7 วันอันตรายวันที่สอง อุบัติเหตุทางถนนคร่าเพิ่มอีก 30 ศพเจ็บ 257 คน รวมสองวันยอดเสียชีวิตพุ่งไป 59 เจ็บ 458 คน สาเหตุหลัก “ขับรถเร็ว-เมาแล้วขับ” โดย กทม.ขึ้นแชมป์ยอดตายสะสม ส่วน 2 วันยอดจับเมาขับทะลุ 7 พันราย ขณะที่ทั่วไทยยังเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน หลายพื้นที่จัดงานคนพื้นที่ นักท่องเที่ยวต่างชาติแห่เข้าร่วมงานจนล้น โดยเฉพาะ 2 ถนนยอดฮิต “สีลม-ข้าวสาร” วันแรกของการเล่นสงกรานต์คนทะลักเข้าไปรวมกันกว่า 1.44 แสนคนผ่านวันที่สองของช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 การจราจรบนถนนสายหลักที่มุ่งหน้า สู่ภูมิภาคต่างๆที่เคยหนาแน่นก็คลี่คลายลงจนกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อคนที่ออกเดินทางถึงที่หมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อยวันที่สองตายอีก 30 ศพเมื่อช่วงสายวันที่ 13 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 (ศปถ.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธาน ศปถ. แถลงสรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนน ช่วง 2 วัน ของการรณรงค์ (11-12 เม.ย.) ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ โดยอุบัติเหตุประจำ วันที่ 12 เม.ย. เกิดขึ้นทั้งหมด 248 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 257 คน ผู้เสียชีวิต 30 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร 12 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร และลำพูน จังหวัดละ 13 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 4 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนสองอันดับแรก คือ การขับรถเร็วเกินกำหนดและการดื่มแล้วขับ จึงขอ ให้จังหวัดบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องยอดสะสม 59 ศพสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วัน ของการรณรงค์ (11-12 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุรวม 460 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 458 คน ผู้เสียชีวิต รวม 59 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 44 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร 23 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ มุกดาหาร 25 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 9 รายเจ็บตายลดลงกว่าปีกลายพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เมื่อวันที่ 12 เม.ย. พบว่า สาเหตุเกิดจากการขับรถเร็ว และช่วงเวลาเกิดเหตุ 00.01-03.00 น. มากที่สุด จึงขอให้เจ้าพนักงานจราจร หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มความเข้ม ในการเรียกตรวจ จับกุมผู้กระทำผิดกฎจราจรให้มากขึ้น สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนน เกิดจำนวน 248 ครั้ง ลดลงกว่าวันเดียวกันของสงกรานต์ปี 2567 จำนวน 65 ครั้ง ลดลงร้อยละ 20.77 รวม 2 วัน ลดลง จากช่วงเวลาเดียวกัน 97 ครั้ง ลดลงร้อยละ 17.41 ส่วนผู้เสียชีวิต จำนวน 30 ราย ลดลงกว่าวันเดียวกันของสงกรานต์ปี 2567 จำนวน 22 ราย หรือลดลงร้อยละ 42.31 รวมสองวันลดลงจากช่วงเวลาเดียวกัน 30 ราย หรือลดลงร้อยละ 33.71 สถิติผู้บาดเจ็บ 257 คน ลดลงกว่าวันเดียวของสงกรานต์ปี 2567 จำนวน 43 คน ลดลงร้อยละ 14.33 รวมสองวันลดลง จากช่วงเวลาเดียวกัน 93 คน หรือลดลงร้อยละ 16.88จับเมาขับทะลุ 7 พันรายส่วนสถิติการบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก ด้านความปลอดภัยทางถนน รวม 2 วัน (วันที่ 11-12 เม.