หากคิดว่าสิ่งมีชีวิตที่มีจีโนมหรือข้อมูลทางพันธุกรรมที่ใหญ่ที่สุด คือวาฬสีน้ำเงิน ช้างแอฟริกา ต้นเรดวูดยักษ์ หรือแม้แต่มนุษย์ คงต้องกลับความคิดใหม่ เพราะเมื่อเร็วๆนี้ ทีมวิจัยนำโดยนักชีววิทยาวิวัฒนาการจากสถาบันพฤกษศาสตร์แห่งนครบาร์เซโลนา ในสเปน เผยแพร่ลงวารสารไอไซนเอนซ์ (iScience) ระบุว่าสิ่งมีชีวิตที่มีจีโนมใหญ่ที่สุดคือ “เฟิร์น” สายพันธุ์เล็ก ที่เติบโตในนิวคาลิโดเนีย ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากออสเตรเลียไปทางตะวันออกราว 1,200 กิโลเมตร การวิจัยใหม่ชี้ว่าเฟิร์นสายพันธุ์ Tmesip teris oblanceolata มีจีโนมขนาดใหญ่กว่าจีโนมของพืชดอก Paris japonica ของญี่ปุ่น ที่ครองสถิติเดิมถึง 7% และมีขนาดใหญ่กว่าจีโนมของมนุษย์ถึง 50 เท่า ความยาวของสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอในแต่ละเซลล์ของเฟิร์น Tmesipteris oblanceolata นั้นยาวเกือบ 106 เมตร ถือว่าสูงกว่าเทพีเสรีภาพในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ สูงกว่าหอนาฬิกาบิ๊กเบน ในกรุงลอนดอน อังกฤษ หรือสูงกว่าทัชมาฮาล ในอินเดีย ขณะที่จีโนมของมนุษย์ดูจะยาวเพียง 2 เมตร นักวิจัยระบุว่าเป็นเฟิร์นในวงศ์ที่มีวิวัฒนาการแยกออกจากเฟิร์นชนิดอื่นเมื่อช่วง 350 ล้านปีก่อน หรือประมาณ 120 ล้านปีก่อนที่ไดโนเสาร์จะถือกำเนิด เฟิร์น Tmesipteris oblanc eolata เติบโตบนพื้นดินเป็นหลัก หรือบนลำต้นไม้ที่ล้ม ในนิวคาลิโดเนีย และบนเกาะใกล้เคียง เช่น วานูอาตู ลำต้นสูง 10-15 เซนติเมตร ไม่ได้สวยเด่นสะดุดตา นักวิจัยเผยว่าการมีจีโนมขนาดใหญ่ไม่ถือว่ามีประโยชน์ ไม่ใช่ข้อได้เปรียบทางวิวัฒนาการ แต่เป็นเพราะว่าตลอดมาเฟิร์นชนิดนี้ไม่สามารถกำจัดลำดับดีเอ็นเอที่ไม่ทำงานหรือซ้ำซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเหตุผลบางอย่างและนักวิจัยยังไม่รู้นั่นเอง. อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่