ผบก.น.4 เผยความผิด “เป๊ก- ผลิตโชค” อาจเข้าข่ายความผิดข้อหาทำร้ายร่างกาย และข้อหาก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ แต่ตำรวจต้องสอบปากคำพยานให้ครบถ้วนก่อน ยันโรงพยาบาลตรวจสารเสพติดและปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายนักร้องดังแล้ว แต่ต้องใช้เวลา 7 วันผลถึงจะออก ด้าน ผกก.สน.หัวหมาก พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเกือบครบถ้วนแล้ว ทั้งคนขับรถกระบะ คนขับรถแท็กซี่ รปภ.หมู่บ้าน และไรเดอร์คู่กรณี แต่ยังไม่มีใครแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีนักร้องดัง เหลือแค่เป๊กที่ยังไม่อนุญาตให้ตำรวจสอบปากคำ รับรองให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอนกรณีนายผลิตโชค อายนบุตร หรือเป๊ก-ผลิตโชค อายุ 40 ปี นักร้องชื่อดังถูกนายชุติเทพ ขุนสูงเนิน อายุ 21 ปี อาชีพขับไรเดอร์ ใช้อาวุธมีดฟันที่คางได้รับบาดเจ็บ ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ซอยรามคำแหง 76 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. สาเหตุเกิดจากนายชุติเทพเข้าไปห้ามนักร้องดังที่กำลังทะเลาะวิวาทกับคนขับรถกระบะ หลังเป๊กที่อยู่ในอาการมึนเมาก่อวีรกรรมกระโดดเกาะฝากระโปรงหน้ารถจากริมถนนรามคำแหงก่อนเข้าปั๊มน้ำมัน หลังจากนั้นหันมาปรี่เข้าใส่นายชุติเทพเกิดการทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน ไรเดอร์หนุ่มสู้ไม่ได้ชักมีดพกตวัดไปถูกใต้คางเป็นแผลเหวอะ ตำรวจ สน.หัวหมาก ควบคุมตัวไปดำเนินคดี ต่อมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ก่อนกระโดดเกาะหน้ารถกระบะ นักร้องดังยังออกไปเดินกลางถนนขวางรถแท็กซี่ แล้วขึ้นไปนั่งบนกระโปรงรถมาแล้วความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 เผยผ่านทางโทรศัพท์ว่า ช่วงค่ำวานนี้ (4 ส.ค.) คนขับรถกระบะเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมากแล้ว ให้การว่า ขณะกำลังจะขับรถกลับบ้านมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆเป๊ก-ผลิตโชค กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันบางจาก ลงมาพูดคุยกับเป๊ก จนเป๊กเข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วหันไปหานายชุติเทพจนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน หลังจากนั้นคนขับรถกระบะจึงขึ้นรถขับออกไป โดยไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพเป๊กขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ยังไม่พบตัว“ส่วนเป๊กยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ พนักงานสอบสวนยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาลถ้าแพทย์อนุญาต หรือสะดวกมาให้ปากคำที่โรงพักหลังออกจากโรงพยาบาลก็ได้ ตอนนี้ทีมแพทย์ตรวจเลือดเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายของเป๊กแล้ว ต้องรอผลประมาณ 7 วัน ส่วนเรื่องการดื่มสุรา เป๊กดื่มจริง แต่ไม่ได้ขับรถขณะมึนเมาสุรา จากพฤติการณ์เป๊กอาจโดนแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาคือ ทำร้ายร่างกายเพราะมีการชกต่อยกับนายชุติเทพ และข้อหาก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ ส่วนคนขับรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ของเป๊ก พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างประสานเข้ามาสอบปากคำต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.สน.หัวหมาก เผยว่า ขณะนี้การสอบปากคำพยานบุคคลแล้วเสร็จเกือบทั้งหมด ทั้งคนขับรถแท็กซี่ คนขับรถกระบะ และ รปภ.ที่อยู่ในเหตุการณ์ เหลือเพียงเป๊ก-ผลิตโชค ที่ยังพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และยังไม่อนุญาตให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำ ตอนนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับเป๊ก เนื่องจากต้องรอสอบปากคำและดูพฤติการณ์ประกอบ เช่น หากปีนฝากระโปรงรถจนเกิดความเสียหาย เจ้าของรถสามารถแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ได้ แต่ถ้าเจ้าทุกข์ไม่ติดใจเอาความ ก็ไม่เข้าข่ายความผิด เช่นเดียวกับข้อหาทำร้ายร่างกายแม้พฤติกรรมจะชัดเจน หากผู้เสียหายไม่ร้องทุกข์ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้“ด้านคนขับรถกระบะให้ปากคำว่า ไม่รู้จัก เป๊ก-ผลิตโชค หลังเคลียร์ปัญหากับนักร้องหนุ่มแล้วก็ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากใคร กระทั่งเห็นเป๊กกับนายชุติเทพทะเลาะวิวาทกัน ขณะที่ผลตรวจเลือดเพื่อหาแอลกอฮอล์และสารเสพติดยังต้องรอจากโรงพยาบาล การตรวจสารในร่างกายต้องได้รับความยินยอมจากผู้ถูกตรวจ การตรวจแอลกอฮอล์แม้ไม่เกี่ยวกับข้อหาเมาแล้วขับ แต่ใช้ประกอบสำนวนเพื่อประเมินสติสัมปชัญญะของผู้ก่อเหตุขณะเกิดเหตุ เป็นข้อมูลสำคัญในการบรรยายพฤติการณ์ในคดี ส่วนฝั่งนายชุติเทพเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และพกพาอาวุธมีดในที่สาธารณะแล้ว ตามคำร้องทุกข์ที่ทนายของเป๊กมอบอำนาจมาในคืนวันเกิดเหตุ” ผกก.สน.หัวหมาก กล่าวพ.ต.อ.นเรนทร์กล่าวด้วยว่า คดีนี้ยังเปิดช่องให้คู่กรณีหรือผู้เสียหายอื่น เช่น คนขับแท็กซี่ หรือเจ้าของรถกระบะ แจ้งความเอาผิดเป๊กได้ หากตรวจพบความเสียหายหรือมีพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดเพิ่มเติม ขณะนี้ยังไม่มีการร้องทุกข์เพิ่ม และตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบ ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่