ศธ.สั่งสอบโรงเรียนไม่รายงานเหตุร้ายเด็ก ม.1 แทงเพื่อนนักเรียน ร่วมชั้นเสียชีวิต ชี้มือมีดอารมณ์รุนแรงต้องส่งนักจิตวิทยาพูดคุย ผอ.โรงเรียนปัดไม่ได้ปิดข่าว เตรียมล้อมคอกค้นอาวุธก่อนเข้าสถานศึกษา ขณะที่ครอบครัวผู้ตายเศร้ารับศพบำเพ็ญกุศล รับเด็กสองคนเคยอยู่ชั้นประถมที่เดียวกัน ก่อนที่คนแทงจะย้ายไปที่อื่นแล้วมาเจอกันอีกทีตอนมัธยมและหาเรื่องอีก วอนแก้บทลงโทษให้เยาวชนก่อเหตุร้ายแรงติดคุกเหมือนผู้ใหญ่ นายกสภาทนายฯแจง กฎหมายเด็กอายุ 12 ปี ไม่ต้องรับโทษอาญา ให้นำเข้า สู่ศาลเยาวชนฯเพื่อฟื้นฟูละลายพฤติกรรมจากเหตุการณ์สลดใจในรั้วโรงเรียน กรณี ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ใช้มีดจ้วงแทง ด.ช.บัว (นามสมมติ) เรียนอยู่ชั้นเดียวกันภายในโรงอาหารช่วงพักเที่ยงได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตหลังถูกนำส่ง รพ.พิบูลมังสาหาร หลังเกิดเหตุ ด.ช.เอ มือมีดอ้างว่าเคยมีเรื่องบาดหมางกับ ด.ช.บัว สมัยเรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนเก่า กระทั่งมาเรียนมัธยมโรงเรียนเดียวกัน แต่ญาติผู้ตายไม่เชื่อ เรียกร้องให้ผู้บริหารโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบสวนหาสาเหตุ พร้อมทั้งให้หามาตรการป้องกันเหตุรุนแรงในสถานศึกษาต่อมาวันที่ 23 พ.ค.ที่ สภ.พิบูลมังสาหาร นางจารุวรรณ บุญโต ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาอุบลราชธานี อำนาจเจริญ พร้อม ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุร่วมกันแถลงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นโดยมีตัวแทนครอบครัวเด็กที่เสียชีวิตร่วมรับฟังด้วย นางจารุวรรณ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงพักเที่ยงทานอาหารกลางวัน กำลังจะเข้าเรียนในคาบเรียนที่ 5 ในช่วงบ่าย ทำให้เกิดช่องโหว่ให้เด็กก่อเหตุได้ ทั้งที่ในช่วงเวลาอื่นๆคณะครูอาจารย์ได้ดูแลเด็กนักเรียนอย่างใกล้ชิด ตรงนี้ต้องเพิ่มมาตรการป้องกัน ตรวจหาอาวุธก่อนเข้ามาในโรงเรียน เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างจนเกิดเหตุขึ้นอีก ส่วนการเยียวยาขณะนี้ ให้ฝ่ายธุรการดูแลเรื่องผลประโยชน์ของนักเรียนที่จะได้รับจากเหตุการณ์นี้จากบริษัทประกัน รวมทั้งเงินช่วยเหลือจากโรงเรียนอีกส่วนหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้มีเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจกลัว วันนี้เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูแลเยียวยาด้านจิตใจกับเด็กนักเรียนกลุ่มนี้แล้ว ทำให้มีขวัญกำลังใจดีขึ้นมากด้าน ผอ.โรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุที่มีข่าวว่าโรงเรียนพยายามจะปิดข่าวนั้นไม่ใช่เรื่องจริง เหตุที่ยังไม่ให้ข้อมูลในช่วงแรก เนื่องจากคณะครูสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงต้องบริหารจัดการ ส่วนหนึ่งดูแลเรื่องการส่งตัวเด็กนักเรียนที่ถูกแทงไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนเด็กที่ก่อเหตุครูได้ควบคุมตัวไว้ที่แห่งหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกทำร้ายจากเพื่อนของเด็กนักเรียนที่ถูกแทงหรือญาติ ส่วนเรื่องการป้องกันในอนาคต โรงเรียนจะเปิดประตูให้มีทางเข้าออกได้ช่องทางเดียวและจะค้นกระเป๋าตรวจค้นอาวุธ เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำรอยส่วนที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบล ราชธานี ครอบครัว ด.ช.บัว เดินทางมารับศพกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ต.บ้านแขม อ.พิบูลมังสาหาร ยังไม่กำหนดพิธีฌาปนกิจต้องรอให้พ่อผู้ตายกลับจากทำงานที่ประเทศไต้หวันก่อน ทั้งนี้ญาติผู้ตายกล่าวว่า เรื่องในอดีตผู้ตายกับมือมีดเคยมีเรื่องกันสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา แต่ไม่มีเหตุทำร้ายกัน จน ด.ช.เอ มือแทงย้ายไปเรียนที่อื่น กระทั่งขึ้น ม.1 เด็กทั้งสองกลับมาเรียนโรงเรียนเดียวกันก็มีปัญหาคนแทงมองหน้าคนตายและทำท่าทางใส่ตั้งแต่เปิดเทอม แต่ ด.ช.บัวไม่สนใจ วันเกิดเหตุขณะ ด.ช.บัวยืนคุยกับเพื่อนในโรงอาหาร ด.ช.เอไม่พูดพร่ำทำเพลงนำมีดที่เตรียมมาจากบ้านยาว 10 นิ้ว เข้าจ้วงแทงลำตัวและคอ 5-6 แผลจนเสียชีวิต“ตอนนี้มือแทงถูกคุมตัวไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี และอยากเรียกร้องให้แก้กฎหมายให้มีการลงโทษเยาวชนที่ทำความผิดร้ายแรงต้องรับโทษติดคุกเหมือนผู้ใหญ่ เพราะถ้ากฎหมายยังอ่อนอยู่อย่างนี้ คนที่ทำผิดถึงขั้นฆ่าคนตายตั้งแต่เด็กจะได้ใจ ติดเป็นนิสัยไปก่อเหตุอีกตอนโต พร้อมทั้งเรียกร้องให้โรงเรียนต่างๆเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยให้แก่เด็กนักเรียนที่ไปเรียนหนังสือ จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่นอีก” ญาติเด็กเหยื่อนักเรียนมือมีดกล่าวนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ตรวจสอบเหตุและรายงานเร่งด่วน ต้องทำครอบคลุมในทุกมิติ โดยเฉพาะประเด็นเมื่อเกิดเหตุแล้วเหตุใดโรงเรียนไม่รีบรายงานผู้บังคับบัญชาจนถูกมองว่ามีความพยายามปกปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ รวมถึงประเด็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับนักเรียนรายนี้เกิดจากสาเหตุใด คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน หากพบว่าโรงเรียนปล่อยละเลยไม่ปฏิบัติตามแนวนโยบายที่ ศธ.กำชับมาโดยตลอดในเรื่องของความปลอดภัยก็ต้องมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวเรื่องเดียวกันว่า สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว กำชับให้รายงานผลโดยเร็วที่สุด ครอบคลุมในทุกประเด็น โดยเฉพาะที่โรงเรียนไม่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รวมถึงโรงเรียนได้ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ และแนวปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียนหรือไม่ เหตุใดจึงมีอาวุธเล็ดลอดเข้าไปก่อเหตุได้ ส่วนพฤติกรรมนักเรียนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นทราบว่ามีพฤติกรรมทางอารมณ์ที่รุนแรง ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดจากอะไร คงต้องให้นักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุย นอกจากนี้ยังมอบหมายให้เขตพื้นที่ฯดูแลครอบครัวนักเรียนที่เสียชีวิตด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจต้องให้ทุกโรงเรียนเข้มงวดเรื่องแนวทางการป้องกันเหตุรุนแรงในสถานศึกษาให้มากยิ่งขึ้น ใครละเลยปล่อยให้เกิดเหตุก็ต้องรับผิดชอบเองขณะที่นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนาย ความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ในแง่ของกฎหมายความรับผิดของผู้เยาว์ กรณีเด็กอายุ 12 ปี กระทำความผิดอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 เด็กอายุเกิน 10 ปี แต่ยังไม่เกิน 15 ปี กระทำความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ไม่ต้องรับโทษ แต่ศาลมีอำนาจดังต่อไปนี้ เช่น ว่ากล่าวตักเตือนเด็กแล้วปล่อยเด็กไป ถ้าศาลเห็นสมควร ศาลอาจเรียกบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็กหรือบุคคลที่เด็กอาศัยอยู่มาตักเตือนด้วยก็ได้ ถ้าศาลเห็นว่าบิดามารดาหรือผู้ปกครองสามารถดูแลเด็กได้ ศาลอาจสั่งให้มอบเด็กให้แก่บิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็กได้ โดยกำหนดเงื่อนไขไม่ให้เด็กก่อให้เกิดอันตรายตลอดเวลาที่ศาลกำหนด แต่ต้องไม่เกินสามปี ดังนั้น เด็กอายุ 12 ปี ไม่ต้องรับโทษอาญา แต่ต้องเข้าสู่ระบบศาลเยาวชนและครอบครัวฯ เพื่อรับการฟื้นฟูหรือควบคุมพฤติกรรม ศาลจะเน้นการคุ้มครองและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมากกว่าลงโทษนายกสภาทนายความฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวฯ พ.ศ.2553 เป็นกฎหมายที่บัญญัติโทษไว้ด้วย แต่ไม่ใช่บัญญัติโทษทางอาญาโดยตรง หากเป็นกระบวนการพิจารณาคดีและวิธีการจัดการกับเด็กหรือเยาวชนที่กระทำความผิด เน้นฟื้นฟู ปรับพฤติกรรม และการคุ้มครองสิทธิของเด็กแทนการลงโทษซึ่งมีการกำหนดขั้นตอนการพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวให้เหมาะสมกับวัยพร้อมวางหลักการที่คุ้มครองเด็กเป็นสำคัญ กฎหมายเปิดช่องให้ศาลใช้มาตรการทางเลือกแทนโทษอาญา ส่วนในทางแพ่งบิดามารดาหรือผู้ปกครองต้องรับผิดผลแห่งการละเมิดที่เด็กได้กระทำลงไป หากเด็กอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะไม่ว่ากระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 429อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่