“สภาทนายความ” ปฏิรูปทนายขอแรง หรือทนายอาสามาพักใหญ่เพื่อให้มีทักษะความรู้ความสามารถตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134/1–4 ที่ระบุว่า ผู้ต้องหาในคดีอัตราโทษประหารชีวิต หรือมีโทษจำคุก กฎหมายบังคับให้พนักงานสอบสวนจัดหาทนายให้เพื่อเข้าฟังการสอบสวนเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาถูกตำรวจขู่เข็ญหลอกลวง หรือกระทำมิชอบด้วยประการอื่นตามมาตรา 135 และ 266 ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อรูปคดีและขัดต่อรัฐธรรมนูญด้วยนายวิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความ คนปัจจุบัน ผู้สมัครเข้ารับเลือกเป็นนายกสภาทนายอีกสมัย เบอร์ 3 และทีมงานเบอร์ 25-46 เล่าว่า...ทนายความเป็นผู้เสียสละ อาสาเข้าเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายฟรีแก่ประชาชนที่โรงพัก และในศาลทั่วประเทศ ทั้งคดีแพ่ง อาญา ปกครอง แรงงาน และยังทำหน้าที่เข้าฟังการสอบสวนผู้ต้องหาผู้ใหญ่และผู้ต้องหาเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี โดยจะได้ค่าตอบแทนแค่วันละ 1 พันบาท!แต่กว่าจะได้รับเงินใช้เวลานานมาก ตนมีความคิดพัฒนาระบบจ่ายเงินให้ได้ภายในวันเดียว ให้ประธานสภาทนายประจำจังหวัดเป็นผู้อนุมัติ และในอนาคตจะเพิ่มทนายให้คำปรึกษาฟรีแก่ชาวบ้านที่สำนักงาน อบต.ทั่วประเทศด้วยนอกจากนี้ยังจะพัฒนาระบบจ่ายเงินสวัสดิการทนายผ่านแอปพลิเคชัน และจะมีระบบจ่ายเบี้ยทนายอาวุโสเป็นรายเดือน รวมทั้งจัดหาแหล่งเงินกู้ให้ทนายความ และระบบประกันชีวิตกลุ่มให้ทนายความด้วยที่ผ่านมาทนายความเสียสละไปลงชื่อเป็นทนายขอแรงให้จำเลยในศาลยุติธรรม แต่พบว่ามีขั้นตอนยุ่งยาก จะผลักดันให้ศาลจัดทำบัญชีทนายขอแรงที่ไม่ยุ่งยาก ไม่สร้างภาระให้ทนายและให้จ่ายเงินรางวัลทนายให้สูงขึ้นขอโอกาสให้ตนและคณะไปทำงานอีกครั้ง เพื่อ “สานงานต่อ ก่องานเพิ่ม เริ่มงานใหม่”วันที่ 24 ส.ค.นี้ ขอให้ทนายไปลงคะแนนเลือกตั้งกันด้วย."สหบาท"คลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม