เปิดคลังสมบัติ “สีกาเก็น” หวานใจโล้นฉาว พบถือครองบ้าน-คอนโดหรู-ที่ดินทำเลทอง มูลค่ารวมกว่า 40 ล้านบาท เผยรวยจัดกว้านซื้อทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลภายในปีเดียว ย้อนแย้งที่มารายได้ อ้างเช่าแผงขายผักหน้าโรงงานเย็บผ้ากับแฟนหนุ่ม มีกำไรแค่ 3 หมื่นบาทต่อเดือน แถมเพิ่งผันตัวเป็นนายหน้าอสังหาฯได้ 2 เดือน ก่อนถูกตำรวจไซเบอร์จับคดีพัวพันเว็บพนันปลายปี 67 หลักฐานชัดรวยอู้ฟู่ ตอนสนิท “สมีแย้ม” ด้านเจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยาน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น แฉโดนแก๊งอดีตเจ้าคุณแย้ม หลอกสร้างพระหลวงพ่อวัดไร่ขิงองค์จำลอง ก่อนเข้ายึด ที่ดิน 18 ไร่ ของกรมทางหลวง สุดท้ายเวรกรรมสนองคืนตำรวจ บก.ปปป. ยังเดินหน้าสืบหาความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินของวัดไร่ขิงพระอารามหลวง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม รั่วไหลออกไปทางไหน และมีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ หลังนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า วัย 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยอมรับโอนเงินวัดไปให้ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธุ์ อายุ 28 ปี หรือสีกาเก็น หญิงสาวคนสนิทหลายร้อยล้านบาท เพื่อนำไปใช้หนี้การพนันออนไลน์ จากการสืบสวนพบว่าในช่วงนายแย้มขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เงินบริจาคของวัดไร่ขิงหายไปร่วม 1 พันล้านบาท ขณะเดียวกันยังมี “นางเตยกับสามี” คนสนิทของอดีตเจ้าอาวาส เข้ามาเป็นตัวละครสำคัญในการยักยอกเงินวัดด้วย ขณะนี้ทั้งสองคนหายตัวไร้ร่องรอยความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 23 พ.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สิน บัญชีธนาคาร บัญชีรายรับรายจ่ายต่างๆของวัด และมูลนิธิต่างๆของวัดทั้งหมดอย่างละเอียด แต่เนื่องจากรายละเอียดในส่วนนี้มีจำนวนค่อนข้างมาก อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพอสมควร“ในส่วนของการตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดของนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินของวัดด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าข้อเคลือบแคลงต่างๆจะเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น” ผบก.ปปป.กล่าวผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวทางการสืบสวนของชุดคลี่คลายคดียักยอกเงินวัดไร่ขิงของตำรวจสอบสวนกลาง พบว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองทรัพย์สินของ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ุ หรือสีกาเก็น อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีพบว่า ถือครองทรัพย์สินจำพวกบ้าน คอนโดหรู ที่ดินในทำเลทองหลายรายการ นอกจากนี้ยังพบว่า ก่อนหน้าที่ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือสีกาเก็น จะถูกตำรวจ สอท. จับดำเนินคดีเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ เมื่อปลายปี 2567 เจ้าตัวเคยทำเรื่องยื่นซื้อบ้านพักหมู่บ้านหรู ในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มูลค่า 6.9 ล้านบาท และคอนโดหรู ริมหาดวงศ์อำมาตย์ เมืองพัทยา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะมายกเลิกการซื้อในภายหลังทรัพย์สินที่สีกาเก็นถือครอง มีบ้านแฝด 2 ชั้น 41 ตร.ว. หมู่บ้านแลนซีโอ คริปส์ 2 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม มูลค่า 4.3 ล้านบาท, คอนโดเคฟป๊อบ ศาลายา จ.นครปฐม มูลค่า 2.3 ล้านบาท, คอนโดเอดจ์ (EDGE) พัทยากลาง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มูลค่า 6.1 ล้านบาท, ที่ดิน 4 ไร่ ต.โป่งตาลอง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่า 16 ล้านบาท, ที่ดิน 3 ไร่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มูลค่า 10 ล้านบาท, ที่ดิน 4 ไร่ 2 งาน 29 ตร.ว. ต.นาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย มูลค่า 5 แสนบาท, ที่ดิน 1 ไร่ 14.5 ตร.ว. ต.สง่าบ้าน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มูลค่า 1.4 ล้านบาท, ที่ดิน 136.9 ตร.ว. ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มูลค่า 5.4 แสนบาท, ที่ดิน 60 ตร.ว. ต.มะขามหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ มูลค่า 1.8 แสนบาท, ที่ดิน (น.ส.3 ก) 1 ไร่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มูลค่า 5 แสนบาท, ที่ดิน (น.ส.3ก) 2 ไร่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี มูลค่า 7 แสนบาท รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 41 ล้านบาทจากการตรวจสอบเชิงลึกยังพบว่าทรัพย์สินมีค่า ทั้งบ้าน คอนโดหรู หรือที่ดินทำเลทองต่างๆ ที่มีมูลค่ากว่า 41 ล้านบาท ของ น.ส.อรัญญาวรรณ เหล่านี้ ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด ถูกซื้อภายในห้วงเวลาเพียงแค่ปีเดียว คือปี 2567 เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เจ้าตัวยังสนิทสนมกับนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และอ้างว่าอดีตพระฉาวให้เงินมาด้วยความเสน่หา เจ้าหน้าที่ยังสืบทราบข้อมูลภูมิหลังของ น.ส.อรัญญาวรรณ กับนายบอย แฟนหนุ่ม พบว่า เดิมทั้งคู่มีอาชีพขายผักอยู่หน้าโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าชุดชั้นใน ต.ทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีรายได้ต่อเดือนรวมกันประมาณ 30,000 บาท ก่อนจะเริ่มผันตัวมาเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดินเป็นอาชีพเสริมเมื่อปลายปี 2567 และยังไม่มีรายได้หลักจากอาชีพดังกล่าว แต่จู่ๆ น.ส.อรัญญาวรรณกลับนำเงินจำนวนมากมาซื้อทรัพย์สินมีค่าได้อย่างน่าฉงนบ่ายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่วัดพุทธอุทยาน หมู่ 10 ต.จระเข้ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น อยู่ลึกเข้าไปในซอยด้านหลังพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิง ประมาณ 2 กม. ภายหลังจากกรมทางหลวง ทวงคืนพื้นที่พุทธสถานอุทยานฯดังกล่าว เนื่องจากปลูกสร้างรุกล้ำพื้นที่ของกรมทางหลวง และรูปปั้นต่างๆโดยเฉพาะรูปปั้นพญานาคขนาดใหญ่ ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปเก็บรักษาไว้ภายในวัดแห่งนี้ แต่องค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลองที่ประดิษฐานอยู่บนฐานขนาดใหญ่ยังตั้งอยู่ในจุดเดิม และมีเจ้าหน้าที่กำลังเร่งปรับภูมิทัศน์เพราะที่ผ่านมาสถานที่แห่งนี้ถูกปล่อยทิ้งรกร้างพระอธิการธนกฤต ยนฺตสีโล หรือหลวงพ่อแหลม เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยาน เล่าถึงความเป็นมาของรูปปั้นพญานาคและรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากพุทธสถานอุทยานหลวงพ่อวัดไร่ขิงว่า ก่อนจะสร้างองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงที่ประดิษฐานอยู่ริมถนน ตนเป็นคนเริ่มต้นโครงการขึ้น ได้ขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปเป็นสัญลักษณ์ว่า ที่บริเวณด้านหลังลึกเข้าไปมีวัดอยู่ภายใน อยากให้ญาติโยมได้รู้จักและมาร่วมทำบุญที่วัด ได้เดินเรื่องขออนุญาตทั้งจากกรมป่าไม้ กรมทางหลวง หน่วยงานราชการที่ดูแลในพื้นที่ ได้ออกหนังสืออนุญาตให้สร้างพระพุทธรูปในพื้นที่ดังกล่าว และในช่วงเดินเรื่องขออนุญาต มี “หมอสมชาย” เป็นสัตวแพทย์ และเป็นอดีตสามีของนางเตย ที่มีบ้านอยู่ใกล้กับพื้นที่ก่อสร้าง และเป็นลูกศิษย์ของอดีตเจ้าคุณแย้ม มาพูดคุยเรื่องการสร้างพระ มีหญิงที่ชื่อเตยมาด้วยทุกครั้ง หลังจากตนได้ใบอนุญาตมาถูกต้องแล้ว ทั้งคู่บอกว่าจะขอสร้างในนามของวัดไร่ขิง“เรื่องนี้อาตมาไม่ติดขัด เพราะอยากให้มีพระพุทธรูปมาประดิษฐานเพื่อให้คนขับรถผ่านไปมารู้ว่าลึกเข้าไปด้านหลังมีวัดพุทธอุทยานอยู่ อาตมาได้สร้างฐานองค์พระประธาน หมดเงินไป 1 แสนบาทเศษ เป็นเงินทำบุญของญาติโยม ส่วนหมอสมชายกับวัดไร่ขิง จัดสร้างหลวงพ่อวัดไร่ขิงองค์จำลอง มีเจ้าคุณแย้มมาทำพิธีบวงสรวง และเป็นประธานในพิธีฝ่ายสงฆ์ อาตมาได้รับนิมนต์ไปร่วมในพิธีด้วย แต่ไม่ได้พูดคุยกับเจ้าคุณแย้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในช่วงก่อสร้าง เจ้าคุณแย้มเคยมาที่วัด แต่ไม่ได้เจอหน้ากัน กระทั่งมีข้อพิพาทระหว่างหมอสมชาย กับกรมทางหลวง เรื่องรุกล้ำที่ดิน ศาลมีคำสั่งให้กรมทางหลวงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินบริเวณก่อสร้างองค์พระ กรมทางหลวงได้ล้อมรั้วและประกาศให้เคลื่อนย้ายรูปปั้นต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงองค์พระประธานหลวงพ่อวัดไร่ขิงเท่านั้น เพื่อจะทำบริเวณดังกล่าวเป็นจุดแวะพักริมทางของทางกรมทางหลวง” เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานกล่าว หลวงพ่อแหลมกล่าวอีกว่า เชื่อว่าเหตุที่กรมทางหลวงสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกนั้น เพราะตนเป็นคนขออนุญาตสร้างพระพุทธรูปเพียงองค์เดียว แต่หมอสมชายกับเจ้าคุณแย้ม กลับก่อสร้างรูปปั้นมาเพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าหากยังไม่รื้อถอน พื้นที่ 18 ไร่บริเวณนั้นจะมีสิ่งก่อสร้างเต็มทั้งหมด เพราะวัดไร่ขิงมีโครงการก่อสร้างที่พักพระสงฆ์และประชาชนทั่วไปได้มาพักอาศัย ทำให้เกิดข้อพิพาทกับกรมทางหลวง เรื่องนี้ถ้าให้พูดตรงๆคือ ตนถูกหลอกเป็นเครื่องมือและถูกหักหลัง เพราะขออนุญาตสร้างพระพุทธรูปเพียงองค์เดียว กลายเป็นว่าวัดไร่ขิง ฉวยโอกาสมาก่อสร้างสถานที่พักให้กับพระสงฆ์ และตอนนี้ผลกรรมปรากฏแล้ว ถูกกรรมตามสนองมายึดคืนไปหมด ส่วนพระพุทธรูปตอนนี้ยังคงอยู่ประดิษฐานที่เดิม ทุกคนสามารถมากราบไหว้ได้ตามปกติ และพื้นที่โดยรอบ กรมทางหลวงได้ปรับภูมิทัศน์เพิ่มเติมให้เป็นจุดแวะพักของนักเดินทางทั่วไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่