เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเก็บกู้ซากเครื่องบินโดยสารขนาดเล็กร่วงโหม่งพื้น พบเศษชิ้นส่วนเครื่องอยู่ในดินโคลนกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ และเศษชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์รวม 64 ชิ้น เตรียมส่งตรวจอัตลักษณ์บุคคล ยืนยันนักบินและผู้โดยสารเสียชีวิตรวม 9 ศพ “อนุทิน” เผยกัปตันเป็นนักบินชั้นครูมีความชำนาญ เครื่องขัดข้องน่าจะร่อนลงแต่กลับหัวทิ่มดิ่งพื้นเร่งหาสาเหตุ ส่วนผู้เชี่ยวชาญการบินแจง เครื่องบินไม่มีกล่องดำต้องรอเก็บชิ้นส่วนให้มากที่สุด ขณะที่บริษัทเจ้าของเครื่องบินแจ้งเจ้าหน้าที่ยุติการกู้ซากจะเป็นผู้ดำเนินการเองเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารขนาดเล็ก เที่ยวบินที่ TFT209 แบบเครื่อง Cessna caravan C208 ทะเบียน HSSKR ของบริษัท ไทย ฟลายอิ้ง เซอร์วิส จำกัด มีนักบิน 2 คน และผู้โดยสาร 7 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันที่ 22 ส.ค.เวลา 14.46 น. ปลายทางสนามบินเกาะไม้ซี้ (ใกล้เกาะกูด) จ.ตราด เป็นสนามบินส่วนตัวของเครือโรงแรมโซเนวา คีรี เกาะกูด ระหว่างทางเครื่องดิ่งลงบริเวณป่าชายเลนหลังวัดเขาดิน หมู่ 6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่นำรถแบ็กโฮ 2 คัน วิ่งลุยเข้าไปในป่าชายเลนประมาณ 20 เมตรอย่างทุลักทุเล พร้อมขุดดินปรับพื้นที่ทำเป็นคันดินกั้นน้ำล้อมรอบจุดเกิดเหตุ จากนั้นนำเครื่องสูบระบายน้ำ และน้ำมันออกจากบ่อโคลนที่เคลื่อนบินตกเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ตรวจสอบสภาพเครื่องบินส่วนหัวจนถึงห้องโดยสารปักลงในโคลนลึกกว่า 5 เมตร การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะมีพื้นที่จำกัด อุปสรรคที่ผ่านมาคือช่วงเวลาน้ำขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำที่เข้ามาท่วมพื้นที่โดยรอบและหวั่นดินสไลด์ความคืบหน้าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ส.ค. นายชลธี ยังตรง ผวจ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ยืนยันผู้ที่อยู่ในเครื่องบินทั้ง 9 คนเสียชีวิตแล้ว เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 5 ราย คนไทย 4 ราย รวมนักบินและผู้ช่วยนักบิน ประกอบด้วย 1.ด.ญ.ชาง จิง จิง อายุ 12 ปี 2.น.ส.ชาง จิง อายุ 43 ปี 3.น.ส.ทาง ยู อายุ 42 ปี 4.นายยิน จิน แฟง อายุ 45 ปี 5.ด.ญ.ยิน ฮาง อายุ 13 ปี 6.น.ส.นภัค จีระศิริ อายุ 34 ปี ชาว ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 7.น.ส.สิริยุพา อรุณาทิตย์ อายุ 25 ปี ชาว ต.คลองทรายขาว อ.กงหรา จ.พัทลุง 8.นายพรศักดิ์ โตทับ อายุ 30 ปี ผู้ช่วยนักบิน ชาว ต.บางพูน อ.เมืองปทุมธานี และ 9.ร.อ.อนุชา เดชอภิรักษ์ชน อายุ 61 ปี นักบิน ชาว ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ.พิษณุโลกด้าน พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถแบ็กโฮจำนวน 2 คันขุดหลุมจุดที่เครื่องบินตกกว้างประมาณ 8 เมตร ลึก 10 เมตร พร้อมเครื่องสูบน้ำเร่งค้นหาร่างผู้เสียชีวิตตลอดทั้งคืน หลังจากทำแนวคันดินกันน้ำที่เป็นช่วงน้ำขึ้นยังมีน้ำซึมลงหลุมตลอดเวลา เมื่อขุดลึกลงไปเรื่อยๆ เริ่มพบชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ทีละชิ้นสองชิ้น มีทั้งชิ้นใหญ่และเล็ก เช่น มือ ข้อมือ ข้อเท้า เศษชิ้นเนื้อ แขน ขา ข้อมือ นิ้วมือ หรือช่วงบริเวณลำตัวที่ขาดออกจากแรงระเบิด ขณะนี้ยังไม่สามารถแยกเพศหรือบุคคล เจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนที่อยู่ในโคลนขึ้นมารวบรวมไว้ที่สำนักงาน อบต.เขาดิน เตรียมส่งแยกอัตลักษณ์บุคคลเพื่อพิสูจน์ทราบต่อไป ตั้งแต่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาซากกว่า 11 ชม. ก่อนจะยุติช่วง 02.00 น. วันที่ 23 ส.ค.ส่วนนายพันธุ์ธิษณ์ กุลสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัยการบิน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า อุปสรรคการค้นหาคือ สภาพจุดเครื่องบินตกเป็นดินโคลนยากต่อการค้นหา ดินโคลนสไลด์ตัวตลอดเวลาต้องทำงานอย่างระมัดระวัง เบื้องต้นพบซากชิ้นส่วนเครื่องบินจมอยู่ใต้โคลนในความลึก 2-3 เมตร ส่วนลักษณะการเกิดเหตุ ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านพูดตรงกันว่าเครื่องตกในลักษณะแนวดิ่ง ในจุดนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นอย่างที่ชาวบ้านบอกหรือไม่ ส่วนที่กระแสข่าวเรื่องของการพบกล่องดำ ยืนยันว่า เครื่องบินไม่มีกล่องดำ ส่วนภรรยานายพรศักดิ์ โตทับ ผู้ช่วยนักบิน เดินทางมาดูจุดเกิดเหตุ ร่ำไห้ เปิดเผยว่า สามีเป็นนักบินมาแล้ว 3 ปี ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สามีทำหน้าที่ดีที่สุดแล้วและไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเยอะแบบนี้ วันนี้อยากจะมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านตามความเชื่อต่อมาเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ อบต.เขาดิน ประสานกับนายภราดร ศุภผล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 19 ต.บางปะกง นำรถดินเข้ามาถมเพื่อทำทางเข้าไปที่เกิดเหตุ เพื่อความสะดวกในการทำงานและเคลื่อนย้ายซากเครื่องบิน ส่วน พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผบก.ศพฐ.2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กับทีมค้นหาของอาสาหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบชิ้นเนื้อที่พบเพิ่มเติมจำนวน 4 ชิ้น มีขนาดใหญ่และเล็ก เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค.พบชิ้นส่วนทั้งหมด 60 ชิ้น และรวมกับวันนี้อีก 4 ชิ้น รวมเป็น 64 ชิ้น นอกจากนี้นำโดรนบินสำรวจท้องนาข้างจุดเกิดเหตุไม่พบชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นเพียงเศษกิ่งไม้ที่กระจายมาจากแรงระเบิดของเครื่องบิน ส่วนในจุดตกของเครื่องบินสูบน้ำจนแห้ง เกิดดินโคลนสไลด์ลงไปในหลุมอย่างต่อเนื่อง เป็นอุปสรรคต่อการกู้ซากเครื่องบินต่อมาเวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงษ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบินสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การค้นหาซากเครื่องบิน ผู้โดยสารและนักบินที่ตกในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายอนุทินเดินสำรวจจุดเครื่องบินพุ่งลงดินโคลนและตรวจดูเศษซากเครื่องบินนายอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดเผยว่า ขณะนี้พบชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว แต่ยังไม่ครบ และยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นชิ้นส่วนใคร รวมถึงชิ้นส่วนเครื่องบิน ส่วนสาเหตุต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์ และเชื่อว่าจะสามารถสรุปได้ ต้องขอความร่วมมือไปที่ FAA ด้วย เพราะเป็นผู้ผลิตเครื่องบินลำดังกล่าวของสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะส่งตัวแทนมาช่วยพิสูจน์หาสาเหตุ ชิ้นส่วนเครื่องบินส่วนใหญ่แหลกละเอียด ทั้งนี้กู้ซากเครืองบินมาได้ 40 เปอร์เซ็นต์ ต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าทำไมเครื่องถึงตกมาลักษณะนี้ เพราะเครื่องบินขัดข้องต้องร่อน แต่หัวทิ่มลงพื้น เครื่องบินขนาดเล็กไม่มีกล่องดำ ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญการบินสงสัยว่าทำไมไม่ร่อนลง แต่ชาวบ้านบอกว่าได้ยินเสียงเครื่องยนต์ดังมาก แล้วตกกระแทกพื้นเท่ากับเครื่องยนต์ยังทำงานอยู่ ดังนั้น ต้องหาสาเหตุว่าชิ้นส่วนใดชำรุดบกพร่องนายอนุทินเปิดเผยอีกว่า เครื่องบินลำนี้ขออนุญาตบินไว้ที่ความสูง 5,000 ฟิต หรือ 1.5 กม.จากพื้นดิน เพราะเป็นเครื่องใบพัดเล็กไต่สูงมากไม่ได้ ระยะนี้เพียงพอสำหรับการร่อนลง ดังนั้นคงต้องดูหลายอย่างว่าทำไมขาดการทรงตัว บังคับไม่ได้ ความเร็วสุดท้ายน่าจะ 70-80 กม.ต่อ ชม. กัปตันเป็นนักบินชั้นครูต้องทราบลักษณะภูมิประเทศอยู่แล้ว รวมถึงทำการบินทุกวันด้วย สภาพของเครื่องบินใช้คำว่าเก่าไม่ได้ เพราะเครื่องบินจะวัดจากการบำรุงรักษา เมื่อชิ้นส่วนไหนครบระยะเวลาใช้งานก็ต้องเปลี่ยนตามกำหนด ส่วนกรณีที่เจอยาในกระเป๋าของกัปตันนั้น คงต้องส่งไปให้หมอตรวจสอบเช่นกันว่าเป็นยาอะไรนายพงษ์เทพ ศิริสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านการปฏิบัติการบินเครื่องบินสำนักงานคณะกรรมการสอบสวนกรณีอันเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยานในราชอาณาจักร (AAIC) เปิดเผยว่า ขณะนี้เก็บกู้ เศษซากเครื่องบินลำที่เกิดเหตุได้แล้วกว่า 33เปอร์เซ็นต์ ต้องรอการเก็บกู้ให้ครบหรือให้ได้ชิ้นส่วนมากที่สุด เนื่องจากเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องบินขนาดเล็กไม่มีกล่องดำ มีเพียงกล่องสำหรับการป้อนข้อมูล อีกทั้งไม่มีพยานบุคคลที่รอดชีวิตจากเหตุที่เกิดขึ้น จึงต้องอาศัยพยานวัตถุและพยานแวดล้อม รวมถึงประวัติการซ่อมบำรุงของเครื่องบินลำดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีบุคคลในพื้นที่มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด คำให้การจากผู้เห็นเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องสามารถแจ้งได้ที่ AAIC หรือ ติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 08-6888-9777 และขอความร่วมมือชาวบ้านหากพบเห็นชิ้นส่วนเครื่องบินแจ้งที่ศูนย์อำนวยการเหตุการณ์ ณ บริเวณพื้นที่เกิดเหตุ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรนำไปเก็บไว้ เพราะมีความผิดตามกฎหมายล่าสุดเวลา 15.00 น. ตัวแทนบริษัทไทยฟลายอิ้ง เซอร์วิส จำกัด เจ้าของเครื่องบินแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะเป็นผู้ดำเนินการเก็บกู้เศษชิ้นส่วนเครื่องบินที่เหลือเองทั้งหมด หากพบเศษชิ้นส่วนมนุษย์หรือหลักฐานเพิ่มเติมจะส่งให้เจ้าหน้าที่ทันที ส่วนชิ้นส่วนเครื่องที่เก็บก่อนหน้านี้จะรวบรวมไว้ที่อาคารอเนกประสงค์ อบต.เขาดิน จากนั้นอาสากู้ภัยและเจ้าหน้าที่สั่งถอนกำลังทั้งหมดอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่