“คิวพี” ดาราละครซีรีส์คอตกเข้าให้ปากคำเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่าและตำรวจ หลังขับเจ็ตสกีชนเรือข้ามฟากตาย 2 ศพ เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาไม่มีใบนายท้ายเรือปรับ 10,000 บาท ส่วนความผิดประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต้องรอสอบหลักฐานเพิ่มก่อนเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง เจ้าตัวยอมรับประมาทเองและไม่รู้ว่าแม่น้ำเจ้าพระยาย่านพระประแดงมีเรือข้ามฟาก ปกติขับอยู่ในบึงปิด เอ่ยปากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต และอยากบวชอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ตาย เข็ดจากนี้จะไม่ขับเจ็ตสกีอีกจากอุบัติเหตุนายชินดนัย หรือคิวพี แซ่ลิ้ม อายุ 21 ปี นักแสดงหนุ่มจากละครซีรีส์เรื่อง “วุ่นรักนักบิด” ขับเจ็ตสกีพุ่งชนเรือข้ามฟากกลางแม่น้ำเจ้าพระยาระหว่างท่าน้ำพระราม 3 ไปท่าน้ำฝั่ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นเหตุให้นายประยูร อ่วมปทุม อายุ 64 ปี คนขับเรือ และ น.ส.การิฉัจ หอยมั่น อายุ 44 ปี ผู้โดยสารกระเด็นตกน้ำเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดค่ำวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุสังคมตั้งคำถามถึงมาตรการการควบคุมเจ็ตสกีวิ่งกันเกลื่อนลำน้ำเจ้าพระยา หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 9 ส.ค. นายชินดนัย หรือคิวพี แซ่ลิ้ม นักแสดงซีรีส์ดัง เข้าให้ปากคำกับเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ คิวพีแต่งกายด้วยเสื้อยืดสีขาว สวมหมวกแก็ปสีดำ ใส่แมสก์ปกปิดใบหน้า สีหน้าเคร่งเครียด มีพ่อและลุงที่เป็นเจ้าของเจ็ตสกีลำที่เกิดเหตุเดินทางมาเป็นเพื่อนด้วย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงอยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ คิวพีเอาแต่ก้มหน้าไม่ตอบคำถามใดๆ และเดินขึ้นไปชั้น 2 เข้าพบนายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ทั้งนี้ ระหว่างให้ปากคำกับเจ้าพนักงานเจ้าท่าคิวพีและพ่ออยู่ในอาการเครียด บางช่วงพ่อต้องกุมมือลูกชายไว้ ส่วนลุงถูกแยกสอบสวนคนละห้องนายฉัตรชัย เวชสาร ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ เปิดเผยว่า วันนี้เรียกสอบทั้งตัวเจ้าของเรือและคิวพีถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานกรมเจ้าท่า รวมทั้งให้ทั้งสองคนนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับใบทะเบียนเจ็ตสกีและประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ที่เปรียบเสมือนใบขับขี่รถมาแสดงต่อเจ้าพนักงานด้วย เนื่องจากผู้ขับขี่เรือได้จะต้องมีประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือหรือใบนายท้าย ตอนนี้ยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่านายคิวพีมีใบนายท้ายตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่ แต่หากไม่มีก็จะมีความผิดตามกฎหมาย เจ้าพนักงานก็จะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ต่อไป ฐานไม่มีใบท้ายเรือตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทยพุทธศักราช 2456 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับตั้งแต่ 1,000 บาท ถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ เข้าหารือกับเจ้าพนักงานเจ้าท่าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรปราการ เพื่อหาข้อสรุปว่าตำรวจท้องที่ใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากอุบัติเหตุเกิดขึ้นกลางแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่แน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ สภ.พระประแดง หรือ สน.บางคอแหลม กทม. ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประภาส เปิดเผยว่า สำหรับข้อสรุปด้านท้องที่ให้ สภ.พระประแดง เป็นผู้รับผิดชอบสอบสวนคดีเจ็ตสกีชนเรือชาวบ้านตาย 2 ศพ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆกับคนขับเจ็ตสกี เนื่องจากต้องรอข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานเจ้าท่าสอบปากคำคนขับเจ็ตสกีก่อน จากนั้นค่อยนำมาพิจารณาแจ้งข้อหาต่อไป“เหตุที่ยังไม่แจ้งข้อหาเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา แตกต่างจากอุบัติเหตุตามท้องถนน ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือวิเคราะห์พยานหลักฐานต่างๆ ถ้ากรมเจ้าท่าสอบสวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นก็จะให้มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในฐานะผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำมาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหา และช่วงบ่ายวันนี้ตำรวจได้เรียกคิวพีไปให้การเพื่อแจ้งข้อหาฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมในคดีนี้อย่างแน่นอน” รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการกล่าวต่อมาช่วงเย็น นายคิวพีพร้อมพ่อและลุงเจ้าของเจ็ตสกีคันเกิดเหตุเดินทางไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง ทั้งนี้ พ่อของคิวพีเปิดเผยสั้นๆว่า หลังจากให้ปากคำตำรวจเสร็จแล้ว ตนและลูกชายจะไปงานศพผู้เสียชีวิต ตนขอโทษผู้เสียชีวิตแทนลูกด้วย ยืนยันรับผิดชอบทุกอย่าง จากนั้นคิวพีเข้าให้การต่อ พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จ.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ประเสริฐสุข เฮงสุวรรณ์ ผกก.สภ.พระประแดง และ พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ สว. (สอบสวน) สภ.พระประแดง พร้อมรับสารภาพหลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายชินดนัย ความผิด พ.ร.บ.การเดินเรือน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 ฐานไม่มีใบประกาศหรือใบอนุญาตการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ใบนายท้ายเรือ) มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 1,000 บาท จนถึง 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าปรับเงิน 10,000 บาท ส่วนเจ็ตสกีเป็นเรือที่ได้รับอนุญาตมีทะเบียนถูกต้อง อีกทั้งอยู่ระหว่างรอแจ้งข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่เจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบเรือที่เกิดเหตุทั้ง 2 ลำว่าเป็นความประมาทจริงหรือไม่ จากนั้นจะแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับคิวพีต่อไปด้านนายชินดนัย หรือคิวพี เปิดเผยว่า อยากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ตนไม่ได้มีเจตนาหรือความตั้งใจให้เกิดเหตุแบบนี้ และตั้งใจอยากจะบวชอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต พร้อมเยียวยาทุกอย่าง ปกติไม่ค่อยได้ขับเจ็ตสกีมาเล่นในพื้นที่พระประแดง ส่วนใหญ่ขับอยู่ในบึงปิด วันเกิดเหตุไม่ทราบว่ามีการเดินเรือข้ามฟาก ยอมรับว่ามองไม่เห็นเรือ หลังจากนี้คิดว่าจะไม่ขับเจ็ตสกีอีกแล้ว ตั้งใจจะเลิกขับ จากนี้จะไปร่วมพิธีศพผู้เสียชีวิต 2 ราย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าเกิดจากความประมาท รวมถึงอยากฝากถึงผู้ที่ขับเจ็ตสกีว่าอย่าขับในเวลากลางคืนอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่