เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่โรงเรียนนครพนมวิทยาคม พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาและประชุมติดตามนโยบายการศึกษาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร นอกสถานที่กลุ่มภาคอีสานตอนบน ที่ จ.นครพนม ว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ตนพร้อมนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องการมาติดตามนโยบายการศึกษาด้านต่างๆ ของ จ.สกลนคร นครพนม และมุกดาหาร เพื่อที่จะสร้างลูกหลานของเราในกลุ่มภาคอีสานตอนบนให้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งหน่วยงานการศึกษาได้รายงานภาพรวมการบริหารจัดการศึกษาของทั้ง 3 จังหวัดพบว่า มีการแก้ปัญหาการศึกษาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษา การแก้ปัญหายาเสพติด และการยกระดับคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานโครงการประเมินนักเรียนนานาชาติ หรือพิซา ถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือหน่วยงานในพื้นที่อย่างเข้มแข็ง ดังนั้นขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนนโยบายการศึกษาของ ศธ.อย่างเป็นรูปธรรมด้วยรมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ตนได้ฝากเรื่องการเพิ่มสมรรถนะของครูและนักเรียน โดยในส่วนของครูขอให้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักเรียนให้เด็กใฝ่รู้ และครูต้องพยายามเติมทักษะความรู้ให้แก่ตัวเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องใดที่ยังไม่รู้ต้องไปแสวงหาความรู้อย่างมีเหตุมีผลว่า เด็กแต่ละคนขาดทักษะด้านไหน เพราะสิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การสร้างเด็กไทยให้คิดวิเคราะห์เป็น ทั้งนี้ อยากให้ทุกคนได้ตรวจสอบตัวเองว่าขาดทักษะอะไรก็เติมเต็ม เหมือนกับมีดที่ต้องลับความคมอยู่ตลอดเวลา ส่วนการลงพื้นที่ครั้งนี้มีประเด็นสำคัญด้านนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการแก้ปัญหายาเสพติด ซึ่งในส่วนของสถานศึกษาในพื้นที่ดังกล่าวพบ มีตัวเลขนักเรียนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า 188 ราย ถือเป็นตัวเลขที่ไม่สูงมาก เนื่องจากไม่ใช่สังคมเมือง นอกจากนี้ยังมีประเด็นการเสนอแผนงบประมาณซ่อมแซมสถานศึกษาที่ประสบภัยพิบัติด้านต่างๆให้ที่ประชุม ครม.สัญจรพิจารณาด้วย สำหรับการแจกอุปกรณ์สื่อการสอนให้แก่นักเรียนและครูนั้น ขณะนี้ได้จัดทำร่างเอกสารขอบเขตของงานหรือทีโออาร์แล้ว และอยู่ระหว่างจัดทำประชาพิจารณ์เป็นครั้งที่สอง.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
