ชุดสืบสวนภาค 1 รวบ 12 บัญชีม้าตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังเหยื่อ 2 รายจากเมืองรถม้าและเมืองกรุงเก่า ถูกหลอกโอนเงินรวมเกือบครึ่งล้าน ตำรวจตามแกะรอยเส้นทาง ก่อนบุกตะครุบขณะถอนคาเคาน์เตอร์ธนาคาร พร้อมของกลางเงินสดกว่า 9 แสนบาท สารภาพให้เช่าบัญชีและมีคนพาไปถอนเงินตามใบสั่ง ได้ค่าตอบแทนครั้งละ 5,000 บาทชุดสืบสวนภาค 1 รวบแก๊งบัญชีม้าตระเวนถอนเงินได้คาเคาน์เตอร์ธนาคาร เปิดเผยวันที่ 8 พ.ย. พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.พูนสุข เตชะประเสริฐพร ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ. บก.สส.ภ.1 ร่วมกันสอบปากคำผู้ต้องหา 12 คน เป็นกลุ่มบัญชีม้าในเครือ ข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเหยื่อโอนเงินก่อนตระเวนกดเงินตู้เอทีเอ็มและเบิกถอนเงินสดที่ธนาคาร ถูกชุดสืบสวนติดตามจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าอยุธยาปาร์ค อ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อตอนบ่ายวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมของกลางเงินสด 927,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร 12 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 2 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 12 เครื่องผู้ต้องหาประกอบด้วย น.ส.ต้องตา อนันต์มณีศรี อายุ 48 ปี ทำหน้าที่รวมเงินสดส่งผู้สั่งการ นายสมศักดิ์ ดีมาก อายุ 29 ปี ทำหน้าที่รวมเงินสดส่งผู้สั่งการ นายปัฐวิกรณ์ สิมธนกาญจน์ อายุ 37 ปี ทำหน้าที่รวมเงินสดส่งผู้สั่งการ นายธีรพงศ์ ธนวัฒน์วรดี อายุ 21 ปี ทำหน้าที่คุมบัญชีม้าน.ส.กชกร ชินภัทรภักดีกุล อายุ 23 ปี คุมบัญชีม้า นายวิทวัส ฉัตรอินทร์ อายุ 20 ปี ทำหน้าที่คุมบัญชีม้า นายสุรัชชัย บัวบาน อายุ 66 ปี บัญชีม้า นายธวนิตว์ ศรีสุนทร อายุ 45 ปี บัญชีม้า น.ส.อมลลักษณ์ พันรอด อายุ 49 ปี บัญชีม้า น.ส.พรรณทิพย์ เสริฐศรี อายุ 42 ปี บัญชีม้า น.ส.น้ำทิพย์ พันธ์มั่งมี อายุ 44 ปี บัญชีม้า น.ส.จิราพร อินทร์สำราญ อายุ 33 ปี บัญชีม้าพล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย 2 ราย รายแรกเป็นหญิงอายุ 68 ปี ชาว จ.ลำปาง ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินกว่า 300,000 บาท มีการแจ้งความ สภ.วังเหนือ จ.ลำปาง อีกรายชายอายุ 36 ปี ทำธุรกิจขายของออนไลน์ ถูกหลอกโอนเงิน 250,000 บาท ผู้เสียหายแจ้งความ สภ.พระนครศรีอยุธยา มีการประสานข้อมูลชุดสืบสวนภาค 1 ติดตามจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพ กระทั่งพบเส้นทางโอนเงินกลุ่มบัญชีม้าและคนคุมคนรวบรวมเงินจากบัญชีม้าเพื่อนำไปโอนต่อให้หัวหน้าแก๊ง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมคนถอนเงินคาเคาน์เตอร์ธนาคารในห้าง จ.พระนคร ศรีอยุธยา ก่อนขยายผลติดตามจับกุมได้ 12 คนผบก.สส.ภ.1 กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนกลุ่มผู้ต้องหาบัญชีม้าให้การรับสารภาพอ้างว่า เห็นโฆษณาผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อรับเช่าบัญชี รายได้สูง หารายได้เสริมง่ายๆ ไม่ง้อเงินเดือน จึงติดต่อไป จากนั้นบัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าวให้ QR CODE แอป พลิเคชันไลน์เพื่อติดต่อแอดมินและส่งบัตรประชาชน หน้าสมุดบัญชี มีการตกลงเช่าบัญชีครั้งละประมาณ 5,000 บาท หากวันไหนจะต้องการใช้บัญชีก็จะติดต่อให้ไปตามจุดนัดและจะมีคนพาไปถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มหรือเบิกเงินสดจากธนาคาร ระหว่างถอนเงินจะมีกลุ่มคนคุมมาคอยเฝ้าดูตลอดเวลา หลังถอนเงินแล้วจะนำเงินไปให้ผู้รวบรวมเงินพล.ต.ต.วรชาติกล่าวว่า หลังสอบปากคำตำรวจส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้ สภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดี 4 ข้อหาคือ 1.ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นซ่องโจร หรือร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร 2.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด 3.เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และ 4.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงินอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่