ศปถ.กำชับเข้มงวดพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว ดูแลความปลอดภัยในการเดินทางต่อเนื่อง เผยยอดอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 2,197 ราย เสียชีวิต 282 ราย ผู้ช่วย ผบ.ตร.เผยสถิติ 6 วันอันตราย มีแนวโน้มลดลงในทุกมิติ กำชับทุกหน่วยเร่งอำนวยความสะดวกการจราจร ลดการสูญเสียในช่วงเทศกาลปีใหม่วันสุดท้าย ในช่วง 7 วันอันตราย ขอบคุณตำรวจทุกนายที่เสียสละ และทุ่มเทสรรพกำลังดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนช่วงปีใหม่ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 4 ม.ค.นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 กรมและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 3 ม.ค. ที่เป็นวันที่หกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 239 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 259 คน เสียชีวิต 15 รายนายโชตินรินทร์เผยอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือช่วงเวลา 18.01-19.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 40-49 ปี เจ้าหน้าที่ได้เรียกตรวจยานพาหนะ 365,238 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 54,629 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 15,873 ราย ไม่มีใบขับขี่ 15,494 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 7,384 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (12 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ฉะเชิงเทราและภูเก็ต (จังหวัดละ 2ราย)รองปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวต่อว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (29 ธ.ค.65-3 ม.ค.66) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,201 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,197 คน ผู้เสียชีวิตรวม 282 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ นครศรีธรรมราช (76 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (81 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (13 ราย) กรุงเทพมหานครและปทุมธานี (จังหวัดละ 11 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 6 จังหวัด ได้แก่ นราธิวาส บึงกาฬ พังงา ยะลา สตูล และสุโขทัย สถิติในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบว่าการขับเร็วเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน มีอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจึงได้กำชับจังหวัดและกรุงเทพมหานครเข้มงวดผู้ขับขี่ที่ขับรถด้วยความเร็วสูง เพื่อควบคุมการใช้ความเร็วที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงอีกด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยถึงข้อมูลสถิติอุบัติเหตุและการบังคับใช้ กฎหมายเทศกาลปีใหม่ 2566 ประจำวันที่ 3 ม.ค. (วันที่ 6 ของการควบคุมเข้มข้น) ในภาพรวมสามารถลดสถิติอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี มากกว่าร้อยละ 5 ถือว่า 6 วันที่ผ่านมา สำเร็จตามเป้าหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก รวม 6 วัน 441,288 ราย ข้อหาสำคัญ ได้แก่ เมาแล้วขับ 20,040 ราย ขับรถ เร็วเกินกำหนด 168,454 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 87,191 ราย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 24,612 ราย ผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวมทั้งประเทศ ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีใหม่ 2565 และยังอยู่ในเกณฑ์เป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า ปีนี้แม้จะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนามากกว่าปีก่อนๆ ส่งผลให้ปริมาณรถมีจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแล จัดการจราจร อำนวยความสะดวก ความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดีมีประสิทธิภาพ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ ทุ่มเทสรรพกำลังเสียสละร่วมกันดูแลและจัดการจราจร เพื่อให้เทศกาลปีใหม่ 2566 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ใช้มาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุในพื้นที่จนเกิดผลสัมฤทธิ์ได้รับคำชมเชยจากหลายภาคส่วนส่วนการเดินทางกลับเข้า กทม.ของประชาชนในวันที่ 3 ม.ค.66 ที่ยังมีประชาชนส่วนหนึ่งเดินทางตามถนนสายต่างๆอย่างหนาแน่น โดยการจราจรบนถนนพหลโยธิน ค่ำวันที่ 3 ม.ค. มีประชาชนยังเดินทางอย่างต่อเนื่อง มีรถจากถนนมิตรภาพและรถจากทาง จ.เพชรบูรณ์ และรถบางส่วนที่หนีมาจากถนนสายเอเชียจึงส่งผลทำให้ถนนพหลโยธินที่มุ่งหน้าเข้า กทม. ช่วงจากตัวเมืองสระบุรี สู่ อ.หนองแค รถทำความเร็วได้ 30-40 กม.ติดต่อเนื่องยาวเหยียดร่วม 5 กม. ส่วนที่ถนนมิตรภาพจาก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ผ่าน อ.แก่งคอย รถวิ่งทำความเร็วต่อเนื่อง 40-50 กม.ต่อชั่วโมง มีชะลอตัวทางเนินเขาจันทร์ ทางลงเนินวัดชับบอนและเนินเขาทับกวางสำหรับบรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ ที่ อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ยังคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เกาะพะงัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก แห่กันมาต่อคิวลงเรือของบริษัทเรือเร็วลมพระยาที่ท่าเทียบเรือบ้านหน้าทอน อ.เกาะสมุย เดินทางไปยังเกาะพะงันและเกาะเต่า โดยที่เกาะพะงันมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมากเป็นพิเศษในช่วงนี้เนื่องใกล้จะถึงงานฟูลมูนปาร์ตี้ ที่ชมรมผู้ประกอบการหาดริ้นจัดทุกวันขึ้น 15 ค่ำทุกเดือน ในเดือนนี้ตรงกับวันที่ 6 ม.ค. ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางไปยังเกาะพะงันกันเป็นจำนวนมากนายกิตติสตีเว่น ธาระพุทธิ ผู้จัดการทั่วไปบริษัทเรือเร็วลมพระยา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส ต่อเนื่องช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาจนถึงช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาเกาะสมุย เกาะพะงันและเกาะเต่า อย่างต่อเนื่อง แต่ละวันบริษัทให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากเกาะสมุยไปเกาะพะงัน จำนวน 7 เที่ยวต่อวันทั้งไปและกลับ ให้บริการไปเกาะเต่า 3 เที่ยวต่อวันทั้งไปและกลับ ทำให้โรงแรมที่พักบนเกาะพะงันถูกจองจนเกือบจะเต็มแล้วในช่วงนี้