น้ำยมยังวิกฤติหนักทะลักจมเมืองสุโขทัยธานี ชาวบ้านระทึกกลางดึก ปภ.ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ให้รีบขนข้าวของขึ้นที่สูง หลังพนังกั้นน้ำเอาไม่อยู่เริ่มแอ่นตัวจนน้ำไหลบ่าเข้าท่วมฉับพลัน 4 ชุมชน เช่นเดียวกับ อ.ศรีสำโรง ยังจมทุกข์ คันดินแตกซ้ำ 3 หมู่บ้านจมบาดาล ส่วน จ.ตาก น้ำเซาะถนนทรุดทางลงเขาพะวอ อ.แม่สอด ยาวร่วม 2 กม. ขณะที่ 5 อำเภอชายแดนเริ่มคลี่คลายหลังฝนหยุดตก ด้านแม่น้ำโขงสูงต่อเนื่อง จ.นครพนม อ่วมหนัก ลำน้ำสาขาเอ่อท่วมนาข้าวกว่า 2 หมื่นไร่ เขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับเพิ่มการระบายรอรับมวลน้ำเหนือ เตือน 11 จังหวัดติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด “ไทยรัฐ” ขนถุงยังชีพ 1,000 ชุด พร้อมมุ้งและน้ำดื่มไปมอบให้โรงเรียนที่ประสบภัย จ.น่าน และ จ.พะเยาถึงแม้ว่าปริมาณฝนจะเบาบางลง แต่สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังไม่คลี่คลาย โดยเฉพาะ จ.สุโขทัย ระดับน้ำในแม่น้ำยมยังวิกฤติหนัก เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี อ.เมืองสุโขทัย พากันตื่นตระหนกเมื่อ ปภ.ส่งข้อความแจ้งเตือนระดับสูงสุดผ่านระบบ Cell Broadcast ไปยังโทรศัพท์มือถือ ให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันใน 4 ชุมชน คือ ชุมชนคูหาสุวรรณ ชุมชนคลองโพธิ์ ชุมชนร่วมพัฒนา และชุมชนเลอไท เนื่องจากน้ำจากแม่น้ำยมได้เอ่อล้นพนังกั้นน้ำที่เริ่มแอ่นตัวเพิ่มเติมจากจุดเดิมที่มีน้ำลอดใต้พนังกั้นเข้ามาบริเวณชุมชนคูหาสุวรรณ ส่งผลให้มีมวลน้ำไหลทะลักเข้ามาอย่างรวดเร็วและรุนแรง ลามไปยัง ชุมชนคลองโพธิ์ และไหลออกไปท่วมถนนจรดวิถีถ่องช่วงตั้งแต่เชิงสะพานพระร่วงถึงสี่แยกคลองโพธิ์ นอกจากนี้มวลน้ำยังทะลักเข้าท่วมชุมชนร่วมพัฒนา และชุมชนเลอไท ขอให้ผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง และติดตามข่าวสารจากราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมขังยังทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 50 ซม.ส่วนที่ ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง กระแสน้ำซัดแนวคันดินริมแม่น้ำยมพังทลายขาดเป็นทางยาวประมาณ 60 เมตร ทำให้มวลน้ำมหาศาลไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรบ้านวังตาเย หมู่ 2 บ้านคลองตาเป้า หมู่ 3 และบ้านไกลใหม่ หมู่ 5 รวม 586 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรจมน้ำกว่า 1,500 ไร่ ระดับน้ำลึกกว่า 2 เมตร ถนนหนทางถูกตัดขาด ชาวบ้านต่างขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่นจ.พิษณุโลก น้ำในแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมมยังเอ่อท่วมบ้านเรือนพื้นที่ลุ่มต่ำใน ต.ท่าช้าง อ.พรหม พิราม อ.เมืองพิษณุโลก และ อ.บางระกำ วันนี้ระดับน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่ง 1.5 เมตร เนื่องจากชลประทานได้ผันน้ำจากสุโขทัยมาน้อยลง หลังก่อนหน้านี้ได้ระบายแบบเร่งด่วนลงสู่แม่น้ำน่านไปแล้ว ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่านกลับมาสูงขึ้น การระบายน้ำจากแม่น้ำยมสายเก่าลงแม่น้ำน่านเริ่มช้าลง ทั้งนี้เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้าทุ่งบางระกำโมเดลที่ยังไม่พร้อมรับน้ำช่วงนี้เพราะยังมีนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวอีกประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์จ.ตาก สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนฝั่งตะวันตก ประกอบด้วย อ.แม่สอด อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด อ.อุ้มผาง และ อ.พบพระ มีปริมาณน้ำลดลง เนื่องจากฝนหยุดตก ระดับน้ำในแม่น้ำเมยที่จุดตรวจวัดบ้านห้วยแล้ง ต.ช่องแคบ อ.พบพระ ลดลงเหลือสูงกว่าระดับตลิ่ง 50 ซม. เช่นเดียวกับบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา อ.แม่สอด ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 20 ซม. คาดการณ์ว่าภายในวันนี้น้ำจะลดลงอยู่ในระดับเสมอตลิ่ง ขณะเดียวกันเกิดเหตุถนนทรุดตัว ที่ถนนสายแม่สอด-ตาก กม.ที่ 24+600 ทางลงเขาพะวอ บ้านแม่ละเมา ต.ด่านแม่ละเมา อ.แม่สอด เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงตาก เขต 2 เข้าไปสำรวจพบว่า สาเหตุเกิดจากช่วงที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนัก ดินอุ้มน้ำไม่ไหวทำให้ถนนฝั่งขาออกจาก อ.แม่สอด ทรุดตัวลงไปลึกประมาณ 2.5 เมตร ระยะทางยาวร่วม 2 กม. เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรให้วิ่งฝั่งขาเข้า อ.แม่สอด ฝั่งเดียว พร้อมระดมเครื่องจักรเข้าเร่งซ่อมแซมนายชูชีพ พงษ์ไชย ผวจ.ตาก นำคณะไปติดตามสถานการณ์น้ำและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยที่บ้านท่าอาจ หมู่ 3 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากเมื่อวันที่ 30 ก.ค. มีน้ำท่วมสูงปิดทางเข้าออกหมู่บ้าน กระแสน้ำไหลเชี่ยวซัดรั้วโรงเรียนบ้านท่าอาจพังถล่มทั้งแถบ ล่าสุดระดับน้ำลดลงแล้ว นายชูชีพกล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ ต.ท่าสายลวด โดยเฉพาะบริเวณตลาดริมเมย และบ้านท่าอาจ เนื่องจากปริมาณน้ำฝั่งเมียนมามากกว่าฝั่งไทยไหลลงมาตามลำน้ำเมย ช่วงที่ผ่านมา รอง ผวจ. นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทหาร และภาคเอกชนเข้ามาช่วยกันดูแล จนวันนี้น้ำลดลงจนสามารถวัดได้ตามปกติแล้ว ถ้าไม่มีฝนมาเติมคงเข้าสู่ภาวะปกติได้ในเร็ววันนี้วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่อง อุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดแพร่ ณ หอประชุมเทศบาลป่าแมต อ.เมืองแพร่ และผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสวรรคโลก จ.สุโขทัยด้านสถานการณ์แม่น้ำโขง จ.นครพนม ระดับน้ำถึงจุดวิกฤติเกือบ 12 เมตร ไม่เพียงส่งผลกระทบ ต่อพื้นที่ลุ่มต่ำแนวตลิ่งแม่น้ำโขง ยังกระทบลำน้ำสาขาสายหลักทั้งลำน้ำอูนและลำน้ำสงคราม ไม่สามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้ ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างกว่า 20,000 ไร่ หนักสุดพื้นที่ อ.ศรีสงคราม กับ อ.นาหว้า มีนาข้าวถูกน้ำท่วมขังกว่า 10,000 ไร่ หากระดับน้ำโขงไม่ลดลงช่วง 1-2 สัปดาห์ คาดว่าจะได้รับความเสียหายทั้งหมด เช่นเดียวกับบ้านเรือนประชาชนพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักสุดที่บ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม เนื่องจากมีที่ตั้งติดกับลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม ลักษณะคล้ายเกาะกลางน้ำ มีบ้านเรือนเป็นจุดเสี่ยงประมาณ 300 หลัง ชาวบ้านต่างเก็บข้าวของขึ้นที่สูง รวมทั้งไล่ต้อนสัตว์เลี้ยงทั้งโคกระบือกว่า 1,000 ตัว ขึ้นไปเลี้ยงบนที่สูงน้ำท่วมไม่ถึง เริ่มขาดแคลนหญ้าอาหารสัตว์กันแล้วส่วนการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท นายวัชระ ไกรสัย ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 12 เผยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำทางตอนบนที่ประสบอุทกภัย เขื่อนเจ้าพระยาทยอยปรับการระบายจาก 1,000 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,050 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อย ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 10-20 ซม. จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ได้แจ้งเตือนให้ 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดที่โกดัง 7 สำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต กทม. นายวัชร วัชรพล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมไทยรัฐทีวีและไทยรัฐออนไลน์ และกรรมการมูลนิธิไทยรัฐ พร้อมพนักงานไทยรัฐกรุ๊ป ช่วยกันขนถุงยังชีพบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้จำเป็นและน้ำดื่ม ขึ้นรถขนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเพื่อส่งไปมอบให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ 2 จังหวัดได้แก่ จ.น่าน และ จ.พะเยา โดยนำเงินที่มีผู้บริจาคช่วยเหลือโรงเรียนไทยรัฐวิทยาที่ประสบภัย จำนวน 3,611,978.45 บาท จัดทำถุงยังชีพ 1,000 ถุง มุ้ง 500 หลัง และน้ำดื่ม ส่งไปแจกจ่ายช่วยนักเรียน บุคลากร และโรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงเรียนไทยรัฐวิทยา รวมถึงชุมชนด้วยสำหรับผู้ร่วมบริจาคช่วยโรงเรียนไทยรัฐวิทยาที่ประสบภัย นอกจากผู้บริจาคเงินแล้วยังมีผู้ร่วมบริจาคอื่นๆอีก ได้แก่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต น้ำ 200 แพ็ก นายสราวุธ มีคุณสมบัติ น้ำ 400 แพ็ก บ.ซีพี ออลล์ จำกัด น้ำ 200 แพ็ก บมจ.วิริยะประกันภัย น้ำ 200 แพ็ก บมจ.เทเวศประกันภัย น้ำ 200 แพ็ก มูลนิธิ SCG น้ำ 200 แพ็ก บริษัท มิ่งมงคล อินเตอร์เนชั่นแนล เทรดดิ้ง จำกัด (ข้าวตรากินรี) ร่วมบริจาคข้าวสารตรากินรี 300 ถุง มูลค่า 42,000 บาทอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่