ย.) รวมทั้งสิ้น 179,734 ราย ข้อหาสำคัญ ได้แก่ เมาแล้วขับ 7,081 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 47,138 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 43,296 ราย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 9,730 ราย และย้อนศร 3,931 ราย จำนวนรถ ที่เรียกตรวจ ณ จุดตรวจ รวม 2 วัน มีทั้งสิ้น 202,936 คัน จำนวนรถที่กระทำความผิดรวม 47,227 คันสมุทรปราการแชมป์เมาขับพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติประจำวันที่ 12 เม.ย. ว่า มีคดีเข้าสู่ระบบ ทั้งสิ้น 1,037 คดี และศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) 6 ราย แยกเป็นขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 982 คดี คิดเป็นร้อยละ 94.70 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย ขับเสพ จำนวน 55 คดี คิดเป็นร้อยละ 5.30 ติดอุปกรณ์ EM 3 ราย เพื่อเฝ้าระวังพฤติกรรมเป็นเวลา 15-30 วัน ขณะที่ยอดคดีสะสมตลอด 2 วัน (11-12 เม.ย.) รวม 1,363 คดี ติดอุปกรณ์ EM รวม 15 ราย แบ่งเป็นขับรถขณะเมาสุรา 1,258 คดี ติด EM 4 ราย ขับรถประมาท 3 คดี และขับเสพ 102 คดี ติด EM รวม 11 ราย จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สมุทรปราการ 123 คดี กรุงเทพมหานคร 115 คดี และนนทบุรี 110 คดีคนใช้รถสาธารณะพุ่งต่อเนื่องขณะที่ภาพรวมการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 12 เม.ย. มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป 103,759 คน เที่ยวกลับ 63,685 คน รวมทั้งสิ้น 167,444 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส.และรถร่วมฯ) เที่ยวไป 4,506 เที่ยว เที่ยวกลับ 3,908 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 8,414 เที่ยว สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 47,444 คน จากเดิมที่คาดการณ์ไว้จะมีผู้โดยสารเดินทางเที่ยวไป-กลับ อยู่ที่ 120,000 คน ทั้งนี้เมื่อวันที่ 12 เม.ย. เป็นวันที่มีการเดินทางมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เมื่อเทียบกับการเดินทางช่วงตั้งแต่วันที่ 9-12 เม.ย. ซึ่ง บขส.บริหารจัดการเดินรถเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จัดรถเพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้างปลื้ม M6 ช่วยแบ่งเบารถขาขึ้นด้านนายอภิรัฐ ไชยวงษ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่าจากรายงานผลการเปิดให้บริการทางหลวงพิเศษหมายเลข 6 (M6) ช่วงหินกอง-ปากช่อง ในทิศทางขาออก ระหว่างวันที่ 11-12 เม.ย. มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 86,197 คัน สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนพหลโยธิน (ช่วงหินกอง-สระบุรี) ได้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ และบนถนนมิตรภาพ (ช่วงสระบุรี-ปากช่อง) ได้ถึง 36 เปอร์เซ็นต์ ส่วน M6 ช่วงปากช่อง-นครราชสีมา ที่เปิดให้บริการทั้งสองทิศทาง มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 125,132 คัน แบ่งเป็นทิศทางขาออก 103,464 คัน และทิศทางขาเข้า 21,668 คัน สามารถแบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนมิตรภาพ บริเวณลำตะคอง ฝั่งขาออกได้ถึง 44 เปอร์เซ็นต์ และฝั่งขาเข้าได้ถึง 36 เปอร์เซ็นต์เตรียมปรับเส้นทางจราจรขาล่องนายอภิรัฐกล่าวว่า เพื่อเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวง สระบุรี และแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 จะปิดการจราจรทางหลวง M6 ช่วงหินกอง-ปากช่อง เป็นการชั่วคราว ในวันที่ 14 เม.ย. ตั้งแต่เวลา 00.00 น. ถึง 06.00 น. รวมเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อปรับเปลี่ยนทิศทางการจราจรจาก “ขาออก” เป็น “ขาเข้ากรุงเทพฯ” โดยมีการดำเนินการ ดังนี้ ปิดและบริหารจัดการจราจรจุดเบี่ยงการจราจรที่ปากช่อง กม.109+500 และที่ทับกวาง กม.64+900 ปิดทางเข้าด่านหินกอง/ด่านสระบุรี/ด่านปากช่อง (ทิศทางไปนครราชสีมา) เปิดทางออกด่านหินกอง/ด่านสระบุรี/ด่านปากช่อง (ทิศทางไปกรุงเทพฯ) ขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางหลวงพิเศษ M6 วางแผนการเดินทางล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทาง โดยจะเปิดให้บริการ M6 ในทิศทางขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ด่านปากช่อง-ด่านหินกอง จ.สระบุรี ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันที่ 14 เม.ย.ไปจนถึง เวลา 24.00 น.วันที่ 17 เม.ย.นี้รมว.กต.มะกันร่วมอวยพรไทยนอกจากนี้ เนื่องในโอกาสวันมหาสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย นายมาร์โค รูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ส่งสารอวยพรเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ว่าในนามของรัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งโชคชัยและการเริ่มต้นใหม่สำหรับประชาชนชาวไทยเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ สหรัฐฯ และชาวอเมริกันซาบซึ้งในมิตรภาพอันยาวนานและแน่นแฟ้นที่มีกับไทย ในฐานะเพื่อนและพันธมิตร เราตั้งตารอที่จะได้บุกเบิกวิธีใหม่ๆในการร่วมมือกัน ตลอดจนยกระดับชีวิตและอนาคตของชาวไทยและชาวอเมริกัน ชาวไทยและชุมชนไทย-อเมริกันในสหรัฐฯ ขอให้ทุกท่านสุขสันต์วันสงกรานต์และสุขสันต์วันปีใหม่คูเมืองเชียงใหม่สาดน้ำกันชุ่มฉ่ำสำหรับบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ทั่วประเทศ ในวันที่ 13 เม.ย. ปรากฏว่าตามจุดที่กำหนดให้เป็น สถานที่เล่นสาดน้ำต่างเนืองแน่นไปด้วยผู้คนออกมาเล่นปะแป้ง สาดน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่ ช่วงสายและยิ่งแน่นขนัดมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงเย็นถึงค่ำ โดยที่ถนนรอบคูเมืองเชียงใหม่เนืองแน่นไปด้วย รถกระบะบรรทุกถังน้ำและผู้คนเข้ามาเล่นสาดน้ำกัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความชุ่มฉ่ำ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้ฝุ่นควัน ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์และพระพุทธรูป สำคัญของจังหวัด กว่า 48 วัด อาทิ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว พระเจ้าฝนแสนห่า ฯลฯ ประดิษฐานบนรถบุษบก จัดขบวนแห่แบบล้านนาให้ประชาชนร่วมสรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันสงกรานต์บุรีรัมย์จัดเต็มแป้ง-ดินสอพองที่บริเวณริมถนน อ.ห้วยราช-อ.สตึก บริเวณบ้านตะไก้ ไปถึงบ้านเพชร ต.ห้วยราชา อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ วัยรุ่นหนุ่มสาวและประชาชนทุกเพศทุกวัยนำแป้งฝุ่นและดินสอพอง รวมถึงนำภาชนะใส่น้ำวางเรียงรายริมสองฝั่งถนน รวมถึงรถกระบะ และรถบรรทุกหกล้อ นำถังพลาสติกใส่น้ำไว้บริเวณหลังกระบะรถ ตระเวนเล่นสาดน้ำใส่กันอย่างชุ่มฉ่ำ เช่นเดียวกับที่หมู่บ้านโคกวัด ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ มีการจัดขบวนแห่พระพุทธรูปและพระสงฆ์ ตระเวนไปรอบๆหมู่บ้าน ให้ประชาชนได้สรงน้ำพระพุทธรูปและพระสงฆ์ รวมถึงได้เล่นน้ำสงกรานต์ร่วมกัน“เศรษฐา” ร่วมเล่นสงกรานต์หัวหินส่วนที่บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลนครหัวหิน ถนนดำเนินเกษม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีกหนึ่งพื้นที่ที่เปิดให้เล่นน้ำสงกรานต์ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติออกมาสาดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน และในเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ในชุดเสื้อฮาวายสีแดงลายขาว กางเกงขาสั้น นั่งรถตุ๊กๆจากคอนโดที่พัก มาเล่นน้ำสงกรานต์กับชาวหัวหินและนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเองด้วยพัทยาเล่นสาดน้ำเร็วขึ้นขณะที่บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ ในเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ปีนี้คึกคักกว่าปกติ โดยเฉพาะย่านสถานบริการ ซอย 6, 7, 8 ถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา รวมระยะทางเกือบ 1 กม. คลาคล่ำไปด้วยชาวต่างชาติจากเอเชียและยุโรป ถือปืนฉีดน้ำคนละกระบอกออกมาเล่นฉีดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ต่างจากปีก่อนๆที่ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ในพื้นที่เมืองพัทยาจะไม่ค่อยมีใครออกมาเล่นสาดน้ำ เพราะจะไปเล่นในช่วงเทศกาลวันไหล คือวันที่ 18-19 เม.ย.ที่จะถึงนี้ แต่ในปีนี้เริ่มเล่นสาดน้ำกันเร็ว สถานประกอบการหลายแห่ง อาทิ ร้านอาหาร บาร์เบียร์ และผับอะโกโก้ มีการตั้งเวที ตั้งถังน้ำ เล่นสาดน้ำกับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างสนุกสุดเหวี่ยงหาดใหญ่ยังชุ่มฉ่ำทั้งเมืองที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังคงความชุ่มฉ่ำและสนุกสนานในเทศกาลสงกรานต์ วันที่สอง โดยเฉพาะที่เขต 8 ถนนราษฎร์อุทิศ ถนนสายสงกรานต์ของเมืองหาดใหญ่ ตลอดทั้งสายตั้งแต่สี่แยกสะพานดำจนถึงสี่แยกสัจกุลราว 1 กิโลเมตร ที่มีผู้คนหลั่งไหลมาเล่นน้ำสงกรานต์มากที่สุด จนล้นถนนทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ช่วงเที่ยงทั้งรถยนต์และผู้คนที่ขนกันมาเล่นน้ำสงกรานต์ ทั้งนี้ นายศักดิ์ชาย แสงเพ็ชร สจ.เขต 4 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า ในปีหน้า อบจ.สงขลา จะจัดงบประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อจัดงาน สงกรานต์เขต 8 ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ไม่เฉพาะเล่นน้ำ สงกรานต์ แต่จะมีกิจกรรมและคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ให้เหมือนกับงานหาดใหญ่มิดไนท์สงกรานต์ที่ถนนเสน่หานุสรณ์ ใจกลางเมืองหาดใหญ่ ที่มีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเข้าไปเล่นสาดน้ำอย่างเนืองแน่นมาเลย์แห่ร่วมสงกรานต์ 3 จชต.ขณะที่บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้คึกคักไม่แพ้กัน ทั้งที่ ถนนมะกรูด หรือ “ถนนข้าวยำ” เขตเทศบาลเมืองปัตตานี ถนนยอดฮิตและเป็นจุดเดียวในปัตตานีที่มีประชาชนมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ปีนี้มีการเปิดอุโมงค์น้ำพุที่ยาวที่สุดในประเทศไทยระยะทาง 650 เมตร รวมถึงเปิดเวทีดนตรี และจัดปาร์ตี้โฟม ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้า ผู้ใหญ่พาลูกจูงหลานมาเล่นสาดน้ำกันอย่างมีความสุขสนุกสนานเต็มที่ เช่นเดียวกับที่ถนนเจริญเขต ซอย 3 เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส หรือที่รู้จักในนามถนนน้ำบูดู มีการจัดงานสงกรานต์ต่อเนื่องเป็นวันที่สาม มีคนไทยในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย เข้ามาเล่นน้ำสงกรานต์จนชุ่มฉ่ำ ส่วนที่บริเวณถนนภักดีดำรงค์ ถนนฉายาชวลิต ปากอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ ฝั่งรูปปั้นไก่เบตง จนถึงบริเวณหอนาฬิกาเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา วันที่สองของการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ผู้คนทุกเพศทุกวัยและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเล่นสาดน้ำคลายร้อนกันสนุกสนาน การจัดงานสงกรานต์ของเบตงปีนี้ เพิ่มจาก 1 เป็น 3 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเข้ามาเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อโรงแรมและร้านค้าในพื้นที่อย่างมากผู้คนหลั่งไหลเล่นสงกรานต์สีลมสำหรับบรรยากาศงานสงกรานต์ถนนสีลม กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงสาย นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติหลั่งไหลเข้าไปเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลมอย่างเนืองแน่น ทำให้ต้องปิดการจราจรถนนสีลมให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ ตั้งแต่หัวถนนสีลมไปตลอดถึงจุดถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากสามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQIA+ ถอดเสื้อเล่นน้ำคลายร้อน ทำให้บรรยากาศงานสงกรานต์ที่ถนนสีลมคึกคักสนุกสุดเหวี่ยง เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมาก ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลและเจ้าหน้าที่เทศกิจ คอยดูแลตลอดทั้งทางไปและกลับของถนนสีลมถนนข้าวสารคนล้นหลามเช่นเดียวกับที่ถนนข้าวสาร มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำจนชุ่มฉ่ำตลอดทั้งวัน ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัด ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำ ถนนข้าวสารตลอดทั้งเส้นก็เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ใช้ปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ไล่ฉีดน้ำใส่กันอย่างสนุกสนาน ขณะที่การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ สน.ชนะสงคราม 1 กองร้อย อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัย โดยกำหนดให้เดินผ่านจุดคัดกรองเข้าไปเล่นน้ำในลักษณะเข้า-ออกทางเดียว และมีกล้องวงจรปิด CCTV คอยจับภาพอยู่ตลอดเวลา โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มยุโรปราวร้อยละ 80 ทั้งอังกฤษ เยอรมนี อิตาลี สแกนดิเนเวีย และในเอเชียเป็นกลุ่ม จีน เกาหลี ญี่ปุ่น โดยในปีนี้ยังมีนักท่องเที่ยวชาวอาหรับเข้ามาเล่นน้ำมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การค้าขายอาหารและเครื่องดื่มบนถนนข้าวสารตลอดจนปืนฉีดน้ำขายดีแห่เข้า “สีลม-ข้าวสาร” กว่าแสนคนนายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพ มหานคร เปิดเผยว่า ยอดผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์บริเวณถนนสีลม เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ระหว่างเวลา 12.00-22.00 น. มีจำนวน 85,000 คน ส่วนบริเวณถนนข้าวสาร เวลา 12.00-24.00 น. จำนวน 59,523 คน รวม 2 จุด 144,523 คนโพลชี้ รัฐบาลไม่ชัดเจนยกระดับสงกรานต์วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,298 คน ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายน 2568 กรณี “คนไทยกับสงกรานต์ (Soft Power)” พบว่า ร้อยละ 60.86 สงกรานต์ปีนี้ ตั้งใจจะเข้าวัด ทำบุญ สรงน้ำพระ แต่หากสงกรานต์ไทยจะเป็น Soft Power ระดับโลก ร้อยละ 63.56 ระบุว่า คิดว่าหัวใจของสงกรานต์ไทย คือ วิธีเล่นน้ำที่สุภาพ สนุก และปลอดภัย และถ้าต้องการให้สงกรานต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้มากขึ้น ร้อยละ 50.92 เห็นว่า ภาครัฐควรวางแผนประชาสัมพันธ์ในตลาดต่างประเทศล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ และร้อยละ 66.46 มองว่า ปัญหา/อุปสรรคต่อการยกระดับสงกรานต์เป็น Soft Power ระดับโลก คือ กลยุทธ์และทิศทางของรัฐบาลที่ไม่ชัดเจนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่