ธุรกิจการบินของไทย หลังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Organization-ICAO) ประกาศปลดธงแดงตั้งแต่ปลายปี 60 คึกคักขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดหลายสายการบินเริ่มขยายเส้นทางบินใหม่ๆ เพิ่มความถี่เที่ยวบิน ในเส้นทางที่ถูกจำกัดตอนถูกธงแดงอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ตอนนี้บินเหมือนไปเชียงใหม่ ภูเก็ตต้องบอกว่าเป็นผลงานโบแดงของรัฐบาล คสช. ที่เดินเกมทั้งบนดินใต้ดิน จน ICAO ยอมปลดให้ในที่สุด คาดว่าธุรกิจการบินของไทยในปี 2561 จะมีรายได้แตะที่ 294,500 ล้านบาทแต่ศูนย์วิจัยของหลายสถาบันการเงิน มองตรงกันว่าแม้การปลดธงแดงจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสวยหรู เพราะการแข่งขันก็มีแนวโน้มรุนแรงตามเป็นเงาวันนี้ยังคงมี สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) คอยกำกับควบคุมอย่างเข้มข้น และยังมีการตั้ง “กองมาตรฐานความปลอดภัยบนเครื่องบิน” ในแต่ละสายการบินมาคุมอีกชั้นได้รับเสียงสะท้อนจากฝ่ายผู้ปฏิบัติ อย่างกลุ่มลูกเรือของสายการบินแห่งชาติอย่างการบินไทยมาว่า ฝ่ายลูกเรือพร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบการบินอย่างเคร่งครัดอยู่แล้วแต่การตั้งองค์กรนั้นหน่วยงานนี้ขึ้นมาจนทับเส้น ซับซ้อนยุ่งเหยิงกันไปหมด มันสร้างความสับสน และกดดันแก่ผู้ปฏิบัติ ต้องเพิ่มภาระงาน เพิ่มคน ที่สำคัญคือเพิ่มเจ้านายขึ้นมาอีกหลายตำแหน่ง ต้องจัดลูกเรือมาฝึกอบรมกันสารพัดหลักสูตรทำท่าว่าฝ่าย“ออดิเตอร์” (Flight Auditor) หรือภารกิจงาน Safety&Security จะกลายเป็นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดในธุรกิจการบินไปแล้ว โดยเฉพาะการตั้งงบประมาณด้านการจัดฝึกอบรม ที่แม้แต่ทางบอร์ดฯเองก็ยังไม่กล้าขัดกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องไปเบียดเอาจากภารกิจงานด้านอื่น อย่างการตัดพนักงานต้อนรับในแต่ละแบบเครื่องบินให้น้อยลงทุกวันนี้เล่นเอาเหล่าแอร์-สจ๊วต เครียดไปตามกัน จากที่นายกฯประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยเอ่ยปากแซวแอร์เรื่องวัยวุฒิสูงๆ ถ้าไปดูวันนี้อาจจะสูงกว่าเดิมก็ได้ต้องย้อนกลับมามองว่า เรื่องการรักษามาตรฐานการบินของการบินไทย ไม่เคยเป็นที่กังขาของลูกค้าผู้โดยสาร ที่พร้อมจะเสียเงินขึ้นการบินไทยอยู่แล้วเนื่องจากจุดเด่นที่สุดของการบินไทยคือ “งานบริการ” ที่ผู้โดยสารทั่วโลกรับรู้กันดีและถ้าจะวัดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ก็คงไม่ต่างจากสายการบินอื่นๆ โดยเฉพาะบรรดาสายการบินโลว์คอสต์ ทั้งหลาย อย่างไทยแอร์เอเชีย ไทยไลออนแอร์ หรือไทยสมายล์ โลว์คอสต์ลูก ก็ต้องปฏิบัติตามกฎและมาตรฐานของ ICAO เหมือนกันดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นความสมดุลระหว่างคำว่า “Safety กับ Service”คิดว่าผู้บริหารการบินไทยคงมองออก อะไรควรเป็นตัวนำ เป็นจุดขาย.เพลิงสุริยะ