เมื่อวานนี้ผมสรุปรายงานเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของสภาพัฒน์ว่าแม้จะขยายตัวลดลงเมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คือร้อยละ 2.8 เทียบกับร้อยละ 3.2 แต่ก็ดีกว่าที่เคยคาดหมายไว้เมื่อก่อนหน้านี้เล็กน้อยดังนั้นเมื่อมองออกไปถึงครึ่งปีหลังด้วย สภาพัฒน์จึงคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยเราสำหรับปี 2568 นี้จะขยายตัวประมาณร้อยละ 2 ดีขึ้นกว่าร้อยละ 1.8 ที่เคยคาดไว้เมื่อตอนแถลงตัวเลขไตรมาส 1 เมื่อ 3 เดือนก่อนผมก็สรุปอย่างให้กำลังใจประเทศไทยของเราไปว่าแม้อัตราร้อยละ 2 จะเป็นอัตราที่ตํ่าต้อยมากสำหรับประเทศที่เคยโตร้อยละ 7 ร้อยละ 8 หรือแม้แต่ร้อยละ 10 ก็ยังเคยในอดีตอย่างเรา...แต่มันก็ยังดีกว่าร้อยละ 1.8 ซึ่งตํ่าต้อยสุดๆว่างั้นเถอะเนื่องจากผมมีโอกาสได้อ่านรายงานของสภาพัฒน์ชุดนี้อย่างละเอียด ทำให้รู้ว่าหนทางในครึ่งปีหลังของเรายังมีปัญหา มีอุปสรรคและความไม่แน่นอนรออยู่อีกเยอะ ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามและความสามารถของทั้งภาครัฐภาคเอกชนอย่างเต็มที่จึงจะสามารถเดินไปถึงร้อยละ 2 ได้สภาพัฒน์ยังคงมองว่าอัตราการเติบโตทั้งปียังอยู่ในช่วงร้อยละ 1.8-2.3 ซึ่งแปลว่ามันยังอาจจะอยู่ที่ร้อยละ 1.8 ได้ ถ้าเราไม่สามารถแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่างๆได้ หรือสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและปัญหาภาษีทรัมป์ส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิดไว้ดังนั้นเพื่อให้เราสามารถเติบโตทั้งปีได้ตามค่ากลางร้อยละ 2 หรือถ้าโชคดีไปได้ถึงร้อยละ 2.3 ที่สภาพัฒน์คาดเป็นอัตราสูงสุดเอาไว้เราในฐานะประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางขึ้นไปถึงผู้มีรายได้สูงที่ยังมีเงินทอง มีกำลังซื้ออยู่พอสมควร จะหันมาสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในบางนโยบายคนละมือคนละไม้โดยเฉพาะนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในด้านเชิญชวนประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเที่ยวบ้านเราให้มากขึ้นไปอีก และการลดการท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทยลง...พร้อมกับหันมาเที่ยวทั่วไทยเพิ่มขึ้นเป็นการทดแทนข้อมูลของสภาพัฒน์ชี้ให้เห็นว่า รายได้ใน สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 2.1 ถือว่าชะลอลงเทียบกับอัตราร้อยละ 7.2 ในไตรมาสแรก อันเป็นผลโดยตรงจากการที่นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศของเราลดลงและการท่องเที่ยวในประเทศไทยของคนไทยเราเองก็ชะลอตัวลงเช่นกันแต่จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ดังที่ผมรายงานท่านผู้อ่านไปแล้วว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาคึกคักอย่างคาดไม่ถึง สุวรรณภูมิแน่นเอี้ยดและตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆก็แน่นนับแต่ปลายกรกฎาคมเป็นต้นมาขณะเดียวกันโครงการของรัฐบาลที่เรียกกันติดปากว่า “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ที่เคยมีข่าวว่าไม่คึกคักนักในช่วงแรกๆ ก็กลับมาคึกคักในช่วงนี้ทำให้เป็นที่คาดหมายในแง่บวก ณ นาทีนี้ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเป็นพระเอกอีกครั้งหนึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2568แต่ก็มีข่าวที่ไม่สู้ดีนัก แต่สภาพัฒน์ไม่ได้รายงานไว้ก็คือ ยอดการออกไปเที่ยวต่างแดนของคนไทยก็ขึ้นมากเช่นกัน...ผมฟังจากวิทยุยังไม่มีเวลาค้นหาข้อมูล เห็นบอกว่าคนไทยแห่ไปเที่ยวจีนและญี่ปุ่นเต็มคาราเบลเลยในช่วงนี้อันจะส่งผลให้ “ดุลบัญชีเดินสะพัด” มองเฉพาะท่องเที่ยวอย่างเดียวของเราน้อยกว่าที่ควรจะเป็นคือต้องหักที่เราไปเที่ยวนอกเสียก้อนใหญ่ทำอย่างไรเราจะลดการเที่ยวนอกลงบ้างโดยเฉพาะในช่วงนี้ ลดจีน ลดญี่ปุ่น ลดยุโรป แล้วหันมาเที่ยวทั่วไทยเหนือใต้ตะวันออกตะวันตกแทน...จะทำให้พลังการท่องเที่ยวต่อเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2568 เพิ่มมากขึ้นผมก็ขอฝากให้ท่านที่ยังมีรายได้ยังมีแรงใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวงดเที่ยวนอกสักพักหนึ่งหันมาเที่ยวทั่วไทยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ปลายฝนต้นหนาวนี้เลยนะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม