นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการที่คณะผู้แทนอีโคโมสสากล ซึ่งเป็นผู้แทนจากองค์การยูเนสโกได้เดินทางมาตรวจประเมินศักยภาพของเมืองโบราณศรีเทพ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อเสนอเป็นมรดกโลกตามที่ประเทศไทยได้ส่งเอกสารการขอขึ้นทะเบียน สำหรับการลงพื้นที่ดังกล่าวได้มีคณะจากอีโคโมสของไทย ที่ได้มีโอกาสลงพื้นที่ร่วมประเมินศักยภาพแหล่งมรดกโลกแหล่งอื่น เช่น อินโดนีเซีย อินเดีย จึงมีความคุ้นเคยและมิตรภาพกับนานาประเทศ โดยได้ชี้แจงข้อมูลนอกเหนือจากเอกสารที่ส่งไป พร้อมนำชมแหล่งโบราณสถานที่เสนอขึ้นทะเบียนทั้ง 3 พื้นที่ ได้แก่ เมืองโบราณศรีเทพ ที่มีกำแพงเมืองก่อด้วยดินล้อมรอบ คูเมืองนอกกำแพง รวมถึงปรางค์สมัยลพบุรี พื้นที่เข้าคลองนอกที่เป็นมหาสถูปก่อด้วยศิลาแลง รวมถึงถ้ำเขาถมอรัตน์ ที่เป็นศาสนสถานหินปูนธรรมชาติที่มีประติมากรรมสลักนูนต่ำรวมถึงพระพุทธรูปปางต่างๆนายกิตติพันธ์กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่ของคณะผู้แทนยูเนสโกครั้งนี้ จึงเชื่อว่าจะมีผลตอบรับที่ดี เนื่องจากได้นำเสนอข้อมูลครอบคลุมทุกด้าน อย่างไรก็ตาม คณะได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับประเด็นการปกป้องคุ้มครองพื้นที่โบราณสถาน และพื้นที่กันชน ตลอดจนการดำเนินการบริหารจัดการเมื่อมีการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยเฉพาะความร่วมมือของคนในท้องถิ่น แนวทางการพัฒนาพื้นที่และกฎหมายของท้องถิ่น ในการกำกับดูแล พร้อมย้ำถึงการบูรณาการและการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ โดยหลังจากนี้ ผู้แทนจากอีโคโมสสากลไปสรุปผลการลงพื้นที่เสนอต่อศูนย์มรดกโลกเพื่อเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการมรดกโลก คาดว่าจะทันเข้าสู่การบรรจุเข้าวาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่จะมีการประชุมช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.ปี 2566.