หลังเคยเป็นข่าวฉาวดังทะลุวัด คดีเงินทอนวัดก็ซาไป เพราะมีผู้เกี่ยวข้องถูกทยอยจับกุมดำเนินคดี ตั้งแต่ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. คนต่อจาก นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ กับพวก ถูกฟ้องศาลติดคุกติดตะรางไปบ้างแล้ว แต่ตัวนายนพรัตน์ ผอ.พศ.คนก่อนนายพนม เผ่นหนีไปตั้งหลักถึงสหรัฐอเมริกาแล้ว!ป.ป.ช. อัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ ต้องนำสำนวน ไปทำเรื่องประสานไปยังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้ช่วยจับกุมตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ส่งกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยแต่ขั้นตอนไม่หมู งานนี้พนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ต้องหอบสำนวนการสอบสวน พร้อมกับข้อกล่าวหาทุจริตเงินทอนวัดกว่า 65 แห่ง ไปแปลเป็นภาษาอังกฤษส่งให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ส่งต่อให้พนักงานอัยการเขตเท็กซัสตะวันออกผู้ดำเนินคดี เนื่องจากนายนพรัตน์หนีไปพักอยู่ที่รัฐนั้นหลังจากนั้นศาลสหรัฐฯถึงจะออกหมายให้ตำรวจศาล (US Marshals) ไปควบคุมตัวผู้ต้องหามาขึ้นศาลต่อสู้คดีไม่ให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนอีกถึงบอกว่า มันยิ่งกว่าหนังชีวิต?!ในที่สุดทางการไทยได้ตัว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.พศ. กลับมาดำเนินคดีข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและเบียดบังเงินงบประมาณอุดหนุนวัดรวม 65 แห่ง ไปเป็นประโยชน์ส่วนตน การกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และบ่อนทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนามีทรัพย์สินส่วนตัว ครอบครัว และคนใกล้ชิดที่ชี้แจงไม่ได้กว่า 575 ล้านบาท!หลังคุมตัวกลับมาถึงประเทศไทย อัยการส่งตัวฟ้องและฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 พร้อมคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี (หนีไปแล้ว) และจำนวนเงินที่ทุจริตสูงกว่า 500 ล้านบาท ประกอบกับผู้ต้องหาไม่ยื่นประกันศาลส่งเข้าคุมขังที่เรือนจำกลางจังหวัดสมุทรสงครามทันที!งานนี้จะเรียกว่าปิดตำนานคดีเงินทอนวัดก็ว่าได้..."สหบาท"คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม