คณะกรรมการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ หอบหลักฐานในห้องขังเกิดเหตุ และหุ่นขนาดเท่าตัวจริงเข้าไปจำลองเหตุการณ์ผูกคอตายในห้องขังแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม พบว่าอดีต ผกก.โจ้สามารถใช้ผ้าขนหนูผูกคอได้ด้วยตัวเอง ด้านดีเอสไอนัดแฟนและแม่อดีต ผกก.โจ้เข้าให้ปากคำ โดยมีพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นเข้าสอบปากคำด้วย ประเด็นการร้องเรียนให้ดำเนินคดีถูกทำร้ายในเรือนจำ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายและทรมาน สรุปตำรวจจะเป็นผู้สอบสวนดำเนินคดี ส่วนดีเอสไอจะเป็นผู้กำกับดูแลและติดตามผลผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หลังตำรวจสอบสวนมีความเห็นยังไง ดำเนินคดีใคร ข้อหาอะไรบ้าง ต้องรายงานให้ทั้งคณะกรรมการฯและอัยการสูงสุดมีความเห็นกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ นักโทษคดีใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตภายใน สภ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เข้าตรวจสอบพบอดีตนายตำรวจคนดังใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตสภาพนั่งในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค. หลังเกิดเหตุครอบครัวผู้กำกับโจ้ ออกมาโวยว่า ก่อนหน้านี้ถูกผู้คุมทำร้ายร่างกายจนส่งหนังสือร้องเรียนมาแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ต่อมาผลการชันสูตรพลิกศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และฝ่ายนิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ ออกมาตรงกันว่า ผู้กำกับโจ้เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าจากเรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อ เวลา 09.30 น. วันที่ 14 มี.ค. พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก. น.2 พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น น.ส.ชลธิชา ศุภรัตน์วนิชย์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง (พฐก.) และสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เดินทางมาจำลองเหตุการณ์เสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ ภายในเรือนจำ พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปภายในเรือนจำ เพื่อจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ รวมถึงตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม พฐ.เป็นผู้นำหุ่นขนาดเท่าตัวจริงมาจำลองการเสียชีวิตว่า เป็นไปได้มากน้อยเพียงใดกรณีนำผ้าขนหนูมาแขวนคอ และในส่วนที่ต้องหารือกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีทรมานและการกระทำ ให้บุคคลสูญหายด้วยหรือไม่ ต้องรอดูรายละเอียดอีกครั้งขณะเดียวกัน คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ประกอบด้วยอัยการ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และดีเอสไอ ทยอยเดินทางมายังเรือนจำฯเพื่อร่วมตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งสอบถามเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องการเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้ ส่วนจะขอดูกล้องวงจรปิดและไฟล์เสียงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวรับรายงานว่า ต้องหารือเพื่อดูกรอบอำนาจหน้าที่ว่ามีมากน้อยเพียงใดด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. ในฐานะกรรมการจำลองเหตุการณ์กล่าวก่อนเข้าเรือนจำว่า วันนี้เข้ามาทำภารกิจในส่วนการจำลองเหตุการณ์ ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งการให้ พฐก.มาจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิต พนักงานสอบสวนเตรียมสิ่งของจริงในที่เกิดเหตุมาทั้งหมด จะนำมาใช้จริงในการจำลอง แต่จะใช้กับหุ่นจำลองหรือคนต้องพิจารณาอีกครั้ง การจำลองวันนี้มุ่งเน้นไปที่การใช้ผ้าขนหนูยาวประมาณ 1 เมตร พิสูจน์ว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ที่เป็นสาเหตุทำให้อดีต ผกก.โจ้เสียชีวิต“ไม่ว่าหุ่นหรือคนต้องเป็นขนาดเดียวกับผู้เสียชีวิต เพราะจะมีผลกับการทิ้งตัวลงมาขณะใช้ผ้าขนหนูผูกกับลูกกรง คดีนี้ ผบ.ตร.กำชับว่าเป็นคดีสำคัญ เป็นที่สนใจของประชาชน จำเป็นต้องทำให้สิ้นความสงสัย ส่วนหลักฐานในที่เกิดเหตุ พฐก.ยืนยันว่า เก็บไปเรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่เข้าพื้นที่ มีความสมบูรณ์มากที่สุด ส่วนดีเอ็นเอในที่เกิดเหตุ พฐก.ส่งผลตรวจให้พนักงานสอบสวนแล้ว ยืนยันว่าไม่พบสิ่งผิดปกติ ไม่มีดีเอ็นเอบุคคลอื่น ผลค่อนข้างชัดเจน ส่วนไฟล์เสียงสนทนากับครอบครัวก่อนเสียชีวิตยังไม่ได้รับ ได้รับเพียงวงจรปิดตัวสมบูรณ์อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขั้นตอนต้องคัดลอกคลิปออกมา เพื่อไม่ให้เวลาดึงออกมาตรวจสอบแล้วเกิดความเสียหายกับต้นฉบับ” ผบก.พฐก.กล่าวต่อมาเวลา 12.50 น. หลังจำลองเหตุการณ์อดีต ผกก.โจ้ผูกคอตายในห้องขังแดน 5 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 กล่าวว่า การจำลองเหตุการณ์ วันนี้ยืนยันว่าทำตามลำดับขั้นตอนเสมือนวันเกิดเหตุ บันทึกเป็นรายงานสอดคล้องกับคำให้การของพยานแวดล้อม เจ้าหน้าที่เลือกใช้หุ่นจำลอง จากการจำลองเจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่า อดีต ผกก.โจ้สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว ส่วนเงื่อนไขห้วงเวลายืนยันว่าไม่เป็นอุปสรรค การพิจารณาของคณะกรรมการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของอดีต ผกก.โจ้กำหนดต้องเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบภายใน 30 วัน“เงื่อนหรือปมของผ้าที่ผูกกับลูกกรง ผมตรวจดูที่เกิดเหตุตั้งแต่วันเกิดเรื่อง ฉะนั้นการจำลองวันนี้จึงทำให้เหมือนกับวันจริงมากที่สุด แต่รายละเอียดยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่า ผูกเงื่อนลักษณะใด ส่วน รอยเลือดที่ปรากฏใกล้ที่เกิดเหตุ และรอยแผลจากการถูกสัตว์ขนาดเล็กกัดแทะขณะนี้อยู่ในสำนวนการสอบสวน ยังไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นสัตว์ชนิดใด ส่วนเรื่องคลิปเสียงสนทนากับครอบครัวก่อนเสียชีวิต กับการพิจารณาภาพวงจรปิดไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการชุดนี้ เป็นในส่วนของคดีอาญาที่ดำเนินไปตามกระบวนการอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่ให้ความสนใจคดีอื่นเช่นเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้ กำลังระดมหน่วยงานและเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลตรวจสอบ” รอง ผบก.น.2 กล่าวด้าน น.ส.ชลธิชา ศุภรัตน์วนิชย์ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 4 กล่าวว่า พนักงานอัยการมาร่วมจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุกับอีก 3 หน่วยงาน ขณะนี้ยืนยันว่าข้อเท็จจริงยังไม่ยุติ อธิบดีการสอบสวนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลในท้ายสุด ยืนยันว่าคณะกรรมการชุดนี้เกี่ยวข้องเฉพาะคดีการชันสูตรพลิกศพซึ่งเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่อัยการต้องร่วมกับพนักงานสอบสวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เวลา 13.30 น. ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีดีเอสไอ เผยผลการสอบปากคำน้องสาวและมารดาอดีต ผกก.โจ้ ร.ต.อ.วิษณุกล่าวว่า การเชิญญาติและครอบครัวของอดีต ผกก.โจ้มาสอบถามวันนี้ เนื่องด้วยก่อนหน้านี้ครอบครัวเคยมายื่นหนังสือกับดีเอสไอ ทำให้เรื่องนี้ต้องได้รับการพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ก่อนเสนอไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (คณะกรรมการชุดใหญ่) ซึ่งมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธาน คณะอนุกรรมการฯ มีผู้แทนดีเอสไอ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง คณะอนุกรรมการฯมีหน้าที่ติดตามแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีแจ้งเรื่องบุคคลที่ถูกกระทำสูญหายและทรมานว่าจะให้หน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบ“เราจึงนัดญาติผู้เสียชีวิตมาให้ข้อมูล ประกอบกับวันนี้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น มาสอบปากคำญาติในภารกิจเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวน นอกจากนี้ยังทราบจากพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ว่า ในการสอบปากคำวันนี้จะมีทั้งคดีชันสูตรพลิกศพ รวมถึงคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่ง สน.ประชาชื่น แจ้งให้ทราบว่า ขยายผลเป็นคดีตามความผิดแห่ง พ.ร.บ.อุ้มหาย หมายความว่าคดีตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ตร.จะรับผิดชอบ พร้อมประสานสำนักงานอัยการสูงสุดขออัยการมากำกับการสอบสวนคดี คณะอนุกรรมการฯ ดีเอสไอที่ดูแลกฎหมายอุ้มหาย จะมีหน้าที่กำกับและติดตามดูว่ามีความคืบหน้าอย่างไร” รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวร.ต.อ.วิษณุกล่าวต่อว่า เรื่องนี้จะไม่ใช่คดีพิเศษเพราะเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของ ตร. ดังนั้น เรื่องการตรวจสอบเรื่องอดีต ผกก.โจ้ถูกทรมานร่างกายใดๆ ในเรือนจำฯ จะเป็นอำนาจการสอบสวนของตำรวจ สน.ประชาชื่น ส่วนคณะอนุกรรมการฯจะติดตามดูเรื่องความคืบหน้าการสอบสวน ตำรวจต้องรายงานผลการดำเนินงานต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ เพื่อแจ้งต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ ถ้าพบว่าเป็นคดีความผิดตามกฎหมายอุ้มหาย การสรุปสำนวนหรือความเห็นทางคดี ต้องแจ้งไปยังอัยการสูงสุดให้ทราบว่าจะแจ้งมาตราใดบ้าง ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่คนใดกระทำผิด เป็นเรื่องการสอบสวนของตำรวจ สน.ประชาชื่น“เบื้องต้นวันนี้ครอบครัวอดีต ผกก.โจ้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ส่วนในวันที่ 17 มี.ค.จะสามารถเห็นรายชื่อของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเรื่องการทำร้ายร่างกายอดีต ผกก.โจ้ภายในเรือนจำหรือไม่ คงต้องรอประชุมก่อน เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่คนสนใจ อย่างไรก็ต้องมีการนำเสนอข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอุ้มหาย” รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การประชุมของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งอธิบดีกรมคุ้มครอง สิทธิและเสรีภาพ เป็นประธาน พร้อมอนุกรรมการ 13 คน จะมีขึ้นวันที่ 17 มี.ค.เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมอาคารกระทรวงยุติธรรมที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เวลา 18.00 น. น.ส.สิภชา หรือทราย แก่นสุวรรณ อายุ 28 ปี แฟน อดีต ผกก.โจ้ เปิดเผยถึงกระแสข่าวมีปากเสียงกันก่อนเสียชีวิตว่า ไม่เป็นความจริง วันนั้นเป็นการพูดคุยกันปกติ คุยกันว่ามีทางใดบ้างที่ทำให้อดีต ผกก.โจ้ ออกมาจากเรือนจำ แต่ถ้าหากสั่งการให้ดำเนินการอะไรสักอย่าง หรือสั่งให้เอาผิดผู้คุมจะวางโทรศัพท์และตะโกนคุยกัน ยืนยันว่าไม่มีทางทะเลาะกับแฟนแน่นอน เพราะตนรักมากๆ ไม่เคยมีความคิดจะเลิกราหรือทิ้ง คิดแต่หาทางช่วยเหลือให้ออกมาจากเรือนจำ“ส่วนเรื่องขอย้ายจากแดน 7 ไปแดน 5 ยังยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตลอดเวลาที่ถูกย้ายไปแดน 5 ในฐานะแฟนรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกครั้งที่เข้าไปเยี่ยมได้พูดคุยกัน ทำให้รู้สึกหดหู่ใจ เพราะแฟนบอกว่าได้กินข้าวกับน้ำแกงเท่านั้น และครอบครัวไม่เคยเห็นหนังสือที่แฟนแจ้งขอย้ายแดนเลยสักครั้ง แฟนถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา จนต้องยอมเซ็นยุติข้อร้องเรียนเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น” น.ส.สิภชา กล่าวน.ส.สิภชาเผยด้วยว่า ยอมรับว่าตั้งแต่อดีต ผกก.โจ้ถูกย้ายไปคุมขังที่แดน 5 ครอบครัววิ่งขอความช่วยเหลือหลายคน ทั้งตำรวจ คนข้างบ้าน รวมทั้งโทร.หานักการเมืองคือ นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคกล้าธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบเรื่องการถูกย้ายแดน ตอนนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการกฎหมายคาดว่าจะได้รับความเป็นธรรม ยืนยันว่าจะเก็บร่างของแฟนไว้จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ตนเชื่อมั่นในกระบวนการ เชื่อมั่นในตัว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และผู้ใหญ่หลายๆคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่