“โรม” จี้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่นประชาชน เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แนะนายกฯต้องใช้โอกาสนี้ประกาศให้ชัดว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวจะไม่มีวันใหญ่กว่าความสำคัญประเทศ รมช.กลาโหมโยนกระทรวงบัวแก้วรับผิดชอบคุยเจบีซี ด้านกองกำลังบูรพาประกาศปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา สระแก้ว อำนวยความสะดวกประชาชนตามหลักมนุษยธรรมจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ขณะที่ตำรวจ สภ.คลองลึกลุยติดวงจรปิด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ชายแดน เขมรฟ้องฝรั่งเศสเรื่องสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชาความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ไทยยังไม่สามารถวางใจอีกฝ่ายได้นั้น ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. มีการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทน ราษฎร มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย กมธ.เชิญนายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม รมว.มหาดไทย รมว.ต่างประเทศ เข้าชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ไม่มีใครมาชี้แจง ส่งตัวแทนหน่วยงานมาแทน อาทิ นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุม กมธ.ว่า จะประชุมลับ คุยกันตรงไปตรงมา วิกฤตินี้ต้องรวมพลังแก้ปัญหา จะสอบถามถึงแนวทางเจรจาเจบีซีวันที่ 14 มิ.ย. จะดำเนินการอย่างไรโรมกล่าวต่อว่า ส่วนการตัดกระแสไฟฟ้ากัมพูชา ก่อนการประชุมเจบีซีนั้นมองว่า ถ้าไปตัดก่อน จะเพิ่มแต้มต่อให้ประเทศไทย นายกฯต้องใช้โอกาสนี้ประกาศให้ชัดว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวจะไม่มีวันใหญ่กว่าความสำคัญประเทศ ถ้านายกฯทำเรื่องนี้ดีจะได้รับความนิยมดี ถ้ากัมพูชายืนยันจะไปศาลโลก คิดว่าคุยลำบาก การจัดลำดับของรัฐบาลมีความสำคัญมากต่อการไว้เนื้อเชื่อใจของประชาชน ถ้าวันนี้ไม่มียุทธศาสตร์ วันที่ 14 มิ.ย. น่าจะลำบาก โจทย์ใหญ่ของรัฐบาลคือจะทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว เรื่องภายในครอบครัวไม่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ชาติ รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม กล่าวภายหลังการให้ข้อมูลต่อ กมธ. กิจการชายแดน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า การให้ข้อมูลครั้งนี้เสร็จสิ้นแล้วไม่มีครั้งต่อไป ในส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยังมีการนัดประชุมเรื่องนี้ ส่วนยุทธศาสตร์การเจรจาเวทีเจบีซีนั้น กระทรวงต่างประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อถามว่า กองทัพวางมาตรการกรณีการเจรจาไม่เป็นผลไว้อย่างไร พล.อ.ณัฐพลตอบว่า ให้รอฟังจาก สมช. ที่ผ่านมาปฏิบัติตาม สมช.มาตลอด ขณะที่ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค 2 กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27-28 มิ.ย. ยังเดินหน้าพูดคุยกันตามกำหนดการเดิมอีกด้านที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ว่า วันที่ 13 มิ.ย. ได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ไปประชุมหลังได้รับข้อสั่งการจากนายกฯ ที่ จ.สุรินทร์ เรื่อง 7 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับกัมพูชา ลงรายละเอียดเป็นจุดๆกันไปว่า จะมีแผนสั่งการหรือแผนเผชิญเหตุ แผนการซ้อมอะไรต่างๆต้องทำให้มีความพร้อม เมื่อถามถึงสถานการณ์วางใจได้หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าดูฝ่ายทหารยังมีการสื่อสารในเชิงการเจรจาพูดคุยหารือกันอยู่ ส่วน ผวจ.คอยสนับสนุนทหารทุกประเด็น การเปิด-ปิดด่านก็เช่นกัน ไทยก็เปิดของไทยอย่างนี้ ถ้าเขาจะมาเหลื่อมเวลาคิดว่าคนที่เสียประโยชน์คือฝั่งเขา เอาเป็นประเด็นการเมืองตรงนี้ไม่ก้าวล่วง ส่วนของเรายืนยันจะเปิดแบบนี้ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอนนี้เปิดวันละ 6-7 ชั่วโมง ถ้าเปิดเหลื่อมกัน เหลือ 6 ชั่วโมง ถามว่าใครเสียประโยชน์มากกว่าระหว่างเขาที่เข้ามาขายของ กับเรา ไม่ออกไปซื้อของเขาหรือไปทำธุรกิจที่เขาช่วงเย็น พ.ท.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. กองกำลังบูรพาได้ปรับมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนถาวรและ จุดผ่อนปรนเพื่อการค้าในพื้นที่ชายแดน จ.สระแก้ว ดังนี้ 1.จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน เปิด-ปิด เวลา 08.00-16.00 น. ผ่อนปรนให้รถบรรทุกหกล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ 2.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ เปิด-ปิด เวลา 08.00-12.00 น. ผ่อนปรนให้รถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่านเข้าออกได้ จำกัด 30 คันต่อวันทั้งขาเข้าขาออก 3.จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา คงเวลาเปิด-ปิด เวลา 08.00-12.00 น.โดยห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไปผ่านเข้าออก แต่หากจำเป็นต้องเดินทางสัญจรสามารถใช้เส้นทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน) นอกจากนี้ได้ผ่อนปรน โดยอนุโลม การเดินทางข้ามแดนของนักเรียนชาวกัมพูชา สามารถผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ ในช่วงเช้า ตั้งแต่เวลา 06.00-08.00 น. ช่วงเย็นเวลา 17.00 -18.00 น. ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับใช้มาตรการที่จำเป็นในการจำกัดการเข้าออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่และพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ตามหลักมนุษยธรรม จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายวันเดียวกันที่ จ.สระแก้ว พ.ต.อ.ภัทรกร ขาวนวล ผกก.สภ.คลองลึก พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมัชญ์ นาคพน รอง ผกก.สส.สภ.คลองลึก นำ จนท.ออกลุยติดตั้งกล้องวงจรปิดระบบอัจฉริยะ (Smart CCTV) ที่มีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับการจำใบหน้าและป้ายทะเบียนรถได้อย่างแม่นยำมาติดตั้งตามทางแยก โดยเฉพาะบริเวณสี่แยกทางเข้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวน การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ปัญหาชายแดน และสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ตามนโยบายของ พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต. ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว และในวันที่ 12 มิ.ย. เป็นวันที่ 6 ของการปรับร่นเวลาเปิดปิดด่านพรมแดนคลองลึกฯเพื่อกดดันกัมพูชากรณีข้อพิพาทชายแดนด้านช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ยังไม่มีอะไรน่าห่วง ชาวไทยและกัมพูชา รวมถึง จนท.ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชายังคงเป็นมิตรที่ดี ให้ความร่วมมือซึ่งกันและกันพ.ต.อ.ภัทรกรกล่าวอีกว่า แต่เนื่องจากเหตุการณ์ต่างๆยังไม่อยู่ในภาวะปกติจึงทำให้ ตร.สภ.คลองลึก ประสานความร่วมมือกับ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ. ร้อย ทพ.1201 และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกันออกตรวจตรา สอดส่องดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนไทยและกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ ซึ่งเป็นตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและการสร้างสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันได้ เนื่องจากขณะนี้มีพ่อค้า แม่ค้าชาวกัมพูชาที่เข้ามาค้าขายในตลาดโรงเกลือกลัวเหตุการณ์บานปลายอาจส่งผลให้มีการปิดด่านพรมแดนจึงเดินทางกลับประเทศไปมาก ทำให้ร้านค้าในตลาดโรงเกลือกว่า 50% ของชาวกัมพูชาปิดตัวลง จึงต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดที่ จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยนางศิรินาถ จินดามณี ประธานแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ร่วมประชุมรับรายงานสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจากตำรวจ 5 โรงพัก ที่มีพื้นที่อยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา มี สภ.โคกกระชาย สภ.หนองไม้งาม สภ.โนนเจริญ สภ.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด และ สภ.ละหานทราย อ.ละหานทราย มีนายเอกวัฒน์ พวงประโคน นอภ.บ้านกรวด ผกก.หน.สถานีตำรวจ พร้อมข้าราชการตำรวจในสังกัดเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง ณ ศปก.สภ.โคกกระชาย พร้อมกันนี้ได้ตรวจดูสภาพความมั่นคงแข็งแรงของหลุมหลบภัยที่ได้มีการปรับปรุง บูรณะซ่อมแซม เพื่อให้มีสภาพความมั่งคงแข็งแรง ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค มีทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม กับเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัววันเดียวกัน สำนักข่าวแขมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า จากกรณีนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางเยือนฝรั่งเศสและเข้าหารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้น ผู้นำกัมพูชาได้แสดงจุดยืนเรื่องสถานการณ์ความตึงเครียดกับไทย 4 ข้อ ประกอบด้วย 1.กัมพูชาจะวางตัวเพื่อรักษาสันติภาพ ความเป็นมิตร และความร่วมมืออย่างดีกับไทย 2.การที่กัมพูชาจะนำประเด็นปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และช่องบก เสนอต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เป็นไปเพื่อการหาทางออกอย่างสันติในเรื่องพรมแดนอย่างรวดเร็ว แทนที่จะทิ้งไว้ให้ค้างคาและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารรอบใหม่ 3.กัมพูชาจะร่วมมือกับไทยต่อไปเพื่อสนับสนุนการปักปันเขตแดนผ่านกระบวนการคณะกรรมาธิการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา (JBC) 4.กัมพูชาจะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศผ่านกระบวนการต่างๆเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนกัมพูชาและไทย ในการหารือดังกล่าวประธานาธิบดีมาครงกล่าวว่า ฝรั่งเศสสามารถอำนวยความสะดวกเรื่องเอกสารให้แก่รัฐบาลไทยและกัมพูชาหากมีความจำเป็นอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่