับทางฝั่งรัฐบาล ท่าทีแบบที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯพูดตัดบท “สักวันหนึ่งจะรู้ว่าทำไมไม่ควรพูด” ขณะที่ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์สำทับชัดๆ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญในการดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย ที่สำคัญที่สุดเป็นไปตามพระปฐมบรมราชโองการ ซึ่งพระองค์ท่านรับสั่งมาให้ทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ ตรงกับรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าทำเพื่อประชาชนทั้งเพื่อประเทศคิดว่าเรื่องนี้ควรจบดีกว่า อย่าให้บานปลายใครหวังดี ใครประสงค์ร้าย จับไต๋กันตื้นๆเลย.ทีมข่าวการเมือง