หวยเกษียณหรือสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ (สลาก กอช.) เป็นโครงการของพรรคเพื่อไทยที่ได้กระแส ตอบรับอย่างล้นหลาม ดีทั้งหลักการและรูปแบบ มุ่งส่งเสริมให้คนไทยออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณ แต่พอรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยประกาศจะทำโครงการสลากเพื่อการออม แม้รูปแบบจะไม่เหมือนกับหวยเกษียณ แต่หลักการเดียวกันคือส่งเสริมการออม ทำให้สังคมกังวลว่ารัฐบาลใหม่กำลังจะล้มหวยเกษียณรัฐบาลยังไม่มีการแถลงรายละเอียดต่างๆของโครงการสลากเพื่อการออม เช่น จะใช้เงินอุดหนุนเท่าไหร่ เอางบประมาณมาจากไหน จะหักเงินจากที่ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลไปเป็นเงินออมกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ละงวดมีเพดานการออมเท่าไหร่ ฯลฯ คาดว่าคงยังเคาะตัวเลขไม่ได้ เพราะหากหักเงินมาออมน้อยเกินไปก็จะไม่จูงใจประชาชนเท่าที่ได้ฟัง คุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและ รมว.คลัง พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการตอบกระทู้ถามในสภาฯสัปดาห์ที่ผ่านมา (เป็นกระทู้ถามเรื่องคนละครึ่งพลัส แต่ รมต.ตอบแถมให้เรื่องสลากเพื่อการออม) ก็ยังเป็นการชี้แจงในภาพกว้างคือ ซื้อสลากฯ ปุ๊บจะกันเงินส่วนหนึ่งไว้ให้เป็นเงินออมทันที สะสมไว้เป็นเงินออมระยะยาว จะถอนมาใช้ได้เมื่ออายุครบ 55 ปี หรือถ้าผู้ซื้อสลากอายุเกิน 55 ปีแล้ว ก็ต้องออมเงินไว้ 5 ปีก่อนถึงจะใช้ได้ และเงินออมที่สะสมไว้สามารถเอามาเป็นหลักประกันในการขอกู้เงินจากธนาคารได้ ยืนยันว่าโครงการนี้ไม่เหมือนกับหวยเกษียณ รัฐบาลจะใช้ระบบของการซื้อหวยปกติหมายความว่าจะต้องมีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อจัดสรรปันส่วนเงินรายได้จากการขายสลากกันใหม่ เพราะปัจจุบันเงินรายได้จากการจำหน่ายสลากถูกแบ่งสัดส่วนเป็นเงินรางวัล 60% นำส่งรายได้เข้ารัฐ 23% เป็นส่วนลดให้ผู้แทนจำหน่าย มูลนิธิ และองค์กร 12-14% และเป็นค่าบริหารของสำนักงาน 3-5% ก็ต้องติดตามดูกันว่าจะเฉือนต้นทุนส่วนไหนบ้างโยกมาเป็นเงินออมได้กี่เปอร์เซ็นต์ไปดูความเห็นของ คุณเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อดีต รมช.คลัง ที่ผลักดันโครงการหวยเกษียณ กันบ้าง เพจพรรคเพื่อไทยได้โพสต์ความเห็นของคุณเผ่าภูมิไว้ว่า รู้สึกกังวลถึง ความพยายามหลีกเลี่ยงการใช้นโยบายหวยเกษียณ โดยพยายามเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูปแบบ และนำสู่โครงการที่มีประสิทธิภาพต่ำลงโดยไม่จำเป็น ซึ่งจะรอรายละเอียดจากรัฐบาล ทราบมาว่าโครงการดังกล่าวอาจทำผ่านสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามกฎหมายเงินที่ซื้อสลากนี้จะถูกเก็บเป็นเงินออมมากสุด 17% (เชื่อว่าทำจริงจะต่ำกว่านี้มาก) ในขณะที่หวยเกษียณทุกบาททุกสตางค์จะกลายเป็นเงินออม หรือออม 100% นั่นเอง ตัวอย่างเช่น สลากกินแบ่งรัฐบาล 80 บาท ออมได้มากสุด 13 บาท (ถูกหวยกิน 67 บาท) ในขณะที่ หวยเกษียณซื้อ 50 บาท ออมได้ 50 บาท ไม่มีวันถูกหวยกินในแง่หลักการออม ผมยกให้หวยเกษียณตรงเป้ากว่า ซื้อเท่าไหร่ได้ออมเท่านั้น จำกัดวงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเพียงพอแล้ว สำหรับค่าเฉลี่ยการออมของคนทั่วไป ส่วนเงินรางวัลล่อใจแต่ละงวดมีรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านบาท (5 รางวัล) รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท (10,000 รางวัล) ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาสลากใบละ 50 บาท ไม่มากเกินไปจนเป็นการมอมเมา และไม่น้อยเกินไปจนขาดแรงจูงใจวันศุกร์ที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา คุณจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงการออก “สลาก กอช.” หรือหวยเกษียณ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 มาตรฐานเดียวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมยืนยันไทม์ไลน์คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายหวยเกษียณได้ใน เดือน ธ.ค.นี้ผมหวังว่ารัฐบาลพรรคภูมิใจไทยจะไม่ยื้อเวลาให้หวยเกษียณออกช้ากว่ากำหนด เพราะจะทำให้ประชาชนเสียโอกาสการออมและลุ้นรางวัลสำหรับสลากเพื่อการออม ที่เป็นแค่นโยบายเอาใจคอหวย ซื้อไม่ถูกรางวัลก็ยังได้เงินออมเล็กๆ แม้ไม่โดนใจเท่าไหร่ แต่เมื่อประกาศแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อให้ดีที่สุด อย่าให้เสียฟอร์มเด็ดขาด.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม