ยึดสารตั้งต้นยาเสพติดประเภทกรดอะซิติก 22,200 กก. คาท่าเรือแหลมฉบัง ลอบนำเข้าจากฮ่องกงไม่มีใบอนุญาตและไม่ได้ขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม รมว.ยุติธรรมนำทีมตรวจสอบ เผยสารเคมีที่ยึดได้สามารถนำไปผลิตเป็นยาไอซ์ได้ 27,750 กก. ยาบ้า 1,387 ล้านเม็ด และเฮโรอีน 74,000 กก. เดินหน้าสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์รั่วไหลถึงเครือข่ายยานรกทั้งในและนอกประเทศป.ป.ส.ร่วมกับศุลกากรและกรมโรงงานอุตสาหกรรมยึดสารตั้งต้นยาเสพติดกว่า 22 ตันคาท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยเวลา 15.00 น. วันที่ 17 พ.ย. พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.ชลบุรี พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายธีรทัศน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมตรวจสอบสารเคมีต้องสงสัยบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง ต.ทุ่งสุขลา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีสืบเนื่องจากรัฐบาลกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการสกัดกั้นยาเสพติดแบบครบวงจร ทั้งการปราบปรามและป้องกันการลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นที่สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยาเสพติด ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบการนำเข้าสารเคมีกรดอะซิติก (Acetic Acid) จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงจำนวน 740 ถัง ถังละ 30 กิโลกรัม รวม 22,200 กิโลกรัม ทั้งหมดไม่มีใบอนุญาตนำเข้าและไม่มีการขึ้นทะเบียนจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมสำหรับกรดอะซิติกจัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ผู้ประกอบการต้องขึ้นทะเบียนและขอใบอนุญาตนำเข้าก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ยังถูกจัดอยู่ในบัญชีที่ 2 ตามประกาศกระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2559 เป็นสารเคมีที่อยู่ในมาตรการควบคุมเข้มงวด เพื่อป้องกันนำไปผลิตยาเสพติด ถึงแม้กรดอะซิติกจะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมทั่วไป แต่ยังสามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตเมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า-ยาไอซ์) และเฮโรอีนได้ ทั้งนี้ จากการประเมินของเจ้าหน้าที่คาดว่ากรดอะซิติก 22,200 กก. สามารถนำไปผลิตยาไอซ์ได้ 27,750 กิโลกรัม หรือยาบ้า 1,387 ล้านเม็ด และเฮโรอีน 74,000 กิโลกรัมด้าน พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นความร่วมมือของหลายหน่วยงาน ทั้งจาก ป.ป.ส. กรมศุลกากร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และ บช.ปส. ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างท่าเรือสากล (SEAPORT INTER DICTION TASK FORCE : SITF) เพื่อสกัดกั้นไม่ให้สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์รั่วไหลไปยังเครือข่ายผลิตยาเสพติดทั้งในและนอกประเทศ การป้องกันไม่ให้สารเคมีเข้าถึงผู้ผลิต คือหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักตามแนวคิด “No Chemical No Drugs” มุ่งลดศักยภาพของขบวนการค้ายาเสพติดและสร้างความปลอดภัยให้แก่สังคมไทยอย่างยั่งยืนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
