ทีมข่าวสืบสวนสอบสวน “SEE TRUE” ไทยรัฐทีวี ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย พร้อม นายสุรชาติ ผิวแดง อาสาสมัครมูลนิธิ IMFการปราบปรามเพื่อล้างบางแก๊งสแกมเมอร์ของรัฐบาลหลายประเทศ ทำให้แก๊งนรกกระจายตัวเป็นผึ้งแตกรัง ย้ายฐานตั้งสยายปีกสู่ สปป.ลาว โดยเฉพาะเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ใกล้กาสิโนคิงส์โรมัน ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย สถิติคนถูกหลอกไปสแกนหน้าฝั่งลาวที่อำเภอแห่งนี้จึงระบาดรวดเร็ว ประหนึ่งไวรัสกัดกร่อนเส้นเลือดใหญ่สองฝั่งโขง เป้าหมายแก๊งสแกมเมอร์ คือวัยรุ่นและเยาวชน ใน อ.เชียงแสน“SEE TRUE” เดินทางไปหาวัยรุ่น 3 คนนี้ พวกเขายืนยันว่าเป็นเหยื่อ ถูกหลอกไปทำงานสแกนหน้าที่ สปป.ลาว จุดเริ่มต้นการเข้าสู่ห่วงโซ่อาชญากรไซเบอร์ มีหญิงสาวคนหนึ่งอักษรย่อ อ. เป็นนายหน้าฝั่งไทย ออกอุบายชักชวนวัยรุ่นในชุมชนให้รับงานเปิดบัญชีม้า อ้างว่าเป็นงานเปิดบัญชีค้าขายออนไลน์หลังการเปิดบัญชี จะมีเงินโอนเข้าบัญชีหลักล้านบาท เฉพาะบัญชีวัยรุ่นทั้ง 3 คน มีเม็ดเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้าน เมื่อเปิดบัญชีสำเร็จ นายหน้าฝั่งไทยจะหลอกล่อให้กลุ่มวัยรุ่นข้ามไปฝั่งลาว เพื่อเก็บตัวในเซฟเฮาส์ คนไหนเปลี่ยนใจ ไม่ทำตามคำสั่งจะถูกข่มขู่ประเด็นน่าสนใจมีว่า “SEE TRUE” ได้คลิปภายในห้องเช่าฐานแก๊งสแกมเมอร์ฝั่งลาว เช่าให้เหยื่อมาพักอาศัยเพื่อรอสแกนหน้า บรรยากาศเหมือนห้องแถวทั่วไป มีอาหารให้กินฟรี แต่มีเงื่อนไข ทุกคนต้องอยู่ในสายตาของนายหน้า และถูกจำกัดบริเวณ...เมื่ออาศัยอยู่จนได้รับความไว้วางใจ ทั้ง 3 คน ถูกส่งข้ามกลับมาที่อำเภอเชียงแสน ถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่ตระเวนกดเงินตามตู้ ATM ทุกธนาคารในตัวอำเภอ เงินเหล่านี้เป็นผลประกอบการจากบัญชีม้า หลังกดเงินเสร็จต้องนำเงินทั้งหมดมานับรวมที่ห้องเช่าฝั่งไทย เตรียมแพ็กส่งกลับลาวอีกหลักฐานที่เราได้มาคือคลิปในบ้านนายหน้าฝั่งไทยอีกคน กำลังนั่งนับเงินหลักล้าน ภายในบ้านที่เปิดเป็นร้านขายเนื้อสัตว์แฝงด้วยธุรกิจสีเทา ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นได้ให้ข้อมูล หลังจากนับเงินเสร็จ นายหน้าจะนำเงินส่งไป สปป.ลาว ผ่านเรือบรรทุกเนื้อสัตว์ แล้วใช้เนื้อสัตว์เป็นเกราะกำบังตบตาเจ้าหน้าที่เราขับรถสำรวจชุมชนใน อ.เชียงแสน จุดที่ทั้ง 3 คนอ้างว่าถูกนำตัวมากักไว้และเป็นจุดนับเงินมูลค่าหลักล้าน สองที่แรกเป็นบ้านเช่าแห่งหนึ่งตอนนี้นายหน้ารายเดิมได้ย้ายออกไปแล้วคงเหลือเพียงบ้านที่ว่างเปล่า...ระหว่างลงพื้นที่เก็บข้อมูล เราได้รับสายโทรศัพท์จากนายหน้าอักษรย่อ อ. นัดเราไปเพื่อชี้แจงรายละเอียดเธอยอมเปิดใจกับทีมงานยืนยันว่าเธอเป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งบนกระดานในเกมนี้ นายหน้าผู้คุมเกมก็หลอกเธอมาเช่นกัน เธอเล่าให้ฟังบอกว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ตัวเองต้องเข้าไปอยู่ในวังวนของขบวนการนี้ เพราะมีนายหน้าคนไทยฝั่งลาว อักษรย่อ ภ. ติดต่อมาหาเธอผ่านเฟซบุ๊กพร้อมขอให้เธอถอนเงินให้อ้างว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งในการเทรดหุ้น โดยจะให้ค่าจ้าง 1 พันบาทต่อการกดเงิน 1 แสนบาท เมื่อปฏิเสธ นายหน้ายังออกอุบายให้ช่วยหาเด็ก เธอจึงทักไปหาหนึ่งในวัยรุ่นที่ถูกหลอกแล้วตัดสินใจข้ามไปฝั่งลาว ไปหานายหน้า ภ. หลังจากนั้นนายหน้าก็คุยกับวัยรุ่นเอง