วันนี้ (30 กันยายน 2568) เป็นวันสุดท้าย หรือ “วันส่งท้ายปีเก่า” ของปีงบประมาณ 2568 ที่จะสิ้นสุดลงในเวลาเที่ยงคืนวันนี้ และย่างเข้าสู่วันแรกหรือวันขึ้นปีใหม่ สำหรับปีงบประมาณใหม่ 1 ตุลาคม 2569 ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไปนอกจากจะเป็นวันสิ้นปีงบประมาณเก่าแล้ว วันนี้ยังถือว่าเป็นวันสุดท้ายของการทำงานสำหรับข้าราชการที่มีอายุครบ 60 ปีเต็มอีกด้วย เป็นวัน “เกษียณอายุราชการ” ว่าอย่างนั้นเถิดหลังเที่ยงคืนคืนนี้ ข้าราชการอายุครบ 60 ปีทุกคนจะต้องถอดหัวโขนทิ้งไว้ที่กระทรวง กรม หรือที่ทำงานของตนทั้งหมด แปรสภาพเป็น ข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเฉยๆ รับเงินบำนาญที่ลดลงกว่าเงินเดือน และสวัสดิการต่างๆไปจนกว่าจะถึงวันสุดท้ายของชีวิตผมขอต้อนรับผู้เกษียณอายุทุกๆท่านเข้าสู่การเป็น “ราษฎรเต็มขั้น” ขอให้ใช้ชีวิตหลังการรับราชการอย่างมีความสุขความสงบ ตามสมควรแก่อัตภาพทุกๆท่านเทอญอย่างไรก็ดีในบรรดาผู้เกษียณอายุทั้งหมดในปีนี้ มีอยู่ 2 ท่านที่ผมขออนุญาตผู้อ่านบันทึกไว้ด้วยความขอบคุณอย่างจริงใจ ท่านแรก ท่านแม่ทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่ทำหน้าที่ในการบัญชาการรบ นำทหารหาญต่อสู้กับอริราชศัตรูผู้รุกราน และเริ่มยิงเราก่อนในศึก “กัมพูชา 2568” เมื่อ 24-28 กรกฎาคม จนสามารถยึดดินแดนที่เขมรลอบเข้ามาครอบครองกลับคืนมาได้หลายๆจุด ก่อนที่จะมีการหยุดยิงพลโท บุญสิน พาดกลาง ได้ทำหน้าที่ผู้บังคับบัญชาที่สมบูรณ์แบบ ยืนหยัดเคียงข้างให้กำลังใจแก่ทหารหาญในความดูแลของท่านอย่างใกล้ชิด จนได้รับเสียงสรรเสริญยกย่อง และกลายเป็นขวัญใจชาวไทยคนใหม่หลังการหยุดยิงในศึกชายแดนดังกล่าวท่านได้รับเชิญไปบรรยายไปแสดงปาฐกถากล่าวถึงชีวิตทหารชายแดนและการป้องกันราชอาณาจักร พร้อมการชักชวนและปลูกฝังเยาวชนไทย ให้รู้รักสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิตเกษียณแล้วท่านยังจะอยู่ช่วยราชการโดยรับเป็นที่ปรึกษาของ ผู้บัญชาการกองทัพบก และรับเป็นผู้อำนวยการหลักสูตรเสริมสร้างสันติสุขของสถาบันพระปกเกล้าฯ อีกทั้งได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมาสำหรับอีกท่านหนึ่งมิใช่เป็นข้าราชการ และก็มิใช่เป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะหน่วยงานที่ท่านรับผิดชอบอยู่ แม้จะมีสถานะคล้ายๆรัฐวิสาหกิจ แต่ก็เป็นหน่วยงานอิสระ ที่มีความรับผิดชอบโดยเฉพาะในด้านการดูแลระบบการเงินของประเทศ อันได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย นั่นเองผมหมายถึง ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ซึ่งจะพ้นจากตำแหน่งในวันนี้ (30 กันยายน 2568) เช่นกันท่านเข้ารับตำแหน่ง (เมื่อเดือนตุลาคม 2563 และจะครบวาระ 5 ปีตามกฎหมาย ประกอบกับอายุเกิน 60 ปีมา 6-7 เดือน จึงถือว่าวันนี้เป็นวันเกษียณจาก ธปท.ของท่านก็แล้วกันผมขอขอบคุณท่านผู้ว่าการ เศรษฐพุฒิ ไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งสำหรับผลงานที่ท่านได้ฝากไว้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยและประเทศไทยตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะผลงานในด้านความซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพ และต่อหน้าที่ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินอย่างเคร่งครัด ด้วยการปฏิเสธที่จะทำตามนโยบายมือเติบใจเติบของฝ่ายการเมืองในรัฐบาลก่อนแม้จะโดนบีบทั้งทางตรงทางอ้อม แต่ท่านก็กัดฟันสู้อย่างไม่ท้อถอยและมีความกล้าหาญที่จะชี้แจงให้ฝ่ายการเมืองทราบด้วยเหตุด้วยผล ด้วยข้อมูลต่างๆดังที่เป็นข่าวปรากฏหลายครั้งผมขอขอบคุณ “ผู้เกษียณอายุ” ทั้ง 2 ท่านไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง และขอยกให้เป็น “MVP” สำหรับผู้เกษียณอายุในปี 2568 ที่กำลังจะผ่านไป (คำว่า MVP เป็นศัพท์ “อเมริกันฟุตบอล” ครับ หมายถึงผู้เล่นที่ทรงคุณค่าสูงสุดในแต่ละเกมการแข่งขัน หยิบมายกย่องให้แก่ทั้ง 2 ท่านคงไม่ผิดฝาผิดตัวนะครับ)“ซูม”คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม