พี่ชายสุดทนน้องชายทาสยานรก ถือมีดปลายแหลมไปไถเงินพ่อ ซื้อยาบ้าและเหล้าขาว พอไม่ได้เงินโวยวายอาละวาดทำลายข้าวของในบ้าน เข้าไปห้ามยังเงื้อมีดจะทำร้าย ตัดสินใจคว้าไม้ทุบหัวดังโพละหวังสยบคลั่ง น้องทรุดฮวบนอนชักดิ้นกระตุกไม่กี่เฮือกขาดใจตายคาที่ มือสังหารไม่หลบหนีรอมอบตัวชดใช้กรรม อ้างทำลงไปเพื่อปกป้องครอบครัวยาเสพติดเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวล่มสลาย พี่ชายฟิวส์ขาดจำใจฆ่าน้องทาสยาเพื่อปกป้องพ่อรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ร.ต.อ.ศราวุธ ชมภูธร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.15 น. วันที่ 14 เม.ย. รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 90 หมู่ 6 บ้านศรีบุญเรือง ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.เพ็ญ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.อุดรธานี แพทย์เวร รพ.เพ็ญ และกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบชาวบ้านยืนมุงดูศพนายวรเดช หรือเตี้ย ชิยางคะบุตร อายุ 44 ปี นอนหงายจมเลือดอยู่หลังบ้าน ในที่เกิดเหตุมีร่องรอยการต่อสู้ ใกล้กันพบมีดปลายแหลมยาว 1 ฟุต ตกอยู่ข้างกอกล้วย และมีท่อนไม้ยูคายาว 1 เมตร วางอยู่ข้างโอ่งน้ำ ชันสูตรศพพบแผลแตกเหนือกกหูขวายาว 5 ซม. ศีรษะปูดบวมส่วนผู้ก่อเหตุเป็นพี่ชายผู้ตายชื่อนายประยัตร หรือหยัด ชิยางคะบุตร อายุ 46 ปี ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ ให้การรับสารภาพอ้างว่าใช้ท่อนไม้ทุบหัวน้องชายเสียชีวิตจริง เพราะน้องชายถือมีดอาละวาดจะทำร้ายพ่อ เกรงว่าพ่อจะได้รับอันตราย เข้าไปห้ามแต่น้องไม่หยุด และยังถือมีดจะเข้ามาทำร้ายตนด้วย ตัดสินใจใช้ท่อนไม้ทุบหัวน้องเสียงดังโพล๊ะเพื่อสยบความคลุ้มคลั่ง เห็นน้องล้มลงชักกระตุกแน่นิ่ง ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขั้นทำให้น้องเสียชีวิต ยืนยันทำไปเพื่อปกป้องคนในครอบครัว ตำรวจควบคุมตัวนายประยัตรไปสอบปากคำอย่างละเอียดที่โรงพัก และยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เพราะต้องรอสอบสวนให้กระจ่างว่าเป็นการต่อสู้ป้องกันตัวตามที่กล่าวอ้างหรือไม่นายหนูจร ชิยางคะบุตร อายุ 68 ปี พ่อผู้ตายและผู้ก่อเหตุเล่าว่า มีลูกชาย 2 คน ต่างเคยแต่งงานมีครอบครัว แต่ทั้งสองคนหย่าร้าง กลับมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่ นายวรเดช หรือเตี้ย เป็นลูกคนเล็ก ติดยาเสพติดและเหล้าขาว ชอบมาบังคับขอเงินพ่อกับแม่ไปซื้อเสพยาบ้าและดื่มเหล้า ไม่ช่วยทำงาน ถ้าไม่ให้จะอาละวาด ถือมีดข่มขู่ ทุบทำลายสิ่งของเครื่องใช้พังพินาศ ก่อนเกิดเหตุนายเตี้ยมาขอเงินตน 2 ครั้ง ครั้งแรกให้ไป 40 บาท เอาไปซื้อเหล้าขาว ครั้งที่สองให้ไปอีก 40 บาท เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ ขณะตนนั่งอยู่หน้าบ้าน นายเตี้ยถือมีดมาอาละวาดไถเงินอีก แต่ตนไม่มีให้ นายเตี้ยเงื้อมีดจะทำร้าย ลูกชายคนโตเข้ามาห้าม ต่อมาได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันอยู่หลังบ้าน ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิตนายคำวัง ขาวขำ อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านศรีบุญเรือง เล่าว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว เพราะมันทำให้ครอบครัววุ่นวาย รบกวนครอบครัว พ่อกับแม่หาเงินให้ผู้ตายใช้ไม่ไหวแล้ว ผู้ตายเสพยาบ้าทุกวัน ไม่ยอมทำงาน รอขอเงินจากพ่อไปซื้อ ถ้าไม่ให้จะขโมยทรัพย์สินในบ้านไปขาย ชอบเดินถือมีดแกว่งไปมาในหมู่บ้านทุกวัน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว หวาดระแวง ตนเคยพาผู้ตายเข้าไปบำบัด ออกมาเลิกเสพไป 10 ปี แต่ก็หวนกลับมาเสพยาบ้าอีกและหนักกว่าเดิม ส่วนพี่ชายเป็นคนนิสัยดี คงจะทนพฤติกรรมน้องไม่ไหว และได้พลั้งมือฆ่าน้องชายในที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่