เธอยืนยันว่าวัยรุ่นคนนี้เป็นคนแรกที่เธอชวนมาและไม่รู้ว่านี่จะเป็นหนึ่งในขบวนการบัญชีม้า แต่รู้ว่าเป็นการทำเว็บพนัน โดยทางฝั่งลาวมีการเช่าห้องเช่าราว 10 ห้อง ให้วัยรุ่นที่ไปสแกนหน้าได้พักอาศัย ซึ่งระยะหลังตัวเองพบว่ามีวัยรุ่นข้ามไปเยอะขึ้นเวลานายหน้าจะให้เด็กโอนเงิน จะมีการเขียนว่าเป็น “ค่าข้าวโพด ค่าที่ดิน ค่าที่นา ในสลิปโอนเงิน” ทำให้เธอไม่รู้สึกผิดสังเกตในตอนแรก หลังจากรู้ว่าเป็นการฟอกเงิน ตัดสินใจออกจากวงการสีเทานี้ทันที และอยากบอกว่า “ใครที่คิดจะเปิดบัญชีอยากให้ตั้งสติ เพราะเราต้องติดคุก เสียอนาคต อยากให้หน่วยงานในพื้นที่จริงจังกับเรื่องบัญชีม้า และส่วนหนึ่งที่ปัญหาแก้ไม่ได้เพราะมีการจ่ายส่วยให้ตำรวจ? เดือนละประมาณ 70,000 บาท ในการอำนวยความสะดวก ถ้าไม่จ่ายส่วยก็จะถูกจับ”“กล่าวถึงขบวนการสแกมเมอร์ฝั่งลาว จากการให้ข้อมูลของ นางสาว อ. ผู้ที่อยู่ยอดหอคอยเป็นคนจีนชื่อ นายเสี่ยวชุน บอสจีนคนนี้มีธุรกิจสีเทาสาขาย่อยหลายสาขา หนึ่งในนั้นคือสายของลูกน้องคนลาวและกะเหรี่ยง อักษรย่อ ห. และ น. ทั้งสองคนนี้เป็นหัวหน้าของนายหน้า ภ. นายหน้า ภ.จะประสานนายหน้าฝั่งไทย ทั้งในอำเภอพานและอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย รวมทั้งในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ ให้ช่วยหาเด็กหลอกไปสแกนหน้าทำบัญชีม้า สุดท้ายปลายทางของเม็ดเงินจะตกไปที่บอสจีน เพื่อนำไปฟอกเงินต่อไป” คืนหนึ่ง SEE TRUE และนายสุรชาติ ได้รับสายโทรศัพท์จากหญิงสาวอีกราย เธอและแฟนหนุ่มถูกแก๊งบัญชีม้าหลอกไปสแกนหน้าฝั่งลาว ถูกกักบริเวณให้อยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ทางเดียวที่จะเอาตัวรอด คือวางแผนหลบหนี เช้ามืดวันถัดไป หลังวางสายจาก SEE TRUE เวลาล่วงเลยสู่ตี 3 ทั้ง 2 คน ตัดสินใจเดินเท้าออกมาขึ้นรถแท็กซี่ พวกเขาไปซ่อนตัวที่ ตม.ลาว เพราะเวลานั้น ตม.ยังไม่เปิดทำการ เมื่อแน่ใจว่าทางสะดวก พวกเขาขึ้นเรือข้ามแม่น้ำโขงกลับไทย นี่นับเป็นสัญญาณแห่งอิสรภาพที่กลับคืนมาอีกครั้งทั้ง 2 คน เดินทางจากไทยไปที่ลาวตั้งแต่คืนวันที่ 21 ตุลาคม โดยใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว สาเหตุที่ถูกหลอกเพราะเชื่อใจเพื่อนสนิทคนหนึ่งชักชวนให้เอาบัญชีไปลงทุน ซึ่งพวกเขาไม่รู้ว่า นี่คือกลลวงแก๊งบัญชีม้า พวกเขามีบัญชีธนาคาร รวม 5 บัญชี นายหน้าฝั่งไทยเสนอเงินให้ 3 หมื่นบาท บอกว่าจะต้องข้ามไปฝั่งลาว 3 วัน 2 คืน ด้วยต้องหาเงินเลี้ยงลูกจึงตัดสินใจเดินทางไป สปป.ลาว แต่พอไปถึงทุกอย่างกลับไม่เป็นตามที่วาดฝัน เพราะหลังจากที่ไปถึงลาว ตัวเองถูกยึดสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็ม ท้ายที่สุดสมุดบัญชีของตัวเองและแฟนก็ถูกระงับ ทางกลุ่มขบวนการที่เป็นคนลาว มีบอสเป็นคนจีนได้มาบอกว่า “บัญชีใช้ไม่ได้”ตอนนั้นตัวเองก็บอกไปว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นขอกลับไทยดีกว่า” แต่กลุ่มขบวนการไม่ยอม บอกว่าถ้าอยากกลับไทยต้องหาเงินมาชดใช้จำนวน 12,000 บาท ซึ่งตอนนั้นตัวเองกลัวจะถูกนำตัวไปขายต่อชุดสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงรายสอบปากคำทั้ง 2 คน เพื่อขยายผลไปถึงตัวการใหญ่ และต้องดูว่าจะเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ ท้ายที่สุด SEE TRUE พาทั้ง 2 คนนำกลับส่งบ้านได้อย่างปลอดภัย.คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม