ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ 24 ประเทศ พร้อมสื่อเทศสื่อไทยลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ดูความเสียหายจากการกระทำของกัมพูชา สะท้อนข้อเท็จจริงฟ้องประชาคมโลก “บิ๊กเล็ก” ยันกองทัพบกพาผู้ช่วยทูตทหารไปดูพื้นที่เกิดเหตุทีหลังอีกฝ่ายไม่เสียเปรียบเรื่องการสื่อสารเพราะข้อเท็จจริงมีอยู่ เห็นกันชัดๆ “วินธัย” ยืนยันทหารไทยคุมพื้นที่ปราสาทตาควายได้ แต่ไม่ได้ 100% เพราะสนามทุ่นระเบิดที่กัมพูชาวางอยู่เป็นอุปสรรคสำคัญ ชี้ได้พื้นที่เพิ่มเติมถือว่าคุมปราสาทได้ ส่วนการประชุม GBC ไทยขอเปลี่ยนที่ประชุมจากพนมเปญเป็นมาเลเซียแทน รพ.สรรพสิทธิประสงค์แถลงยังดูแลผู้ป่วยกัมพูชาตามหลักมนุษยธรรม แต่งดรับยาแทนเพื่อความปลอดภัยของ รพ. ตำรวจEOD ทำลายหัวกระสุนปืนใหญ่ที่ตกค้างกลางทุ่งนา เสียงดังสนั่น ชาวบ้านตกใจนึกว่ากัมพูชาบุก ครอบครัวผู้เสียชีวิต 7 ศพในปั๊มน้ำมัน ปตท. เหยื่อจรวด BM-21 รวมผู้ที่ถูกระเบิดลงบ้าน รับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว ผวจ.ศรีสะเกษเป็นประธานประกอบพิธีรดน้ำหลวงอาบศพพระราชทาน และวางพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต พ่อที่สูญเสียเมียลูกรวม 3 ศพสุดอาลัย ขอมาเข้าฝันให้หายคิดถึงบ้างทหารไทยสามารถควบคุมพื้นที่โดยรอบปราสาทตาควาย ที่ตั้งอยู่บนหุบเขากลางป่าของทิวเขาพนมดงรัก บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ตั้งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม 13 กม. ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. โดยเป็นการวางกำลังควบคุมพื้นที่ภายนอก ไม่ได้ยึดที่ตัวปราสาทตาควาย ก่อนถอนกำลังลงมาอยู่ห่างจากปราสาท 500 เมตร เนื่องจากกัมพูชาเจ้าเล่ห์ลอบวางทุ่นระเบิดไว้รอบปราสาท ทั้งมีฐานของทหารกัมพูชาอยู่ในบริเวณและใช้ตัวปราสาทเป็นบังเกอร์ ทำให้ทหารไทยต้องร่นกำลังถอยมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่กัมพูชายังหน้าด้านจะส่งทหารและชาวกัมพูชาที่บาดเจ็บจากการสู้รบครั้งนี้มารักษาตัวใน รพ.ฝั่งไทย แต่บรรดาแพทย์ใน รพ.ชายแดนปฏิเสธที่จะรับตัว ให้เหตุผลว่าไม่สามารถรับได้เนื่องจากทหารกัมพูชายิง รพ.หลายแห่งจนไม่เหลือสถานที่ใช้รักษาพยาบาลแล้วทบ.รับคุมปราสาทตาควายไม่ได้ 100%ที่ บก.ทบ. เมื่อตอนสายวันที่ 31 ก.ค. พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่า พื้นที่ประสาทตาควายถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้ง 2 ฝ่ายก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่าปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนการปะทะ จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควาย จะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหาร ไม่ใช่ตัวประสาทเพราะเป็นพื้นที่ต่ำ สำหรับห้วงสุดท้ายของการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือเนิน 350 ที่อาจมองว่าอยู่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีไม่เพียงพอ แต่อย่างน้อยสามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา เขาใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาที่ปราสาทตาควาย ทำให้เราไม่สามารถวางกำลังประจำในปราสาทได้ เพราะจะกลายเป็นเป้านิ่งเผยสนามทุ่นระเบิดเป็นอุปสรรคโฆษก ทบ.แถลงอีกว่า ลักษณะภูมิประเทศของปราสาทตาควายจึงแตกต่างกับจุดอื่น หากเราเคลื่อนกำลังผลีผลาม จะโดน BM-21 จู่โจม และในห้วงเวลาสุดท้าย เราพยายามจะยึดเนิน 350 และปราสาทตาควายไปพร้อมกัน พยายามเข้าสู่ 2 ที่หมาย แต่ไม่คาดคิดว่าจะเจอกับสนามทุ่นระเบิด ที่กัมพูชาวางไว้ ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก สาหัส 1 นาย เรายอมรับว่าการบาดเจ็บจากสนามทุ่นระเบิดนั้น รั้งหน่วงการรุกคืบในขั้นสุดท้ายของเรา ซึ่งเราต้องพยายามสร้างสมดุลภารกิจสุดท้าย กับขวัญกำลังใจของทหาร ความปลอดภัยควบคู่กันไป เมื่อถึงเวลาหยุดยิงเราสามารถควบคุมพื้นที่มากกว่าเดิม เพียงแต่เราไม่มีกำลังประจำที่ปราสาทตาควายชี้ได้พื้นที่เพิ่มเติมถือว่าคุมปราสาทได้เมื่อถามย้ำว่าเราไม่สามารถยึดปราสาทตาควายได้ใช่หรือไม่ โฆษก ทบ.กล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารไม่ได้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว แต่หมายถึงองค์ประกอบโดยรวม ยืนยันว่าเราได้พื้นที่เพิ่มเติม และพื้นที่ที่ได้ก็ถือว่าควบคุมตัวปราสาทได้ ขณะนี้จะเห็นได้ว่ามีทหารกัมพูชาอยู่ในตัวปราสาท ไปอยู่ในขั้นตอนของการหยุดยิงแต่ไม่ได้หมายความว่าใครที่เดินอยู่ภายในปราสาทตาควายจะเป็นผู้แพ้ชนะ ทั้งนี้ได้เก็บรวบรวมหลักฐานกรณีทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดบริเวณโดยรอบปราสาทตาควาย เพราะละเมิดอนุสัญญาออตตาวา มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เรามีผู้บาดเจ็บ จากสื่อสังคมออนไลน์จะเห็นว่ามีชาวกัมพูชาที่อยู่บนปราสาทตาเมือนธม และมีวัตถุระเบิด PMN-2 วางอยู่ ซึ่งไม่ใช่ชิ้นเดียว ปัจจุบันการต่อสู้ทางการทหารคลี่คลายลงไปบ้าง แต่การต่อสู้การเมืองระหว่างประเทศต้องดำเนินการต่อ รัฐบาลกับกระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ หลักฐานข้อพิสูจน์ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้หมดแล้วลั่นทหารไม่มีความกดดันทำดีที่สุดแล้วเมื่อถามว่าก่อนเจรจาหยุดยิง รัฐบาลได้ประสานงานกองทัพ ในฐานะที่รับผิดชอบในหน้างานว่าสามารถควบคุมพื้นที่ได้หรือไม่ ก่อนที่จะไปเจรจา โฆษก ทบ.กล่าวว่า ในส่วนโฆษกกองทัพบกไม่ได้รับข้อมูล ตนรับผิดชอบเฉพาะการปฏิบัติการทางทหารของหน่วยในพื้นที่ ยืนยันว่าการปฏิบัติการในช่วงห้วงสุดท้ายเราทำอย่างดีที่สุด ยืนยันว่าทหารไม่มีความกดดัน ในการปฏิบัติในหน้างาน ภาพรวมเราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ 99% ตัวปราสาทตาควายไม่ใช่จุดยุทธศาสตร์ที่เราต้องการ เพราะอยู่ต่ำกว่าเนิน 350 เราไปยืนอยู่ที่ตัวปราสาทตาควายไม่ได้หมายความว่าเราชนะ แต่ต้องไปดูพื้นที่ที่เราควบคุมได้ว่า จะมีการใช้ประโยชน์อย่างไร หากจับที่สิ่งปลูกสร้างก็จะมองว่าทหารไทยยึดไม่ได้ แต่หากมองในแง่การทหารเราควบคุมพื้นที่ได้มากกว่าที่เคยอยู่เดิมเชื่อ ปชช.เห็นไม่เคยทำอะไรให้เคลือบแคลงเมื่อถามว่ามีสื่อออนไลน์ดูแคลนทหารไทย ที่ต้องสูญเสียปราสาทตาควายไป พล.ต.วินธัยกล่าวว่า เชื่อพี่น้องประชาชนคนส่วนใหญ่ได้เห็นว่าสิ่งที่กองทัพไทยทำดีที่สุด เราไม่เคยทำอะไรให้มีความเคลือบแคลงใจในสิ่งที่เรากำลังปฏิบัติและสิ่งที่เรากำลังพยายาม เชื่อว่าอาจจะมีส่วนน้อย แต่ไม่ได้มองว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องไม่ดี เรายังสามารถเพิ่มเติม และเสริมข้อมูลให้ได้ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ให้หน่วยงานภาครัฐหรือหน่วยงานภาคพลเรือนรวมถึงสื่อมวลชน ตนให้ข้อมูลการปฏิบัติในห้วงเวลาสุดท้าย คิดว่าได้ทำในสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อถามถึงสาเหตุการเสียปราสาทตาควาย เพราะเรายืดเวลาหยุดยิงออกไปที่อยากยุติการหยุดยิงในเวลา 18.00 น. แต่กัมพูชา ขอให้หยุดยิงในเวลา 24.00 น. ทำให้เราไม่สามารถเสริมกำลังไปที่ปราสาทตาควายได้ พล.ต.วินธัยกล่าวว่า ตรงนี้ไม่มีข้อมูลและรายละเอียดที่ชัดเจนแบบนั้น1 ส.ค.พาผู้ช่วยทูตทหารดูความเสียหายพล.ต.วินธัยกล่าวถึงการพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อดูความเสียหายจากการกระทำของกัมพูชา ว่า บุคคลที่กองทัพบกเชิญไปมีบทบาทในการสื่อสารข้อมูลเชิงคุณภาพ ที่เกี่ยวกับภาพลักษณ์ประเทศไทย ทั้งข้อมูลทหาร และรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงไม่เหมือนกับที่กัมพูชาพยายามบิดเบือน เราจะให้ข้อเท็จจริงที่กัมพูชาปฏิบัติกับพลเรือนไทย ซึ่งมีความเสียหายของโรงพยาบาลถึง 20 แห่ง ทั้งนี้ อาจจะพาไปได้ไม่ครบทุกจุด แต่จะมีการแบ่งกลุ่ม การลงพื้นที่ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.) ซึ่งจะไปทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล และดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงร้านสะดวกซื้อ สำหรับผู้นำคณะต่างประเทศลงพื้นที่นำโดย พล.ท.อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก ทั้งนี้ นอกจากผู้ช่วยทูตทหารแล้ว ยังมีเอกอัครราชทูต ซึ่งประสานผ่านทางกระทรวงต่างประเทศมา รวมถึงสำนักข่าวต่างประเทศที่อยู่ในไทยอย่างน้อย 10 สำนักขึ้นไปย้ำช่องอานม้าอยู่ในเส้นปฏิบัติการทางทหารไทยพล.ต.วินธัยยังกล่าวถึงกรณีกัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติ ลงพื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ว่า ไทยได้ทำดีที่สุด หลายพื้นที่ฝ่ายกัมพูชา ได้รุกล้ำฝ่าฝืนกติกา อาศัยชาวบ้าน ชุมชน เข้ามาทำผิดเงื่อนไขแทน โดยหลีกเลี่ยงการใช้หน่วยทหารของกัมพูชา ดังนั้น ต้องรู้เท่าทัน ต่อไปจะพูดปัญหาอย่างตรงไปตรงมาว่า ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะเกิดสถานการณ์สู้รบกันนี้ ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเส้นปฏิบัติการทางทหาร การที่ผู้ช่วยทูตทหารและสื่อมวลชนต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ลักษณะนั้น ต้องยอมรับว่าจะเอาช่วงเวลาของเมื่อวานมาตัดสินไม่ได้ เนื่องจากมีสัญญาหยุดยิงแล้ว การยึดตาม MOU 2543 ไม่ได้หมายความว่าจะเดินเข้าเดินออกไม่ได้ แต่จะต้องทำการภายใต้กติกาในจุดที่สำคัญ 2 ฝ่าย จะมีเจ้าหน้าที่อยู่ฝ่ายละ 5-7 คน แต่จะต้องไม่มีการฝ่าฝืน เหมือนกับการขุดคูเลต แบบที่ผ่านมา ฉะนั้นเหตุการณ์ที่เข้ามาในพื้นที่บ้าง จึงเป็นไปได้ โดยจะให้ทุกอย่างตึงเครียดไปหมดคงเป็นไปได้ยาก เพราะมีพรมแดนติดกันกล่าวหาไทยลักพาตัว 18 ทหารกัมพูชาที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 31 ก.ค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ผอ.ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีนายฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา ประสานขอตัวทหารกัมพูชาที่ยอมจำนนทหารไทย 18 นาย ว่า จริงๆเตรียมส่งตัวกลับ แต่พอกัมพูชาบอกว่าเราลักพาตัว จึงต้องสอบถามบันทึกปากคำว่า ไม่ได้ลักพาตัวแต่เป็นการควบคุมตัว กัมพูชาบิดเบือนข่าวเราต้องเอาข้อเท็จจริงตอบโต้ ปัจจุบัน ยังมีทหารกัมพูชาจากนอกพื้นที่เข้ามา เมื่อเกิดการปะทะส่วนหนึ่งหลงอยู่ในพื้นที่ฝ่ายไทย เราจะแจ้งให้ทหารเหล่านี้ออกมาเพื่อควบคุมตัวและส่งกลับตามหลักมนุษยธรรม แม้เขาจะผิดหลักกฎหมายนานาชาติ แต่ให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมของโลกจ่อพาทูตทหารลงพื้นที่ 1 ส.ค.ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. ไม่มีการปะทะถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น แต่การที่เขาพาทูต ทหารเข้าพื้นที่ หากยังมีการยิงกันอีกประชาคมโลกคงรับไม่ได้ ได้เน้นย้ำกองกำลังที่อยู่ตามชายแดนไม่ให้ประมาท จนกว่าสถานการณ์จะชัดเจนแน่นอน เรื่องการพาทูตทหารลงพื้นที่มอบหมายให้กองทัพบกเร่งดำเนินการ ต้องมั่นใจว่ากัมพูชาเขาหยุดยิงจริงๆ การที่เขาพาผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่เขาคงไม่กล้ายิง เราถึงคิดพาผู้ช่วยทูตทหารเข้าไปและทุกคนต้องปลอดภัย เรามั่นใจไม่ละเมิดการหยุดยิง แต่ไม่มั่นใจว่าเขาจะละเมิดหรือไม่ หากเราพาเข้าไปแล้วเกิดยิงขึ้นมา เราต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรามีแผนจะนำทูตทหารลงพื้นที่ในวันที่ 1 ส.ค. เบื้องต้นมากกว่า 15 ประเทศ และไม่เสียเปรียบที่กัมพูชาพาทูตทหารลงพื้นที่ก่อนเรา ข้อเท็จจริงมีอยู่ ส่งข้อมูลให้ทูตทหารประเทศต่างๆที่อยู่ในไทย เขาต้องพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลว่าจะเชื่ออันไหนย้ำข้อมูลหน่วยงานไทยคุมตาควายเมื่อถามว่า ปราสาทตาควาย กัมพูชาได้ยึดคืนไปหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ทางหน่วยบอกว่าควบคุมได้ ตอนนี้ข่าวออกมาบิดเบือนตลอด เมื่อเช้าได้รับข่าวดี นักกีฬากอล์ฟมือต้นๆลำดับโลกของไทยโพสต์ข้อความช่วยกองทัพ ทำให้มีกำลังใจ จึงขอเชิญชวนสื่อมวลชนแสดงความสามารถในการตอบโต้กัมพูชา ทหารไม่ได้ถูกฝึกมาให้ตอบโต้ข่าว สื่อมวลชนมีความสามารถขอให้แสดงให้ประชาชนเห็นว่า สามารถ ตอบโต้กัมพูชาได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ยินดีสนับสนุนข้อมูลข้อเท็จจริง ส่วนข้อตำหนิเรื่องการสื่อสารของ ศบ.ทก. ที่ประชุม ศบ.ทก.จะพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้ข้อมูลไปถึงประชาชนอย่างบูรณาการ ยอมรับเป็นห่วงเรื่องการสื่อสาร ข้อมูลที่สื่อติติงมายินดีรับฟัง ขออย่างเดียวอย่าช่วยกัมพูชาโจมตีหน่วยงานที่กำลังทำงานอยู่ ยืนยัน ศบ.ทก.เป็นกลไกของรัฐบาล ที่โซเชียล มีเดียโจมตีว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร ความจริงคือเราทำอยู่ขอเปลี่ยนที่ประชุม GBC เป็นมาเลเซียสำหรับจดหมายยื่นข้อเสนอถึง พล.อ.เตียเซยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ระบุถึงกรณีการนัดประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา ที่กรุงพนมเปญ กัมพูชา ในวันที่ 4 ส.ค. ของ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม มีข้อความว่า มีความยินดีที่จะเข้าร่วมเพื่อหาทางคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดและหาทางออกเรื่องความมั่นคงพรมแดน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนสองฝ่าย แต่เนื่องด้วยความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ จึงอยากให้จัดการประชุมดังกล่าวในมาเลเซีย เข้าใจว่าตามปกติแล้วการจัดประชุมจะเป็นไปในลักษณะหมุนเวียน และคราวนี้มีไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่าจะเป็นการเหมาะสมกว่า การประชุมควรมีขึ้นในประเทศที่เป็นกลาง ไทยได้สื่อสารเรื่องนี้ไปยังมาเลเซียแล้ว และรับทราบว่ามาเลเซียพร้อมที่จะเตรียมสถานที่ให้สำหรับการเจรจาครั้งสำคัญที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังมองว่าการเจรจาวันเดียวตามที่เสนอไปในทีแรก อาจไม่เพียงพอต่อการหารือแบบครอบคลุม จึงขอเสนออีกครั้งให้มีการประชุมระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค. โดยแบ่งเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค. และการประชุมพิเศษ GBC เพื่อหารือประเด็นเร่งด่วนในวันที่ 7 ส.ค. หวังว่าข้อเสนอจะได้รับการพิจารณาควบคุมตัวทหารกัมพูชา 20 ส่งรักษาใน รพ.2เวลา 12.15 น. พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษก กองบัญชาการกองทัพไทย โฆษก ศบ.ทก. แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า ภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังเป็นการตรึงกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ผ่านมาตรวจพบการใช้โดรนของฝ่ายกัมพูชา สภาพแวดล้อมโดยรวมยังอยู่ในความสงบ กรณีทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว 20 นาย มาจากการยอมจำนนของทหารกัมพูชาเนื่องจากกระสุนหมด ในพื้นที่ช่องซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทั้ง 20 นายถูกส่งดำเนินคดีตามกฎหมายฐานเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือมาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ผู้ถูกควบคุมตัวมีได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ถูกส่งเข้ารักษาพยาบาลที่ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน จ.สุรินทร์ มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควบคุมดูแล จึงเหลือทหาร 18 นายที่ควบคุมไว้แจงที่มาที่ไปเหตุการณ์ก่อนปะทะพล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า มีผู้บังคับบัญชาหรือผู้นำฝ่ายทหารของมาเลเซียเข้ามาสังเกตการณ์และพูดคุยพบปะหารือทั้งฝ่ายไทยฝ่ายกัมพูชา ที่ พล.อ.ดาโต๊ะ โมฮัมหมัด นิซัม จาฟฟาร์ ผบ.ทสส.ของมาเลเซีย มีโอกาสเข้าพบปะหารือกับแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 2 รับทราบข้อเท็จจริงปัญหาชายแดนไทย- กัมพูชา ตามข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกันไว้ โดยข้อสรุปเนื้อหาการหารือ ฝ่ายไทยชี้แจงถึงข้อมูลของสถานการณ์ ก่อนนำไปสู่การปะทะของทั้ง 2 ประเทศ ไทยชี้แจงว่าได้พยายามใช้ความอดทน อดกลั้น ประท้วงการละเมิดข้อตกลงต่างๆ ส่วนฝ่ายกัมพูชาเลือกใช้การวางกำลังทหาร วางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาท ที่เป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา รวมถึงใช้มวลชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ปลุกปั่นยั่วยุในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม สถานการณ์เกิดความตึงเครียดต่อเนื่อง จนฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มการปะทะที่ปราสาทตาเมือนธม ทำให้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ยืนยันฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดบูรณาการสื่อสารวันสต็อปเซอร์วิสพล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า ส่วนสถานภาพผู้อพยพหรือผู้ลี้ภัยจากการปะทะ ฝ่ายพลเรือน ยอดผู้เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บสาหัส 12 ราย บาดเจ็บปานกลาง 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 13 ราย รวม 52 ราย ศบ.ทก.อยู่ระหว่างการเร่งบูรณาการด้านการสื่อสาร โดยเฉพาะการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ถี่ถ้วน ในรูปแบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อลดความเข้าใจผิดในข้อมูลข่าวสาร รวมถึงลดการบิดเบือนข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าม คาดศูนย์ดังกล่าวแล้วเสร็จ 1-2 วันนี้มีความเป็นรูปธรรมคณะ ผช.ทูตทหารลงพื้นที่พร้อมสื่อเทศสื่อไทยด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การเชิญผู้ช่วยทูตทหาร คณะทูตและสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศไปสังเกตการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในวันที่ 1 ส.ค.ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะ ผอ. ศบ.ทก. ระบุว่า กระทรวงกลาโหมจะนำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่สังเกตการณ์ผลกระทบจากการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อให้ข้อเท็จจริงจากการลงพื้นที่ดังกล่าว เป็นที่รับทราบอย่างกว้างขวางรวมถึงต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนต่างประเทศ 22 สำนัก จำนวน 38 คนและสื่อไทยลงพื้นที่ร่วมกับคณะผู้ช่วยทูตทหาร จะเป็นช่องทางสำคัญอย่างมากที่ช่วยเผยแพร่ข้อเท็จจริงให้ประชาคมโลกรับทราบ วันที่ 1 ส.ค. ทีมโฆษก ศบ.ทก.จะร่วมลงพื้นที่และแถลงข่าวสดจากสถานที่จริงด้วยเรียกร้องกัมพูชายุติละเมิดทุกรูปแบบทันทีนางมาระตีกล่าวว่า จุดยืนของฝ่ายไทยและการเรียกร้องให้กัมพูชากลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคี รัฐบาลไทยขอย้ำจุดยืนต่อการยุติความขัดแย้งในครั้งนี้อีกครั้งว่า ฝ่ายไทยมุ่งมั่นที่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดและมุ่งแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี ไทยขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงต่างๆทุกรูปแบบทุกชนิดทันทีและทำตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจังสุจริตใจ ขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมกลับสู่โต๊ะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชาทุกเมื่อ รอให้ฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญอย่างเป็นทางการ เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ตามที่ตกลงกันไว้ จะเป็นอีกก้าวสำคัญในการหาทางออกร่วมกันทบ.เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนอัปเดตช่วงเย็น พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกโดยกรมข่าวทหารบก ร่วมหารือกับผู้ช่วยทูตทหารอาเซียนประจำประเทศไทย นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียประจำประเทศไทย มี พล.ท.กำชัย วงศ์ศรี เจ้ากรมข่าวทหารบก เป็นประธาน มีวัตถุประสงค์หลักหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการจัดตั้ง Interim ASEAN Defence Attaches Monitoring Team (Interim ASEAN DAs Monitoring Team) ในการปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์สถานการณ์หยุดยิงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา การหารือนี้เกิดขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิงที่มาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. มีการเห็นพ้องร่วมกันในการจัดตั้งทีมเฝ้าติดตามชั่วคราวของฝ่ายทูตทหารจากชาติสมาชิกอาเซียนโดยเร่งด่วน เพื่อเป็นกลไกเบื้องต้นติดตามสถานการณ์และสร้างความไว้วางใจระหว่างทั้งสองฝ่าย ในที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกลไก ASEAN Monitoring Team (AMIT) ในอนาคต ทำหน้าที่หลักเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป และประเด็นนี้จะถูกหยิบยกขึ้นในการหารือในเวทีประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ General Border Committee (GBC) ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ส.ค.คณะทูต 22 ชาติลงพื้นที่ดูกับตาขณะที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก (ศปส.ทบ.) เปิดเผยว่า กำหนดการนำคณะผู้ช่วยทูตทหาร 22 ประเทศ ได้แก่ 1.สวีเดน 2.สาธารณรัฐประชาชนจีน 3.มาเลเซีย 4.สหรัฐอเมริกา 5.ปากีสถาน 6.รัสเซีย 7.สปป.ลาว 8.แคนาดา 9.ออสเตรเลีย 10.ฝรั่งเศส 11.ญี่ปุ่น 12.เวียดนาม 13.อิตาลี 14.เนเธอร์แลนด์ 15.สวิตเซอร์แลนด์ 16.บรูไน 17.อินโดนีเซีย 18.เยเมน 19.สิงคโปร์ 20.อินเดีย 21.เกาหลีใต้ 22.ฟิลิปปินส์ และสื่อมวลชน ไปร่วมสังเกตการณ์พื้นที่พลเรือน โรงพยาบาล ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันที่ 1 ส.ค. จะมีการบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ได้รับความเสียหาย การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชา จากนั้นเดินทางไปพื้นที่ทหารกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนคนไทยเสียชีวิต 8 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กอายุ 7-8 ขวบ บาดเจ็บ 10 คน แล้วเดินทางไป ร.ร.ภูมิชรอลวิทยา ต.เสาธงชัย สังเกตการณ์พื้นที่ได้รับความเสียหายและไปยัง รพ.สต.บ้านชำเม็ง ต.เสาธงชัย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังศูนย์พักพิง วิทยาลัยเทคโนโลยีกันทรลักษ์“มาริษ” ยันไทยไม่เสียเปรียบเวทีโลกที่กระทรวงการต่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ แถลงว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยประสบความสำเร็จบนเวทีระหว่างประเทศ ในการรับมือกับสถานการณ์การปะทะไทย-กัมพูชา แม้กัมพูชาพยายามใช้กลไกการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC แต่สุดท้าย UNSC พิจารณาให้เป็นไปตามการเจรจา 2 ประเทศ ตามกลไกที่มีและกรอบอาเซียน ฝ่ายกัมพูชาพยายามใช้โอกาสการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี กล่าวถ้อยแถลงที่สหประชาชาติกล่าวพาดพิงไทยขัดต่อหลักการจนที่ประชุมให้กัมพูชาต้องถอนถ้อยคำออกไป การดำเนินการของประเทศไทยที่เป็นไปตามกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ ทำให้ไทยสามารถดึงกัมพูชากลับมาใช้กลไกทวิภาคียุติการหยุดยิงได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไทยจะไม่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยเด็ดขาด ที่ผ่านมากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการทางการทูตทุกช่องทาง ทั้งทวิภาคี พหุภาคี รวมถึงยังได้พบกับนายโรเบิร์ต เอฟ.โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศ ไทย หลังการเจรจากับกัมพูชาที่มาเลเซีย ได้ย้ำว่าไทยต้องการหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ต้องได้รับความจริงใจกับกัมพูชา แต่กัมพูชากลับละเมิดข้อตกลงไม่ยอมแพ้สงครามข่าวโต้ทุกกรณีนายมาริษกล่าวต่อว่า กัมพูชาใช้ข้อมูลข่าวสารปลอมกล่าวหาประเทศไทย ถือเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อตกลง สอดคล้องกับแถลงการณ์ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR ที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกัมพูชา และต่อต้านการใช้ถ้อยคำที่ยั่วยุบิดเบือน ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าประเทศไทยใช้ระเบียบแบบแผน มีวุฒิภาวะ แม้กัมพูชายิ่งใช้สงครามข่าวสาร ประเทศไทยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจพร้อมตอบโต้ทุกกรณี เพื่อให้นานาประเทศเข้าใจถึงการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชา หากกัมพูชายังคงมีการตอบโต้ด้วยข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ ฝ่ายไทยก็ขอสงวนสิทธิในการตอบโต้ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศจะนำเงื่อนไขการผิดสัญญาใช้ข้อมูลข่าวสารบิดเบือน เรียกร้องให้ประธานอาเซียน จัดการประชุม 10 ชาติอาเซียน เพื่อขอมติกดดันกัมพูชายุติการกระทำดังกล่าวหรือไม่นั้น ไทยไม่ต้องการให้ประเทศอื่นเข้ามาดำเนินการ ต้องการให้กลไก 2 ประเทศเจรจา ไม่จำเป็นต้องไปถึงกฎบัตรอาเซียน เพราะการใช้ข้อมูลข่าวสารเท็จของกัมพูชาถือเป็นการผิดเงื่อนไขของการหยุดยิงที่ตกลงกันที่ประเทศมาเลเซียด้วย การที่ประเทศไทยเรียกร้องต่างๆ ก็เกิดแรงกดดันกับกัมพูชาอยู่แล้วหวังคณะทูตเห็นความจริงเมื่อลงพื้นที่นายมาริษยังกล่าวถึงกรณีเชลยศึกว่า ทั้งหมดถูกจับได้ขณะละเมิดอำนาจอธิปไตย และไทยให้การดูแลตามกฎบัตรสหประชาชาติ และอนุสัญญาที่เกี่ยวข้อง สามารถควบคุมตัวได้และปล่อยตัวได้ เมื่อมีความมั่นใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะไม่กลับมาทำร้ายประเทศไทยอีก ขึ้นกับฝ่ายความมั่นคงพิจารณา สำหรับการนำคณะผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำประเทศไทยลงพื้นที่สังเกตการณ์ที่ จ.อุบลราชธานี หวังว่าคณะทูตจะได้เห็นสิ่งที่กัมพูชา ละเมิดอำนาจอธิปไตยไทย และละเมิดข้อตกลงสหประชาชาติ ในการโจมตีพลเรือน โรงพยาบาล และปั๊มน้ำมัน และพิสูจน์ได้ว่าประเทศไทยรักษากติการะหว่างประเทศ และกระทรวงการต่างประเทศจะพาสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่ร่วมกับผู้ช่วยทูตทหาร เพื่อให้ชาวโลกได้เข้าใจความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อพลเรือนไทยด้วย และการลงพื้นที่ต้องปลอดภัย เพราะไทยไม่ได้มีพฤติกรรมการโจมตีพลเรือนเหมือนกัมพูชา ได้หารือกับกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหมมาตลอด เพื่อพาทุกฝ่ายลงพื้นที่ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย และความลำบากของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ด้วย ยอมรับว่าความเร็วเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ แต่ต้องมั่นใจในข้อมูลข่าวสาร ไม่ให้โลกมองไทยว่าบิดเบือน หรือพูดโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ประเทศไทยเป็นประเทศมีวุฒิภาวะ ต้องยึดกติกา ดังนั้น เรื่องความเร็วจึงไม่ใช่ชัยชนะ แต่การมีหลักฐานมั่นคงและภาพลักษณ์ที่ดี จะทำให้ไทยได้ทุกอย่างที่ต้องการ ทั้งการหยุดยิง และการเจรจาดึงกัมพูชากลับมาผ่านกลไกทวิภาคีทูตไทยประจำ UN แถลงให้หยุดยิงตามข้อตกลงวันเดียวกัน นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัคร ราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ กล่าวชี้แจงเรื่องความขัดแย้งตามแนวพรมแดนไทย ระหว่างการประชุมสหประชาชาติในประเด็นสถานการณ์ชาวปาเลสไตน์ ระบุว่าจำเป็นต้องขอเปิดประเด็นเรื่องของ 2 ประเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมครั้งนี้ เพื่อสร้างความกระจ่างและป้องกันความเข้าใจผิด โดยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. สองฝ่ายมีการตกลงหยุดยิงผ่านสำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้ ฝ่ายเพื่อนบ้านยังคงเปิดฉากยิงและรุกคืบเข้ามาในดินแดน ไทย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยขอเรียกร้องให้เพื่อนบ้านยึดมั่นต่อข้อตกลงหยุดยิง ยึดมั่นต่อการทำงานผ่านช่องทางทวิภาคี หลีกเลี่ยงการกระจายข้อมูลผิดๆหรือข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด พร้อมเจรจากันอย่างจริงใจ ทั้งนี้ ทูตไทยหลีกเลี่ยงการใช้คำว่ากัมพูชายันรับรักษาแค่ให้ล่ามกัมพูชาหยุดทำงานนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี รพ.ไทยปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยชาวกัมพูชาว่า ไม่มีการปฏิเสธการรักษา ขณะนี้ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ มีแต่ผู้ป่วยในที่เป็นชาวกัมพูชา ยังรักษาอยู่ไม่ได้ให้ออกหรือไล่ออกจาก รพ. ยืนยันยังดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน แต่ที่เราให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นชาวกัมพูชาที่ทำงานเป็นล่ามให้กับ รพ. ให้หยุดเพราะมีโดรนมาบินอยู่บริเวณ รพ. ได้รับรายงานจาก ผอ.รพ.ว่า เมื่อมีโดรนมาบินต้องระมัดระวัง อีกประการคือล่ามชาวกัมพูชาอาจถูกทำร้าย เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย จึงให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ไม่ได้หยุดการรักษา หากมีผู้ป่วยฉุกเฉินชาวกัมพูชามาก็รับเป็นผู้ป่วยตามหลักมนุษยชน เราไม่ทำอะไรพิเรนทร์ๆเหมือนบางประเทศ ไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย มีจิตใจสูงส่งกว่าประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศที่เห็นอยู่ เมื่อถามว่าเพราะเกรงว่าจะเป็นสายลับให้กับกัมพูชาหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เป็นอีกทางหนึ่ง ขอให้รอผลการเจรจา GBC ในวันที่ 4 ส.ค.จบก่อน ว่าผลเป็น อย่างไร เมื่อบรรยากาศเรียบร้อยดีค่อยว่ากัน เราต้องฟังให้กระทรวงกลาโหมนำ เราเป็นผู้ตามยังดูแลผู้ป่วยกัมพูชาตามหลักมนุษยธรรมทางด้าน นพ.มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผอ.รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ออกแถลงการณ์ ถึงเรื่อง การยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของล่ามกัมพูชาและการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา ที่มีการเผยแพร่ตามสื่อโซเชียลต่างๆ ทำให้การสื่อสารคลาดเคลื่อน รพ.ขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ให้การดูแลผู้ป่วยกัมพูชาตามหลักมนุษยธรรม ผู้ป่วยรายเดิมที่ยังนอนรักษาตัวใน รพ.ให้บริการโดยปกติ เหมาะสมกับสถานการณ์ งดรับยาแทน เนื่องจากมีข้อจำกัดการจัดส่งยาข้ามแดน ผู้ป่วยกัมพูชารายใหม่พร้อมให้บริการตามหลักมนุษยธรรม โดยเฉพาะกรณีฉุกเฉิน รพ.คำนึงถึงความปลอดภัยผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ญาติและบุคลากร รพ. รวมทั้งสถานที่และบริเวณใกล้เคียงภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบ การให้บริการของ รพ.ในสถานการณ์ความไม่สงบ ทำให้ต้องปรับบริการที่ไม่เร่งด่วนบางประการลง เช่น เลื่อนผ่าตัดกรณีไม่ฉุกเฉิน งดบริการคลินิกพิเศษเฉพาะนอกเวลาราชการและการปฏิบัติงานของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา (ล่าม) งดปฏิบัติงานชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ป่วยชาวกัมพูชาจำนวนน้อยมาก ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยทำลายระเบิดชาวบ้านตกใจนึกว่ากัมพูชาบุกที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ อ.กันทรลักษ์จ.ศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ก.ค.ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน กองทัพภาคที่ 2 ตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิด ที่บริเวณปั๊มน้ำมันบ้านผือ จุดที่ฝ่ายกัมพูชายิงจรวด BM-21 โจมตี จนมีประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 7 ราย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นที่สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ เพราะทั้งหมดเป็นเพียงประชาชนที่ใช้ชีวิตปกติ ระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ได้มีการทำลายหัวกระสุนปืนใหญ่ที่ตกค้างกลางทุ่งนา ไม่ห่างจากหมู่บ้านบึงมะลู อ.กันทรลักษ์ ทว่าการยิงทำลายครั้งแรกไม่สำเร็จ เนื่องจากระเบิดยังทำลายไม่สมบูรณ์ เหลือส่วนท้ายฝังอยู่ในดิน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งสื่อมวลชนและชาวบ้านใกล้เคียง ให้ขยับออกห่างจากรัศมีอันตราย (ทำลายล้าง) กว่า 800 เมตร ขณะที่ถนนหมายเลข 221 สายศรีสะเกษ-เขาพระวิหาร เป็นเส้นทางหลักที่ชาวบ้านใช้สัญจร จึงมีชาวบ้านลงจากรถมาดูการทำลายระเบิด ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโกลาหล เจ้าหน้าที่ต้องปิดถนน กั้นเส้นทาง กันคนห่างออกไปเพื่อความปลอดภัย ก่อนเข้าทำลายซ้ำอีกรอบเสียงดังสนั่น ทำให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบถึงการเก็บกู้ทำลายได้ยินเสียงระบิดต่างตกใจนึกว่ากัมพูชาบุกอีกแล้วบำเพ็ญกุศล 7 ศพเหยื่อระเบิด ปั๊ม ปตท.นอกจากนี้ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 31 ก.ค.ญาติของผู้เสียชีวิตจากจรวด BM-21 ที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ปตท. บ้านผือและจากระเบิดลงบ้าน รวมทั้งหมด 7 ศพ ได้เคลื่อนร่างออกจาก รพ.ศรีสะเกษ ไปยังวัดมหาพุทธาราม (วัดพระโต) พระอารามหลวง อ.เมืองศรีสะเกษ ประกอบพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ตามที่ได้รับพระราชทานพระบรม ราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพวงมาลาพระราชทานหน้าศพ มีศพ 3 แม่ลูกคือ น.ส.รุ่งรัศ ประชัน ด.ญ.ทักษพร ประชัน ด.ช.พงศภัค ประชัน ด.ช.กิตติศักดิ์ คำวัง น.ส.สาวิตรี อ่อนทรวง นายสมศรี ลากบุญ ที่ถูกระเบิดลงบ้านที่บ้านหนองเม็ก หมู่ที่ 4 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ และนางอรุณรัตน์ วันศรี อายุ 62 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดลงที่สวนยางหลังปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ โดยมีการให้ญาติพี่น้องรดน้ำศพก่อนในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. จากนั้นเป็นพิธีอัญเชิญน้ำหลวงอาบศพ โดยมีนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผวจ.ศรีสะเกษ ประธานพิธี ส่วนพิธีบำเพ็ญกุศล มีไปจนถึงวันที่ 2 ส.ค. วันที่ 3 ส.ค. ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงแก่ผู้เสียชีวิต ทั้ง 7 ราย วันที่ 4 ส.ค. เป็นพิธีเก็บอัฐิพ่อสุดอาลัยขอเมีย–ลูกมาเข้าฝันบ้างนายคมสันต์ ประชัน อายุ 40 ปี สามีและพ่อเหยื่อระเบิดที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า มารับศพภรรยาและลูกชายหญิงทั้ง 2 คน และได้ให้จิตอาสามาช่วยแต่งหน้าให้ภรรยากับลูกให้มีสภาพสวยหล่อเหมือนเดิม ได้เข้าไปหาลูกและภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย บอกลูกว่าให้มาหาพ่อบ้างนะ ถ้าอยากได้อะไรก็ให้มาบอก หลังจากที่เสียลูกและภรรยาไปทั้งหมดไม่ได้มาเข้าฝันเลย หรืออาจจะเป็นเพราะตนนอนไม่ค่อยหลับคิดอะไรก็ไม่ออก ส่วนขั้นตอนการดำเนินการเรื่องศพ สวัสดิการต่างๆ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะช่วยเหลือ จะพยายามเข้มแข็งสู้เพื่อลูกและภรรยาเหมือนกับที่ภรรยาเคยให้กำลังใจและบอกตนเสมอให้ตนเข้มแข็งโปรดเกล้าฯให้ ผวจ.เชิญสิ่งของพระราชทานนอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ ผวจ.ศรีสะเกษ เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบให้แก่ญาติของ น.ส.รุ่งรัศ ประชัน ด.ญ.ทักษพร ประชัน ด.ช.พงศภัค ประชัน ด.ช.กิตติศักดิ์ คำวัง น.ส.สาวิตรี อ่อนทรวง และนายสมศรี ลากบุญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “จ่าจุ้ย”ส่วนที่วัดป่าเนินนิมิต ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “จ่าจุ้ย” จ.ส.อ.(พ) ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย ที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีนายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รอง ผวจ.หนองคาย เป็นประธานรดน้ำหลวงอาบศพและอัญเชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ วางหน้าหีบศพ ขณะที่ พล.ต.ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผบ.มณฑลทหารบก 24 เป็นตัวแทนวางพวงหรีด ของ รมว.กลาโหม และพวงหรีดของแม่ทัพภาคที่ 2 จากนั้นนายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รอง ผวจ.หนองคาย ได้มอบกระเช้าสิ่งของพระราชทานแก่พ่อแม่ของ จ.ส.อ.(พ) ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แก่พ่อแม่และญาติพี่น้องจ่าจุ้ย สำหรับกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ จ.ส.อ.(พ) ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย มีถึงวันที่ 1 ส.ค.พระราชทานเพลิงศพ 2 ส.ค.โปรดเกล้าฯพระราชทานของเยี่ยมทหารบาดเจ็บวันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทาน ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ จ.ส.อ.เกรียงไกร ยืนนาน จ.ส.อ.รัตนพล อนุสนธิ์ จ.ส.อ.สำราญ สมานทอง จ.ส.อ.อนันตสิทธิ์ เหลาแพง ส.อ.ทรงธรรม คะหาวงค์ ส.อ.ศรัณยู ไชยา ส.อ.เขมวัฒน์ เขมะกนก ส.ท.ก้องภพ แปงสอน พลทหารอัครพล เขียวหลง พลทหารนัฐพงษ์ สันติกุล พลทหารเขมสิชณ์ สีหบุตร พลทหารอนุวัฒน์ นาคแท้ พลทหารกฤษดา บุญหนา พลทหารอนันดา ช่วยไชยศรี พลทหารธีรภัทร จันทร์ต๊ะบุตร พลทหารธนภูมิ บึงลา และอาสาสมัครทหารพราน พรชัย แก้วมงคล กำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา และเข้ารักษา ณ รพ.ค่ายสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้บาดเจ็บทั้งหมด ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้ ยังความปลื้มปีติ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่กำลังพล และราษฎรอย่างหาที่สุดมิได้ยกหนี้วีรบุรุษสละชีวิตในสนามรบนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะดำเนินการยกหนี้ให้แก่ลูกค้าของ ธ.ก.ส. ที่บุตรหรือคู่สมรสเป็นทหารหรือตำรวจตระเวนชายแดนที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมหนี้สินทุกสัญญาเงินกู้ ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ยค้างรับ ดอกเบี้ยปรับทั้งจำนวน ภายใต้สัญญาที่ใช้แหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. โดยไม่มี ภาระตกทอดให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ การเสียสละชีวิตเพื่อชาติถือเป็นเกียรติยศสูงสุดที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ ในนามของรัฐบาลขอแสดงความเคารพและสำนึกในพระคุณของเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ล้มลงเพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตยของประเทศ มาตรการยกหนี้ครั้งนี้คือคำมั่นจากรัฐบาล และ ธ.ก.ส. ว่าเราจะไม่ทอดทิ้งครอบครัวของผู้กล้า เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคง มีศักดิ์ศรี และไม่ต้องกังวลถึงภาระหนี้สินที่เกินกำลัง รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อดูแลและเยียวยาอย่างเต็มกำลังทูต ผช.ทูตทหาร 24 ปท.–นักข่าวดูพื้นที่ช่วงเย็นวันเดียวกัน น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษา รมว.ต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการนำคณะทูตานุทูต ผู้ช่วยทูตทหาร สื่อมวลชนไทย และสื่อมวลชนต่างประเทศ ลงพื้นที่สังเกตการณ์พื้นที่พลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกัมพูชา ว่า ข้อมูล ณ เวลา 17.00 น. วันที่ 31 ก.ค. มีคณะทูตานุทูตและผู้ช่วยทูตทหาร รวม 24 ประเทศ สื่อมวลชนไทยประมาณ 30 คน สื่อต่างประเทศ ประมาณ 40 คน จาก 26 สำนัก ร่วมลงพื้นที่สื่อสารให้ประชาคมโลกทราบถึงข้อมูล หลักฐาน ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนจากการโจมตีของกัมพูชา การเดินทางนำคณะทูตานุทูต ผู้ช่วยทูตทหาร สื่อมวลชนไทยและสื่อมวลชนต่างประเทศลงพื้นที่สังเกตการณ์ครั้งนี้ เกิดจากข้อมติของที่ประชุม ศบ.ทก.เป็น 1 ในแผนงานที่มีความตั้งใจจะเดินทางทันที เมื่อสถานการณ์ในพื้นที่ปลอดภัย หลังการเจรจาหยุดยิงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่