“บลูดราก้อน” หรือมังกรทะเลสีน้ำเงิน กลับมาโผล่หาดกะรนอีกครั้ง หลังเคยเจอเมื่อ 2 ปีก่อน นักวิชาการดังออกโรงเตือนให้ระวังสวยพิฆาต ชี้เป็นทากทะเลมรณะ ตัวเล็กน่ารัก สีสันสดใสสวยงาม มีครีบคล้ายปีก แหวกว่ายในน้ำทะเลน่าเอ็นดู แต่ห้ามสัมผัสเด็ดขาด พิษรุนแรงถึงตาย ด้านนักอนุรักษ์วอนอย่าตื่นตระหนก เศษแก้วบนชายหาดน่ากลัวกว่า ผู้ประกอบการบอกชื่นชอบ นำรูปภาพไปสกรีนเสื้อยืดขายนักท่องเที่ยวเพจเฟซบุ๊กดังแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังสัตว์ทะเลมีพิษร้ายแรงถึงชีวิตครั้งนี้ เปิดเผยวันที่ 11 ก.ค. “เพจขยะมรสุม” เพจอนุรักษ์ธรรมชาติชื่อดังของ จ.ภูเก็ต โพสต์คลิปและภาพนิ่งพร้อมข้อความระบุ “เจอ 12 ตัว ตัวนึงเท่าหัวเข็มหมุด ไม่ต้องตกใจ เศษแก้วบนหาดน่ากลัวกว่าเยอะ#มังกรทะเลสีน้ำเงิน” เพจดังกล่าวยังโพสต์เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ระบุว่า “สิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่น่าสงสัย “มังกรทะเลสีน้ำเงิน”มาจากไหน สายพันธุ์อะไร ปีแรกว่าฟลุก ติดมากับน้ำอับเฉาเรือหรือมากับซากกระสวยอินเดีย หลายแนวทางที่อาจเป็นได้ แต่ปีนี้มายังไง รอบก่อนเจอวันที่ 31ส.ค. รอบนี้เจอ 10 ก.ค. ต้องฝากพี่ๆไลฟ์การ์ดหาดกะรน หาดกะตะ หาดป่าตอง หรือหาดอื่นๆ ช่วยเก็บตัวอย่างทั้งกะพรุนเหรียญ มังกร และเรือรบโปรตุเกส เพราะเป็นอาหารเจ้าจิ๋ว เราอาจได้พบสายพันธุ์ใหม่ใครจะรู้ หากพบเจอ แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือทางเพจนี้ได้ และให้เก็บด้วยความระมัดระวัง (มีพิษ)”ขณะที่ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความ “หายไป 2 ปี “ทากทะเล Blue Dragon” กลับมาที่ภูเก็ต มีพิษ หากเจอระวังอย่าจับ ดูแลเด็กๆด้วย เพราะสีสวย เดี๋ยวน้องจับมาเล่น” และในคอมเมนต์ ผศ.ดร.ธรณ์ได้แชร์ข้อความจากเพจ Talay Thai.com มีรายละเอียดเกี่ยวกับทากทะเลดังกล่าว ระบุว่า ในจำนวนทากทะเล สุดยอดทากคือ “เจ้ามังกรฟ้าหรือบลูดราก้อน” ดำรงชีวิตกลางน้ำ กินแมงกะพรุนมีพิษ Portuguese man o’ war หรือ “เรือรบโปรตุเกส ขวดเขียว” ที่ลอยตามผิวน้ำมาตามคลื่นลม เช่น ฝั่งอันดามัน สงขลา ไม่ค่อยเข้ามาในอ่าวไทยตอนใน มังกรฟ้ามีอากาศเก็บอยู่ในท้อง ลอยขึ้นลงผิวน้ำกลางมหาสมุทร และกินแมงกะพรุนขวดเขียวเป็นอาหาร จากนั้นนำเซลล์เข็มพิษของเหยื่อมาไว้ตรงปลายหนาม กลายเป็นอาวุธป้องกันตัวเอง ปกติแล้วมังกรฟ้าอยู่กลางมหาสมุทร มีบางครั้งที่คลื่นลมแรงพัดลอยเข้าฝั่ง แต่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานด้านเพจฉุกเฉินการแพทย์ ได้โพสต์เรื่องนี้ไว้เช่นกัน สรุปว่า “รับแจ้งจากประชาชนหาดกะรน จ.ภูเก็ต พบ Blue Dragon บริเวณหาดกะรน ข้อมูลทางวิชาการระบุ Blue Dragon เป็นชื่อทากทะเลประเภทหนึ่ง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Glaucus Atlanticus หรือรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Blue Ocean Slug โดย Blue Dragon ถูกจัดอยู่ในประเภทสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง พบได้ตามมหาสมุทรและชายฝั่งน้ำอุ่นแถบประเทศออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และยุโรป มีรูปร่างคล้ายมังกรหกปีก ลายสีน้ำเงินสดสะดุดตา ลำตัวโตสุดยาวแค่ 1-1.5 นิ้วเท่านั้น มีนิสัยดุร้าย พร้อมโจมตีเหยื่อและผู้บุกรุกด้วยพิษรุนแรง พิษจะเข้าไปทำลายระบบประสาทการทำงานของหัวใจและเซลล์ผิวหนังบลูดราก้อน (Blue Dragon) หรือมังกรทะเลสีน้ำเงิน มีพิษอันตราย ห้ามจับเด็ดขาด ถึงแม้จะมีขนาดเล็กและสีสันสวยงาม แต่พิษของมันทำให้เกิดอาการระคายเคืองรุนแรง หากสัมผัสกับผิวหนัง พิษของมันมีฤทธิ์คล้ายแมงกะพรุนไฟหมวกโปรตุเกส อาการเมื่อโดนพิษบลูดราก้อน มีอาการปวดแสบปวดร้อน คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดศีรษะอย่างหนัก สำหรับผู้แพ้พิษ อาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ข้อควรระวัง หากพบเห็นบลูดราก้อนบนชายหาดหรือในทะเล ห้ามเข้าใกล้หรือสัมผัสเด็ดขาด การปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากถูกพิษสามารถใช้น้ำส้มสายชูล้างบริเวณที่ถูกพิษเพื่อบรรเทาอาการนายณัฐวุฒิ ชูคง ไลฟ์การ์ดประจำชายหาดกะรน ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต กล่าวถึงบลูดราก้อนที่พบเจอว่า เมื่อวานมีน้องมาตักแถวนี้ เจอหลายตัวอยู่ ใส่แก้วไว้ ตัวเล็กๆไม่ใหญ่ เห็นในแก้วประมาณ 10 กว่าตัว เล็กกว่าหัวไม้ขีดนิดนึง ขณะที่ผู้ประกอบการชายหาดกะรนเล่าให้ฟังด้วยว่า บลูดราก้อนจะอยู่กับผืนทราย มาตอนน้ำลง เกาะอยู่ตามพวกแมงกะพรุน พบไม่บ่อย จะมาช่วงมรสุม เมื่อวานเจอ 7-8 ตัว ตักใส่ไว้ในแก้ว ถ้าโดนตัวมันจะคัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาเตือน เพราะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะ ขณะเดียวกันได้มีผู้ทำเสื้อยืดสกรีนรูปบลูดราก้อน ออกจำหน่ายด้วย คนขายเสื้อบอกว่าชอบรูปร่างของบลูดราก้อนดูสวยเหมือนนางฟ้า ที่สำคัญคุณสมบัติของมันสามารถนำพิษของแมงกะพรุนมาเป็นพิษของตัวเองได้ ถือว่าเป็นสัตว์ทะเลที่มีความพิเศษมากอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่