“ว่าว” เป็นของเล่นชนิดหนึ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อให้ลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยแรงลมและมีสายป่านคอยบังคับให้ลอยอยู่ในทิศทางที่ต้องการ การประดิษฐ์ว่าวมีหลากหลายรูปแบบตามวัฒนธรรมของแต่ละประเทศว่าวของไทยที่ทำขึ้นเล่นกันมี 4 ชนิดด้วยกัน คือ ว่าวอีลุม ว่าวปักเป้า ว่าวจุฬา และว่าวตุ๋ยตุ่ย หรือดุ๊ยดุ่ยซึ่ง ว่าวดุ๊ยดุ่ย นี้ จะแปลกและสนุกกว่าว่าวชนิดอื่นตรงที่เมื่อขึ้นสู่บนท้องฟ้าแล้ว ตัวว่าวจะมีเสียงที่เกิดจากไม้ไผ่โค้งงอบนตัวว่าวกระทบกับสายลม ทำให้เกิดเสียงดังตุ่ยๆ หรือดุ่ยๆ หรืออูดๆ แล้วแต่จะได้ยินกัน จึงเป็นที่มาของชื่อว่าว่าว “ตุ๋ยตุ่ย” หรือ “ดุ๊ยดุ่ย”เมื่อเร็วๆนี้ อบต.หนองโสน อ.เมือง จ.ตราด จัดงานวิ่งว่าว “ดุ๊ยดุ่ย” ท้าลมหนาว สืบสานประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้าน อนุรักษ์การละเล่นว่าวไทย ที่ทุ่งนาพรงลำบิด ต.หนองโสน มี นายชัยพัฒน์ มนต์ประสิทธิ์ นายก อบต.หนองโสน เปิดงานนายวัฒนา อานามวงษ์ ประธานสภาวัฒนธรรม ต.หนองโสน กล่าวว่า คนตราดเรียกว่า “ว่าวอูด” เนื่องจากจะมี “อูด” ที่ทำจากไม้ไผ่โค้งงอมีลักษณะคล้ายคันธนู ผูกเชือกติดแผ่นหวายบางๆ มัดติดอยู่ที่หัวว่าวเมื่อทำการชักว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว แผ่นหวายบางๆที่อูดจะถูกลมพัดหมุนจนมีเสียงดังฟังไพเราะ เสียงดังดุ๊ยดุ่ยๆ จนทำให้คนส่วนใหญ่เรียกว่าวชนิดนี้ว่า ว่าวดุ๊ยดุ่ยปัจจุบันการละเล่นวิ่งว่าว เริ่มหาดูชมได้ยากแล้ว แล้วเด็กๆรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักจะให้ความสนใจไปในโลกอินเตอร์เน็ต ไม่ค่อยรู้จักการละเล่นวิ่งว่าวเหล่านี้มากนัก อบต.หนองโสน จึงเร่งส่งเสริมและอนุรักษ์ เพื่อให้ว่าวอยู่คู่สังคมไทยสำหรับการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้จัดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ทาง อบต.หนองโสน ต้อง การยกระดับงานใหญ่ขึ้นสู่ระดับจังหวัด เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ที่สำคัญนำความรู้ในการทำว่าวไทยถ่ายทอดให้กับน้องๆเด็กนักเรียนของโรงเรียนวัดไทรทอง ให้มีความรู้และสามารถทำว่าวเล่นได้เองอีกด้วยซึ่งบรรยากาศในงานก็เป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะน้องนักเรียนต่างสนุกไปกับการทำว่าว โดยว่าวที่นักเรียนทำขึ้นมา เมื่อนำมาทดลองชักว่าว ก็มีทั้งขึ้นและไม่ขึ้น ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับนักเรียนทุกคนด้วย ท่ามกลางลมแรงและอากาศที่หนาวเย็นที่มีอุณหภูมิ 22–25 องศา.ชวลิต คชรักษ์ รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ "มองทั่วทิศเมืองไทย" เพิ่มเติม