ตำรวจไซเบอร์ร่วมกับ AIS รวบ 2 หนุ่มเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขับรถเก๋งตระเวนทั่วกรุงส่ง SMS ปลอมแนบลิงก์ธนาคารและค่ายโทรศัพท์มือถือตุ๋นเหยื่อดูดเงิน ฝ่ายสืบสวนไปพบรถต้องสงสัยที่ปั๊มน้ำมันย่านบางพลัด พร้อมอุปกรณ์ส่งสัญญาณ สารภาพเคยไปทำงานที่กัมพูชา มีชาวจีนจ้างให้นำเครื่องส่งสัญญาณขับรถตระเวนในพื้นที่มีคนพลุกพล่าน ส่งข้อความเฉลี่ย 2-3 หมื่นข้อความต่อวันตำรวจรวบ 2 หนุ่ม ขับรถตระเวนส่ง SMS ตุ๋นเงินรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ส.ค. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมด้วยนายวิสิษฐศักดิ์ เจริญไชย ผู้จัดการงานองค์กรสัมพันธ์ AIS ร่วมแถลงตำรวจไซเบอร์ เปิดปฏิบัติการ “OPERATION PINKLAO” รวบ 2 วัยรุ่นไทยขนเครื่อง FBS ขับรถตระเวนทั่วกรุงส่ง SMS ปลอมแนบลิงก์ดูดเงินพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. กล่าวว่าสืบเนื่องจาก บช.สอท. ร่วมกับทางเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ AIS เดินหน้าปฏิบัติการเชิงรุกจับกุมกลุ่มมิจฉาชีพที่ตระเวนใช้เครื่องจำลองสถานีฐาน (False Base Station) เพื่อส่ง SMS ปลอมจาก Sender เป็นชื่อหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ใช้ข้อความ ที่อ้างคะแนนจะหมดอายุ เพื่อล่อลวงให้ประชาชนคลิกลิงก์แลกรางวัล ทำให้ผู้รับ SMS อาจหลงเชื่อและมีความเสี่ยงโดนหลอกลวงเงิน ที่ผ่านมาพบว่า คนร้ายก่อเหตุทั้งในพื้นที่ในย่านสาทร พระราม 4 สุขุมวิท และเพชรบุรี อีกทั้งจับกุมผู้กระทำผิดไปได้แล้วหลายครั้ง ทั้งผู้ต้องหาชาวไทยและต่างชาติ ล่าสุด บริษัท AIS ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามี SMS ปลอมแนบลิงก์น่าสงสัยคาดว่ามาจากมิจฉาชีพของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประสานข้อมูลมายังตำรวจไซเบอร์ให้ดำเนินการติดตามผู้กระทำผิดต่อมา พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชนทัช วุฒิภัทรโสภณ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง รอง ผกก.2 บก.สอท.3 พ.ต.ท.ณัฐพล เสียมไหม, พ.ต.ท.วินัย ชมพุฒ พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ พระศรี พ.ต.ต.ธวัช ทุเครือ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ต.ชัยเมศร์ เนติวิมลศิลป์ สว.กก.2 บก.3 และ พ.ต.ท.ยศวรรธก์ วงษ์จันทร์ สว.กลุ่มงานรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ บก.ตอท. นำกำลังร่วมกับทีมวิศวกรจาก AIS กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ วางกำลังค้นหาคนร้ายที่ก่อเหตุรอบพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะถนนเส้นหลักและย่านชุมชนกระทั่งช่วงเย็นวันที่ 8 ส.ค. พบรถเก๋งมาสด้า 3 สีเทา ทะเบียน 7 กธ 6978 กรุงเทพมหานคร ขับอยู่บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ติดตามมาถึงถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพฯ เข้าตรวจค้นพบชาย 2 คนทราบชื่อนายนิรันดร์ อินสนธิ์ อายุ 20 ปี ชาวกรุงเทพฯ และนายกิตติวรา ซาภักดี อายุ 22 ปี ชาวกรุงเทพฯ ตรวจสอบบนเบาะหลัง พบกล่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานอยู่และเชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่ (Power Station) จำนวน 1 ตู้ ประสานเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทีมวิศวกรรมจาก AIS มาตรวจสอบพบว่าเป็นเครื่องจำลองสถานีฐาน (False base station) เป็นอุปกรณ์เครื่องวิทยุโทรคมนาคมที่ดัดแปลงการส่งสัญญาณในคลื่นความถี่ต่างๆ เข้าอุปกรณ์มือถือที่อยู่ในรัศมีเชื่อมต่อกับเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่ (Power Station) พร้อมอุปกรณ์กระจายสัญญาณจำนวน 1 กล่อง และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องตรวจสอบไม่พบการได้รับอนุญาตจาก กสทช. ระหว่างการตรวจค้นยังมี SMS แนบลิงก์เข้าสู่เว็บไซต์ปลอมเข้ามาในกล่องข้อความโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง อาทิ เลียนแบบ SMS ธนาคาร เลียนแบบ SMS ค่ายโทรศัพท์มือถือมีระยะการส่งข้อความในรัศมี 1 กม. และมีขีดความสามารถส่งข้อความเฉลี่ย 2-3 หมื่นข้อความต่อวันสอบสวนนายนิรันดร์ให้การยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยไปทำงานอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา มีชาวจีนติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชัน Telegram ให้นำอุปกรณ์ดังกล่าวไปตระเวนขับส่ง SMS ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้รับค่าจ้าง 5,000 บาท ส่วนนายกิตติวราทำหน้าที่ขับรถพาตระเวนไปในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านได้รับค่าจ้างวันละ 1,000 บาท ที่ผ่านมาทำมาแล้ว 3 ครั้ง ในวันที่ 2, 3 และ 8 ส.ค.ด้านนายวิสิษฐศักดิ์ เจริญไชย ผู้จัดการงานองค์กรสัมพันธ์ AIS เปิดเผยว่า AIS ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่จะทำงานเชิงรุกอย่างเต็มกำลัง เพื่อปกป้องคนไทยจากภัยออนไลน์ทุกรูปแบบ ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสารชั้นนำของประเทศ AIS มุ่งมั่นดูแลให้ลูกค้าทุกคนใช้บริการได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยสูงสุด ที่ผ่านมา AIS ร่วมกับตำรวจและหน่วยงานภาครัฐร่วมกันตรวจสอบ ปิดกั้น และติดตามเส้นทางมิจฉาชีพที่ใช้เครือข่ายเป็นช่องทางหลอกลวงมาโดยตลอด และยังต้องเดินหน้าอย่างจริงจังและต่อเนื่องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่