เป็นอีกข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 ก.ค.2567 เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากกับคดีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษ นายสมโภชน์ อาหุนัย และ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและผู้บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) และบริษัทย่อยที่ EAผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.99บริษัท อีเอ โซล่า นครสวรรค์ จำกัด และ บริษัท อีเอ โซล่า ลำปาง จำกัด นายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส เนื่องจากปรากฏหลักฐานข้อเท็จจริงบุคคล 3 ราย ร่วมกันทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของ EA ผ่าน 2 บริษัทย่อย เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2556-2558 ส่งผลให้บุคคลทั้ง 3 ได้รับผลประโยชน์ 3,465.64 ล้านบาทเป็นการกระทำที่ทาง ก.ล.ต. แถลงออกว่า เป็นคดีใหญ่ เพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ฉ้อโกงบริษัทตนเอง มีนักลงทุนได้รับความเสียหายจำนวนมาก เป็นเหตุให้ ก.ล.ต.กล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอยืนยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุดการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับเรื่องเป็นคดีพิเศษที่ ก.ล.ต.เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 มีหลักฐานพยานจากปากอดีตภรรยานายสมโภชน์เอง ก่อให้เกิดความหวังนักลงทุนว่าผู้กระทำผิดได้รับการลงโทษแต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุผลใดจึงปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมาจนคดีส่วนหนึ่งหมดอายุความวันที่ 26 มิ.ย.มีข่าววงในบอกว่า จะมีการขอออกหมายจับนายสมโภชน์กับพวก ก่อนที่คดีหมดอายุความแต่มี “บิ๊กในรัฐบาล” ส่งซิกให้ออกนอกประเทศไปก่อน กลุ่มผู้ต้องหาทั้งคณะหลบหนีไปตั้งหลักอยู่ฮ่องกงรอให้คดีหมดอายุความ ส่วนคดีที่ยังไม่หมดอายุความทำให้สำนวนอ่อนจนไม่สามารถสั่งฟ้องได้ ฟังแล้วสะท้อนใจกับวาทกรรมของคนไทยที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน”ยังเป็นจริงในสังคมไทยหรือไม่.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม