คดีอุกฉกรรจ์สะท้านเมืองระยองที่ผ่านมาหนีไม่พ้นคดีมือปืนโหดบุกยิงนักการเมืองชื่อดังอย่างอุกอาจคาปั๊มน้ำมันภายในซอยอำนวยทรัพย์ปิโตเลี่ยม เลขที่ 111 หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 15 ส.ค.หลังเกิดเหตุ ชาวระยองวิจารณ์กันให้แซดว่า มันมาจากสาเหตุทางการเมือง?!เนื่องจากผู้เสียชีวิต นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง เริ่มสยายปีกมีผู้สนับสนุนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น จนมีที่นั่งในองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองจำนวนมาก แถมกำลังจะลงสมัคร ส.ส.สนามใหญ่ชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เริ่มสืบสวนพบภาพวงจรปิดเห็นคนร้ายเป็นชายสูงอายุ ผมขาว สวมเสื้อยืด รองเท้าแตะ เหมือนชาวบ้านธรรมดา เดินมาก่อเหตุอย่างใจเย็น แล้วขี่รถ จยย.เก่าๆออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น?!ตัวละครเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง พยานหลักฐานหนาพอออกหมายจับ ความหนักใจเริ่มบังเกิดเพราะเกี่ยวพันไปถึงบ้านใหญ่!ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา “ผู้การจ๋อ” รีบขอคำปรึกษาจาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. มือปราบผู้คร่ำหวอดรบกับผู้มีอิทธิพลมานักต่อนัก ตั้งแต่สมัยอยู่กองปราบปรามคำสั่งการชัดเจน ให้ทุกอย่างเป็นไปตามพยานหลักฐาน และมีข้อแนะนำให้ใช้เทคนิค ขอโอนคดีเข้ามาให้กองปราบปรามสอบสวน ตัดปัญหาข่าวรั่ว?ผลการทำงานร่วมจับกุมผู้ต้องหามาแล้ว 3 คนคือ นายปิติ นิชรัตน์ อายุ 54 ปี มือปืน นายนิติพนธ์ หรือแบน ฉ่ำชื่น อายุ 57 ปี คนชี้เป้า นายเสถียร บุญกล้า อายุ 52 ปี คนขับรถ “นายกช้าง” นายก อบจ.ระยอง ขอหมายค้นบ้านพบปืน .38 อาวุธสังหาร ตรวจยืนยันจาก พฐ.เรียบร้อยเหลือ นายชัชชาย หรือขาว ปาตมิตร อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคนสุดท้ายที่ถูกออกหมายจับ ถึงจะเห็นหน้าเห็นหลังว่า หลักฐานพอออกหมายจับผู้อยู่บนสุดของห่วงโซ่ทีมสังหารหรือไม่?คดีนี้เป็นตัวอย่างของการคลี่คลายคดีอิทธิพลถ้าลูกน้องทำงานดี มีเจ้านายใจถึง ไม่ปอดแหก ความสำเร็จมันอยู่ไม่ไกล?สหบาท