ลุยค้นกุฏิ “สมีแย้ม” อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ยึดเอกสาร 11 ลัง เข้า บช.ก. เร่งเช็กเส้นทางและยอดเงินวัดที่ยักยอกไปปั่นสลอต-บาคาราออนไลน์ มีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ พร้อมล็อกโล้นลูกวัดคนโอนเงินเข้าบัญชี “สีกาเก็ต” พัวพันเว็บพนันแก๊งเสี่ยโป้ ขณะที่อดีตเจ้าคุณแย้มเครียดหนัก หลังลาสิกขาสวมชุดขาว ถูกส่งเข้ากรงคืนแรก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ด้านทนายฝ่ายหญิงบอกลูกความอ้างไม่รู้ว่าเป็นเงินวัด คิดว่าพระมีเงินสะสมและให้ด้วยความเสน่หา ไวยาวัจกรยันวัดไร่ขิงเหลือเงินในบัญชีไม่ถึงร้อยล้านช็อกชาวพุทธทั้งประเทศ ภายหลังตำรวจ บก.ปปป. นำหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จับกุมพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) หรือเจ้าคุณแย้ม อายุ 70 ปี เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และเจ้าคณะภาค 14 ยักยอกเงินวัดไปปั่นสลอตเล่นบาคาราออนไลน์ และเปย์ให้ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี หรือสีกาเก็ต หญิงสาวคนสนิทที่คอยเติมเงินให้พระเล่นพนัน เค้นสอบค่อนคืนจนเจ้าคุณแย้มรับยักยอกเงินวัดจริง โอนไปให้หญิงคนสนิทหลายร้อยล้านบาท ต่อมาเจ้าคุณแย้มยอมเปล่งวาจาลาสิกขาต่อหน้าพระพุทธรูปกลางดึก หันมาสวมชุดขาวเป็นนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า ด้าน น.ส.อรัญญาวรรณอ้างรู้จักนายแย้ม สมัยเรียน ร.ร.วัดไร่ขิง ครั้งแรกขอยืมเงิน 40 ล้านบาทไปลงทุน จากนั้นได้โทร.พูดคุยและวิดีโอคอลหากันเกือบทุกวัน ตำรวจเช็กโทรศัพท์มือถืออดีตเจ้าอาวาส พบคลิปสยิวของสาวคนสนิทไลฟ์โชว์เรือนร่างอวบอั๋นขณะอาบน้ำด้วยกินไม่ได้–นอนไม่หลับความคืบหน้าวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อดีตเจ้าคุณแย้ม หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ที่ถูกพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปปป. สอบปากคำยาวนานตั้งแต่เวลา 10.00 น.วันที่ 15 พ.ค. จนถึงเวลา 01.00 น.คืนวันที่ 16 พ.ค. รวม 13 ชั่วโมงถึงเสร็จสิ้น ก่อนนำตัวไปคุมขังไว้ในห้องขังอาคารรับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีตำรวจกองปราบปราม 2 นาย เฝ้าสังเกตการณ์หน้าห้องขังตลอดทั้งคืน เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หลังเข้าห้องขัง นายแย้มได้ล้มตัวลงนอนกับพื้นห้องขังด้วยสภาพอ่อนเพลีย มีอาการเครียดนอนไม่หลับ ใช้ผ้าขนหนูคลุมโปงปิดหน้าตลอดเวลา พลิกตัวไปมากระสับ กระส่ายตลอดคืน รุ่งเช้าเจ้าหน้าที่จัดข้าวต้มหมูมาให้กินเป็นอาหารเช้า 1 ชาม แต่นายแย้มกินไม่ลง ยังเหลือครึ่งค่อนชาม ต่อมามีพระวัดไร่ขิงแวะมาเยี่ยมพูดคุยกับนายแย้มอยู่ราว 1 ชั่วโมง ก่อนขึ้นรถกลับไปแฟนหนุ่มรุดเยี่ยม “สีกาเก็ต”ส่วนในห้องขังหญิงอีกฟากในอาคารเดียวกัน เป็นที่คุมขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือสีกาเก็ต ผู้ต้องหาสนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำทุจริต ในคดีเดียวกับนายแย้ม ถูกคุมขังอยู่ด้วยเช่นกัน น.ส.อรัญญาวรรณมีสีหน้าเคร่งเครียด แววตาหม่นหมอง และที่ข้อเท้าซ้ายยังสวมกำไล EM เนื่องจากประกันตัวออกมาสู้คดีที่ถูกตำรวจไซเบอร์ จับกุมคดีพัวพันเว็บพนัน LAGALAXY 911 เมื่อปลายปี 2567 ต่อมาช่วงเช้ามีแฟนหนุ่มนำอาหารมาเข้าเยี่ยม จากนั้นรีบเดินทางกลับทันที ต่อมาช่วงสายเจ้าหน้าที่สั่งข้าวกล่องให้นายแย้มและสีกาเก็ตกิน แต่นายแย้มไม่เอาเพราะยังมีข้าวต้มมื้อเช้าเหลืออยู่ ส่วนสีกาเก็ต กินข้าวไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแฉเส้นเงินเข้า–ออกบัญชีสีกาด้าน พ.ต.อ.อติชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 กล่าวถึงการดำเนินคดี น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็ต วังทะพันธ์ ผู้ต้องหาคดีเดียวกับอดีตเจ้าคุณแย้มว่า ปลายปี 2567 ตำรวจไซเบอร์จับกุมเครือข่ายเว็บพนัน LAGALAXY 911 มีสมาชิกหลักแสนคน ออกหมายจับ 30 หมาย จับแล้ว 18 หมายจับ หนึ่งในนั้นมี น.ส.อรัญญาวรรณ เป็นกลุ่มผู้บริหารจัดการเงิน และพบว่าพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดวัดไร่ขิงคนสนิทเจ้าอาวาสเป็น ผู้นำเงินโอนเข้าบัญชี น.ส.อรัญญาวรรณ จากนั้น น.ส.อรัญญาวรรณนำเงินเข้าบัญชีเว็บพนันต่อ ในช่วงไม่กี่เดือนมีเงินเข้า-ออกเกือบร้อยล้านบาท ต่อมาศาลอาญาออกหมายจับกลุ่มผู้นำเงินเข้าตู้ฝากเงิน/ ฝากให้ผู้รับผลประโยชน์ พระมหาเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ ถูกออกหมายจับในกลุ่มนี้ นอกจากนี้ยังมีนายมเหศักดิ์ ผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวพันและรู้จักกับเสี่ยโป้ ที่ถูกดำเนินคดีเว็บพนันไปก่อนหน้า คนกลุ่มนี้รู้จักกันและช่วยกันโปรโมตเว็บพนัน“สีกาเก็ต” อ้างยืมเงินไปลงทุนช่วงสาย ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. นายอนิสร รุ่งเรือง ทนายความของ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็ต วังทะพันธ์ ได้เข้าเยี่ยมผู้ต้องหาก่อนออกมาเปิดเผยว่า พูดคุยกับ น.ส.อัญญาวรรณแล้ว ลูกความอ้างไม่รู้ว่าเงินที่นายแย้มโอนมาให้เป็นเงินของวัด คิดว่าเป็นเงินส่วนตัวเพราะนายแย้มบวชมาหลายสิบพรรษาน่าจะมีเงินเก็บมาก และในอดีตนายแย้มเคยให้เงิน น.ส.อรัญญาวรรณด้วยความเสน่หา แต่ช่วงหลังเริ่มให้ทำหนังสือสัญญารับสภาพหนี้เพื่อให้ทยอยจ่ายหนี้ น.ส.อรัญญาวรรณยืนยันไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บพนัน และเงินที่ยืมจากนายแย้ม น.ส.อรัญญาวรรณนำไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์ มีเพียงบางครั้งนำไปเล่นพนันบ้าง ตัวเลขเงินขอยืมทั้งหมดยังไม่ทราบมีจำนวนเท่าใด เพราะในบัญชี น.ส.อรัญญาวรรณมีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก บางครั้งได้ทยอยใช้หนี้ไปแล้วบางส่วน หลังได้กำไรจากการลงทุนให้เพราะเสน่หา-ไม่รู้เงินวัดผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า น.ส.อรัญญาวรรณไม่รู้จริงๆใช่หรือไม่ว่าเงินที่นายแย้มโอนเข้ามาให้เป็นเงินของวัดไร่ขิง นายอนิสรตอบว่า ยืนยันคำพูดของ น.ส.อรัญญาวรรณว่าไม่ทราบจริงๆว่าเป็นเงินวัด เพราะคิดว่าเป็นเงินส่วนตัวที่นายแย้มเก็บสะสมไว้และให้เพราะเสน่หา ที่กล้าขอยืมและกล้ารับเงินเพราะคิดว่าพระคือบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่มีเงินเก็บ น.ส.อรัญญาวรรณไม่ได้เจตนาจะยืมมาเล่นการพนัน แต่ตั้งใจนำมาลงทุน และไม่ทราบว่านายแย้มโอนเงินไปเล่น มาทราบข่าวตอนที่ถูกจับกุมแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องคลิปไม่เหมาะสมระหว่างนายแย้มกับ น.ส.อรัญญาวรรณ ส่วนตัวยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ไม่รู้เป็นการถ่ายเล่นหรือเป็นการเชิญชวนอะไรหรือไม่ คาดว่าคลิปนี้อยู่ที่พนักงานสอบสวน ส่วนความสัมพันธ์ของนายแย้มกับ น.ส.อรัญญาวรรณเป็นเชิงชู้สาวหรือไม่ ไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้เช่นกันลูกวัดให้กำลังใจอดีตสมภารไล่เลี่ยกัน พระปลัดศานิตย์ นิจฺจงฺคุโณ พระลูกวัดวัดไร่ขิง ได้เข้าเยี่ยมนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่อยู่ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหาด้านใน หลังเข้าเยี่ยมแค่ 10 นาที พระรูปดังกล่าวรีบเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ามาทำอะไร พระปลัดศานิตย์บอกว่า วันนี้ตั้งใจจะมาเยี่ยมนายแย้มและให้กำลังใจในการต่อสู้คดี ได้เห็นท่าทีของนายแย้มไม่ได้ดูเครียดอะไรมากมาย ดูเหมือนว่ามีกำลังใจดีที่จะต่อสู้คดีที่เกิดขึ้น ส่วนคดียักยอกเงินวัดไปเล่นการพนัน ไม่ทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แม้แต่พระในวัดไร่ขิงเองยังไม่มีใครทราบว่าเจ้าอาวาสนำเงินไปเล่นพนัน รวมถึงเงินในบัญชีของวัดไร่ขิง พระลูกวัดล้วนไม่มีใครทราบเลยว่าใครมีอำนาจในการเบิกถอนเงินไม่เชื่อจะว่างนั่งปั่นสลอตได้พระปลัดศานิตย์ยังได้ขอความเป็นธรรมให้กับนายแย้มว่า ตอนนี้นายแย้มยังครองสมณเพศสงฆ์ ที่ถอดผ้าเหลืองออกคาดว่าถูกกดดันให้สึก และสึกต่อหน้าพระพุทธรูป แต่นายแย้มท่องบทสวดไม่ครบ ถือว่าไม่ได้สึกจากการเป็นพระ ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อหรือไม่ว่านายแย้มยักยอกเงินวัดไปเล่นพนัน พระปลัดศานิตย์บอกว่า หากถามความคิดเห็นส่วนตัว ไม่เชื่อว่านายแย้มจะนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ เพราะทุกวันที่ผ่านมา นายแย้มทำแต่กิจของสงฆ์ ไม่มีเวลาว่างจะไปนั่งปั่นสลอต ปั่นบาคารา ส่วนจะมีใครช่วยปั่นหรือไม่ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าวเลยชาวบ้านยังศรัทธาวัดไร่ขิงเวลา 06.00 น. ที่วัดไร่ขิง พระอารามหลวง ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม บรรยากาศคึกคัก มีสื่อมวลชนมาปักหลักรายงานข่าวจำนวนมาก เนื่องจากตำรวจ บช.ก.จะเข้าค้นกุฏิอดีตเจ้าคุณแย้ม จากการสังเกตพบด้านหน้ากุฏิอดีตเจ้าอาวาสผู้อื้อฉาว มีสุนัขที่นายแย้มเลี้ยงไว้หลายตัวถูกปล่อยออกมา พร้อมมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของวัดยืนคุ้มกันห้ามใครเข้าใกล้กุฏิ ขณะที่เจ้าหน้าที่วัดได้จัดวางดอกไม้ธูปเทียนเตรียมไว้ให้พุทธศาสนิกชนเข้าสักการะหลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ในพระอุโบสถตามปกติเช่นทุกวัน รวมทั้งยังมีชาวบ้านมาทำบุญใส่บาตรพระสงฆ์ตามปกติเช่นกัน ชาวบ้านใกล้วัดบอกว่า โล่งใจที่อดีตเจ้าอาวาสถูกจับสึก ระแคะระคายเรื่องการยักยอกเงินวัดมาสักพักแล้ว แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด ส่วนตัวแยกแยะได้และยังเคารพศรัทธาหลวงพ่อวัดไร่ขิงเหมือนเดิมค้นกุฏิเก็บหลักฐานมัดสมีแย้มจากนั้นเวลา 07.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นวัดไร่ขิง เลขที่ 51 หมู่ 2 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีพระครูปฐมธีรวัฒน์ เจ้าคณะตำบลหอมเกร็ด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เป็นผู้รับหมายค้น พร้อมนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นกุฏิอดีตเจ้าอาวาสเป็นจุดแรก ตรวจยึดไอแพด ซิมโทรศัพท์มือถือ กล้องวงจรปิด สัญญาเงินกู้ระหว่างอดีตเจ้าคุณแย้มกับสีกาเก็ต และหลักฐานอื่นอีกหลายรายการ จุดที่ 2 ที่พักสงฆ์ จุดที่ 3 กองงานเจ้าคณะภาค 14 ตำรวจเน้นเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสมุดบันทึกเกี่ยวกับบัญชีรายรับ-รายจ่ายเงินบริจาคต่างๆ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงไปสู่คดีทั้งหมด จากนั้นไปค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านฆราวาสคนหนึ่งล็อกตัวโล้นโอนเงินสอบเข้มที่โรงเรียนนายร้อยสามพราน จ.นครปฐม ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. และตำรวจ กก.5 บก.ป. คุมตัวนายเอกพจน์ ภูฆัง หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดวัดไร่ขิงและเป็นคนนำเงินจากอดีตเจ้าคุณแย้มไปฝากตู้รับฝากเงินอัตโนมัติตามที่ต่างๆ เพื่อโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือสีกาเก็ต โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ มาสอบปากคำซักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หลังจับกุมตัวได้ในห้างแห่งหนึ่ง มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นคนสอบปากคำด้วยตนเอง เบื้องต้นนายเอกพจน์ให้การอ้างว่า นายแย้มสั่งให้ตนนำเงินฝากเข้าตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ เพื่อโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารของ น.ส.อรัญญาวรรณไว้ใช้เล่นพนันออนไลน์จริง สำหรับนายเอกพจน์ เป็นผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจ บช.สอท. จับกุมคดีเว็บพนัน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 604/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ในความผิด “ร่วมกันจัดให้เล่นพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตฯ และร่วมกันฟอกเงิน”ยึดเอกสาร 11 ลังเช็กเส้นเงินช่วงบ่ายนายชาตรี สุขถาวร ไวยาวัจกรวัดไร่ขิง เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินบัญชีของวัดไร่ขิงในส่วนต่างๆที่เป็นข้อสงสัย มีเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้าร่วมรับฟังข้อมูล ใช้เวลาพูดคุยราว 2 ชั่วโมง จากนั้นตำรวจได้ขนเอกสารที่ตรวจยึดทั้งหมดไม่น้อยกว่า 11 ลัง ขึ้นรถกระบะนำออกจากวัดไร่ขิง เพื่อนำไปตรวจสอบและไล่ตัวเลขเส้นทางการเงินว่ามีความเสียหายหรือสูญหายไปแล้วจำนวนเท่าไหร่ มียอดสุทธิเป็นอย่างไร เพื่อนำไปประกอบกับคำให้การของอดีตเจ้าคุณแย้ม รวมถึงเจ้าหน้าที่ของวัดไร่ขิงและส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้อง หลังจากนี้จะได้เรียกพระเลขาของอดีตเจ้าคุณแย้ม เข้าให้ปากคำเกี่ยวกับข้อมูลต่างๆด้วยไวยาวัจกรยันเงินไม่ถึงร้อยล้านนายชาตรี สุขถาวร ไวยาวัจกรวัดไร่ขิง ให้สัมภาษณ์ว่า บัญชีวัดไร่ขิงมีหลายสิบบัญชี แต่บัญชีที่ตนมีส่วนร่วมเซ็นเบิกจ่ายมีอยู่ 5-6 บัญชี ต้องเซ็นลงนาม 2 ใน 3 ทุกบัญชีเซ็นถูกต้องตรวจสอบได้ หลังช่วงโควิด-19 รายได้ของวัดน้อยลงไปมาก ไม่ได้มีเงินในบัญชีหลักร้อยล้านบาทเหมือนกระแสข่าว เท่าที่ทราบมี 1-2 ล้านบาทต่อบัญชี หรือบางบัญชีมีเงิน 3-4 ล้านบาท คือมีรายได้เข้ามาจะถูกจ่ายออกไป เป็นค่าก่อสร้างหรือค่าใช้จ่ายล่วงหน้า เหตุที่กรรมการวัดไม่ระแคะระคายถึงการเบิกจ่ายเงินจำนวนมากนั้น ต้องบอกว่ากรรมการวัดไร่ขิงมีหน้าที่กำกับดูแลในส่วนของการจัดงานประจำปีเท่านั้น ส่วนการบริหารจัดการเงิน อดีตเจ้าคุณแย้มจะเป็นผู้ดูแลทั้งหมดวัดไร่ขิงมีไวยาวัจกร 3 คน คือ ตน นายพรเทพ ปัถวี และนายสันติ อนตุธโต ส่วนพระที่มีหน้าที่เปิดบัญชีมี 7-8 รูป แม้แต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่นอนอยู่กุฏิเดียวกับอดีตเจ้าคุณแย้ม ยังไม่ทราบว่ามีบัญชีอื่นกี่บัญชี ยืนยันวัดไร่ขิงไม่ได้มีเงินเก็บเป็นหลักร้อยล้านบาทแน่นอนบัญชีมูลนิธิฯแบ่งแยกชัดเจนนายชาตรีกล่าวอีกว่า ส่วนเงินในบัญชีของมูลนิธิวัดไร่ขิง ตอนนี้ไม่ทราบว่าเหลืออยู่เท่าไหร่เพราะเงินของมูลนิธิฯจะแยกบัญชีออกไปต่างหากไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีของวัดไร่ขิง อาจจะมีโอนยืมไปยืมมาและบริหารจัดการอย่างไร ตนไม่ทราบ ส่วนประเด็นที่บอกว่าอดีตเจ้าคุณแย้ม เป็นคนยากจนเป็นลูกชาวไร่ชาวนา แต่ปัจจุบันทำไมถึงมีบ้านราคา 10-20 ล้านบาท เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เท่าที่รู้อดีตเจ้าคุณแย้มตอนนี้น่าจะเหลือตัวคนเดียวเพราะญาติคนอื่นน่าจะเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องหญิงสาวนายหน้าเว็บพนันไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ยืนยันว่าไม่เคยทำงานอยู่ในวัดไร่ขิง ถ้ามีตนต้องรู้จัก ส่วนหญิงสาวคนสนิทที่มีบ้านหลังใหญ่อยู่ใน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เรื่องนี้ไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือไม่ เรื่องอื้อฉาวทั้งหมดที่ปรากฏออกมา ตนรู้จากสื่อรายงานเช่นกัน ที่ผ่านมาอดีตเจ้าคุณแย้มเวลาไปไหนมาไหนจะไปกับทีมงานกับพระเลขาที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเกือบ 24 ชั่วโมง“บิ๊กเต่า” งงยอด 847 ลบ.มายังไงพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เปิดเผยถึงกระแสข่าวว่า นายแย้มโอนเงินให้กับ น.ส.อรัญญาวรรณ จำนวน 847 ล้านบาท ว่า ไม่ทราบว่าสื่อมวลชนได้ข้อมูลมาจากไหน ชุดทำงานที่ทำอยู่นี้ ยังไม่ได้สรุปยอดทั้งหมดแต่อย่างใด หลักฐานในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่มีข้อมูลเส้นเงินที่นายแย้มโอนให้ น.ส.อรัญญาวรรณนั้น ยอดเงินยังอยู่ที่ 300 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนยอดเงิน 847 ล้านบาท อาจเป็นยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีของ น.ส.อรัญญาวรรณตั้งแต่ต้น เพราะมีหลายบัญชี ขณะนี้เจ้าหน้าที่นำกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งว่าเป็นเส้นเงินจากไหนบ้างเลื่อนฝากขัง 2 ผู้ต้องหาไปก่อนพล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เผยว่า หลังจากตรวจค้นที่วัดไร่ขิงแล้ว ยังพบว่ามีอีกหลายประเด็นที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับคำให้การของนายแย้ม จันทร์กรุงเก่า หรืออดีตเจ้าคุณแย้ม ในเรื่องการโอนเงินเล่นพนันออนไลน์ และความเกี่ยวข้องกับ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ หรือสีกาเก็ต ผู้ต้องหาสนับสนุน ทำให้ต้องเลื่อนการส่งตัวไปฝากขังศาลผัดแรก จากกำหนดเดิมบ่ายวันนี้เป็นวันที่ 17 พ.ค.แทนผบ.ตร.ชี้คดีคืบหน้าไปมากแล้วที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งตั้งคณะทำงานพิเศษ มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นผู้ควบคุมการสอบสวน มีความคืบหน้าไปมากในประเด็นของการนำเงินของวัดถูกนำออกจากบัญชีและส่งต่อไปยังบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์ การให้ปากคำของพยานต่อคณะกรรมการสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมาก ส่วนประเด็นเป็นการขูดรีดหรือบังคับให้พระสงฆ์โอนเงินหรือไม่ กำลังสอบสวนขยายผลไปยังผู้เกี่ยวข้อง คดีนี้แบ่งเป็น 2 ประเด็น มีองค์ประกอบความผิดแตกต่างกัน ประเด็นแรก นำเงินวัดมาใส่ในบัญชีส่วนตัว ประเด็นที่สอง นำเงินออกจากบัญชีส่วนตัวไปยังบัญชีใด ต้องพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทำความผิดส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับวงการศาสนาโดยรวมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่