สะท้อนความรู้สึกสลดหดหู่กับการตายของนักเรียนชายชั้น ม.3 โรงเรียนย่านปากเกร็ด ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์หลอกระดมเงินจนหาทางออกไม่ได้ กระทั่ง “คิดสั้น” ผูกคอลาโลก“ถ้าผมตายไปแล้วให้เข้าไปดูในไลน์แล้วจับคนร้ายให้ได้ ดันให้เป็นข่าวถึงที่สุด” เจ้าตัวระบาย “คนแบบนี้มีเยอะเกินไป ขอให้เคสผมเป็นเคสที่บอกเด็กเป็นอุทาหรณ์นะครับ”ทิ้งจดหมายขอโทษแม่ที่แอบขโมยเงินไปลงทุน เพราะความโลภของตัวเองอยู่ไปคงไม่ได้มีอะไรดีขึ้นหลังจากโศกนาฏกรรมครอบครัวขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. รับปากจะทำตาม “คำสั่งเสีย” ของเหยื่อ ม.3 ก่อนมอบหมาย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. เป็น “แม่งาน” นำกำลัง พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. แกะรอยล่าใช้เวลาเพียง 2 วันปิดแฟ้มคดี เมื่อประสานข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สืบสวนจนพบเส้นทางการเงินของเครือข่ายคนร้ายที่หลอกเด็ก นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ 9 ราย มีทั้งแอดมินเพจ คนกดเงิน และกลุ่มรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารสร้างแรงจูงใจเกี่ยวกับรายได้ที่มีผลประโยชน์ตอบแทนสูง หว่านล้อมจนเด็กหลงกลโอนเงินเข้าบัญชีม้า แล้วหมุนผ่านสกุลเงินดิจิทัลไปยังขบวนการที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน มีการกดเงินหรือแลกเงินออกมาอีกทอดใช้เวลาทำธุรกรรมฉ้อฉลแต่ละชั้นเพียง 39 วินาที“คนแบบนี้มีเยอะเกินไป” ประโยคลาของเด็กยังคงติดตาเสมือน “คำสั่งเสีย” ที่ตำรวจต้องกวาดล้างอย่างจริงจังอย่าให้สุจริตชนตกเป็นเหยื่ออำมหิตเลือดเย็นอีก.สหบาท