กังวลกับกระบวนการทำงานนอกบัลลังก์ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. เป็นห่วงคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎรกำลังทำตัวเป็น “ผู้พิพากษา” เสียเองปล่อยให้ผู้ได้รับผลประโยชน์จากคดีโกงข้อสอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชี้หน้าต่อว่าอาจารย์จุฬาฯ ทั้งที่พูดความจริงแล้วรับไม่ได้ปล่อยให้ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันที่ถูกจับแล้วได้ปล่อยตัวชั่วคราวมา “ฟอกขาว” ให้กับตัวเอง กล่าวหา คนนั้น คนนี้ ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมกรรมาธิการด้วยกล่าวหาตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับเงิน “ส่วยการพนัน” ทั้งที่รู้ว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีหลักฐานยืนยันคำกล่าวหารอง ผบช.สอท.เป็นคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีเอาผิด นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ยังบอกว่า ในชั้นศาลยังต้องอ้างแหล่งที่มา ต้องสอบธนาคาร สอบพยานปากอื่นๆเพื่อให้หลักฐานน่าเชื่อถือ“คนในผังที่เอามาอ้างทั้งตำรวจ ข้าราชการ และเอกชน ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม พูดจนทำให้ในห้องประชุม และคนที่รับฟังการถ่ายทอดสดเชื่อว่าเป็นความจริงตามที่พูด แล้วนำไปขยายความต่อ”แต่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ไม่ได้เป็นแบบนี้ ต้องไต่สวนพยานทุกปาก รับฟังพยานหลักฐานที่เสนอต่อศาลทุกชิ้น ฟังพยานแวดล้อมอื่นๆแล้วท่านจะใช้ดุลพินิจด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ ก่อนจะมีคำพิพากษาใดๆออกมากรรมาธิการคณะนี้กลับทำตัวเป็นศาลเอง พิเคราะห์เอง แล้วจะตัดสินเองแม้เจ้าหน้าที่สภาทักท้วงแล้วก็ไม่ยอมอาจเข้าข่ายกระทำผิดต่อประมวลจริยธรรมอย่างร้ายแรงได้นะท่าน.สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม